จาก หมอปัญญา
อังคารที่ , 20/2/2550
เวลา : 13:10
อ่าน = 1225
58.136.18.34
|
[b]โครงการผลิตครู(ชาวเขา)สู่บ้านเกิด[/b]
ผู้ประสานงานโครงการ ทันตแพทย์ปัญญา ยศไพบูลย์
ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโครงการทันตกรรมเคลื่อนที่ฯ
และสมาคมนิสิตเก่าทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
ติดต่อได้ที่ โทร ศัพท์ 0-2390-0371 ,0-2390-1709
มือถือ 081-874-4895
e-mail : panyadental@hotmail.com
จากการที่ผู้เขียนได้มีประสบการณ์ร่วมคณะอาสาสมัครทันตแพทย์ไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานในโครงการทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อประชาชนด้อยโอกาสในท้องถิ่นทุรกันดาร(เขตภูเขา) มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ในปี พ.ศ.2549 ซึ่งโครงการในปีแรกที่ดำเนินงานต่อเนื่องตลอดเวลา 8 เดือนตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2548 ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2549 โดยทันตแพทย์อาสาสมัครจำนวน 151 คนพร้อมด้วยคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการ ผู้ช่วยทันตแพทย์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ โดยความร่วมมือของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนชุมชนชาวเขา สหพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ณ จุดปฏิบัติงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้บริเวณโรงเรียนชุมชนชาวเขา เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับครูที่สอนนักเรียนชาวเขา ที่หมู่บ้านหนองอึ่งใต้ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่(tripอมก๋อย1) ซึ่งทั้งหมดเป็นครูที่มาจากจังหวัดอื่นๆในภาคอิสาน ไม่มีครูที่มาจากคนในพื้นที่เลย ได้รับแจ้งจากครูว่า มีนักเรียนที่มีสติปัญญาดีบางคน มีความสามารถ มีผลการเรียนดี น่าจะได้รับการส่งเสริม สนับสนุนให้เรียนต่อ แต่ด้วยขาดโอกาส และเงินทุนในการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาและปริญญาตรี ทำให้ขาดโอกาสในการเรียนต่อ จึงเป็นการยากที่จะมีครูที่เรียนจบปริญญาตรีมาเป็นครูสอนนักเรียนในภูมิลำเนาบ้านเกิดของตนเองได้
ผู้เขียนได้รับทราบถึงโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า มีทุนการกุศลสมเด็จย่า ที่สนับสนุนนักเรียนชาวเขาให้มาเรียนในสาขาแพทยศาสตร์ หรือสาธารณสุขศาสตร์ โดยความสนับสนุนด้านการเงินจากบริษัท Bangkok Nursing Home ซึ่งกำหนดสาขาไว้ชัดเจนว่าเป็นด้านการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังไม่มีทุนการศึกษาสำหรับสาขาอื่นๆ และพบปัญหาว่านักเรียนทุนที่รับไว้แล้วในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เมื่อถึงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่สามารถสอบเข้าเรียนในสาขาแพทยศาสตร์ หรือสาธารณสุขได้ นักเรียนเหล่านี้จะพ้นจากความสนับสนุนส่งเสริมให้เรียนต่อในสาขาอื่นๆซึ่งมีโอกาสสอบได้มากกว่า จึงได้ปรึกษาหารือกับ อาจารย์บุญธันว์ มหาวรรณ์ ผู้ดูแลโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า ว่าหากสามารถจัดหาทุนมาเพื่อสนับสนุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในสาขาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือสาขาอื่นๆที่จะสามารถนำความรู้มาพัฒนาบ้านเกิด ทางโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า จะพิจารณาคัดเลือกนักเรียนผู้ที่มีความเหมาะสมกับการรับทุนนี้ได้หรือไม่ ได้ความว่า สามารถทำได้ จึงได้หารือต่อไปว่า ทุนการศึกษานี้ควรจะเป็นเท่าไหร่ ในที่สุด ได้เสนอแนะว่า ในปีแรก จะมอบทุนการศึกษา เป็นเงิน 50,000 บาท และปีต่อไปปีละ 40,000 บาทอีก 3 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 170,000 บาท โดยจะมอบเงินบริจาค โดยสั่งจ่าย ทุนการกุศลสมเด็จย่า เพื่อโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า ทางโครงการพระเมตตา จะเป็นผู้คัดเลือกนักเรียนทุนที่เห็นว่าเหมาะสมที่สามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐได้ ในสาขาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ตามลำดับ จำนวน 1 ทุน เป็นการเริ่มต้น ในปี พ.ศ.2550 โดยผู้เขียนจะเป็นผู้บริจาคและรวบรวมผู้ร่วมบริจาคตามโครงการดังกล่าวนี้ ส่งมอบแก่โครงการพระเมตตาสมเด็จย่า และจะติดตามความคืบหน้าของนักเรียนผู้รับทุนเป็นระยะๆต่อไปจนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี โดยที่นักเรียนผู้รับทุน จะต้องทำสัญญากับโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า เมื่อสำเร็จการศึกษาในสาขาที่เรียนแล้ว จะต้องกลับมาทำงานเป็นครูในภูมิลำเนาเดิมที่บ้านเกิด ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนของรัฐหรือเอกชน หรือองค์กรอิสระใดๆ ในภูมิลำเนาซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง
ในเบื้องต้นผู้เขียนได้ปรึกษาหารือกับหมอฟันผู้ร่วมบริจาคว่า จะสนับสนุนการศึกษาในระดับมัธยมปลาย เช่นเดียวกับทุนการศึกษาในโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า คือ นักเรียนรับทุนเรียน 3 ปีในชั้น ม.4-6 โดยมอบทุนปีละ 20,000 บาท รวมคนละ 60,000บาท ตอนแรกกะว่าจะให้ 2 ทุน รวมเป็นเงิน 120,000 บาท ซึ่งหาผู้ร่วมบริจาคได้แล้ว แต่มาพิจารณาภายหลัง คิดว่า หากนักเรียนทุน 2 คนนี้ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย จะต้องใช้เวลาอีก 4 ปี ยังต้องมีภาระในการจัดหาทุนต่อเนื่องอีกคนละ 170,000 บาท(ตามที่อาจารย์บุญธันว์ มหาวรรณ์ ประธานโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า ได้กรุณาคำนวณค่าใช้จ่ายไว้ให้) รวมแล้วต้องหาทุนเพิ่ม 340,000 บาท เกรงว่าจะหาทุนได้ไม่ทัน จึงสรุปว่าจะเปลี่ยนมามอบทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรีแทน เพียง 1 ทุนในปีแรก 170,000 บาท แล้วค่อยๆหาทุนใหม่จากผู้บริจาครายอื่นๆต่อไปในปีหน้า แล้วแต่ว่าจะหาทุนเพิ่มเติมได้เท่าไหร่
ทั้งนี้ในทุนการศึกษานี้ ผู้เขียนจะส่งมอบเงินจำนวน 170,000 บาทผ่านบัญชีของ ทุนการกุศลสมเด็จย่า เพื่อโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า ภายในเดือนมีนาคม พ.ศ.2550 เพื่อให้ผู้ดูแลโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า พิจารณาคัดเลือกนักเรียนภายใต้การดูแลของโครงการฯที่ถึงแม้ไม่สามารถสอบเข้าเรียนในสาขาการแพทย์หรือสาขาด้านสาธารณสุขอื่นๆ แต่สามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐในสาขาครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ตามลำดับ ในปีการศึกษา 2550 จำนวน 1 ทุน โดยโครงการพระเมตตาจะเป็นผู้สั่งจ่ายให้กับมหาวิทยาลัยเป็นค่าเล่าเรียนเป็นรายภาคการศึกษา โดยแยกจ่ายในปีแรก 50,000 บาท ปีต่อไปปีละ 40,000 บาท 3 ปี เงินส่วนที่เหลือนอกเหนือจากค่าเล่าเรียน ก็จะให้เบิกเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆในระหว่างที่เรียนจากทุนในแต่ละปี โดยที่โครงการพระเมตตาสมเด็จย่า จะสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนทุนนี้จนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี(4ปี)
ในอนาคตหลังจากปี พ.ศ.2550 หากผู้เขียนสามารถรวบรวมเงินบริจาคได้เพิ่มเติมครบจำนวน 170,000 บาท จะแจ้งให้โครงการฯทราบ เพื่อพิจารณาคัดเลือกนักเรียนทุนใหม่เพื่อโครงการนี้ต่อไป
รายชื่อผู้ร่วมบริจาคทุนการศึกษา 1 ทุน ในปี พ.ศ.2550
1. ทันตแพทย์ปัญญา ยศไพบูลย์ บริจาคเงิน 20,000 บาท
2. ทันตแพทย์ศุภชัย กีรติวิทยานันท์ บริจาคเงิน 60,000 บาท
3. บริษัทฟักทองขนส่งจำกัด บริจาคเงิน 20,000 บาท
4. ทันตแพทย์พลภัทร แนวบุญเนียร บริจาคเงิน 10,000 บาท
5. ทันตแพทย์หญิงวรรณี ประณีตพงศ์บริจาคเงิน 10,000 บาท
6. ทันตแพทย์พิชัย อัศวินใจเพ็ชร บริจาคเงิน 10,000 บาท
7. คุณสุนิตย์ หุตะสิงห์ บริจาคเงิน 20,000 บาท
8. คุณมงคล ใบโพธิ์วงศ์ บริจาคเงิน 20,000 บาท
รวมเป็นเงินบริจาค 170,000 บาท
ผมขออนุญาตแนะนำตัวเล็กน้อยนะครับ ผมทำงานในคลินิกส่วนตัวเล็กๆ ทำคนเดียวที่พระโขนงมา 27 ปี ขณะนี้เป็นกรรมการสมาคมนิสิตเก่าทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และกรรมการโครงการทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อประชาชนด้อยโอกาสในท้องถิ่นทุรกันดาร ฝ่ายจัดหาอุปกรณ์และวัสดุทันตกรรม เนื่องจากมีภาระงานที่คลินิกค่อนข้างรัดตัว จึงไม่สามารถร่วมเดินทางไปกับคณะอาสาสมัครทันตแพทย์ได้บ่อยๆ เคยไปร่วมงานทดสอบระบบเครื่องมือและรถทันตกรรมที่จังหวัดกาญจนบุรี 1 ครั้ง และตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของโครงการฯ 1 ครั้ง ( 4 วัน) ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ในปี2549 อาจจะไม่ค่อยไปเจอะเจอกับเพื่อนพี่น้องสมาชิกออฟโรดบ่อยนัก ได้เจอคุณบรรจงบ่อยตอนประชุมที่มูลนิธิ พอ.สว. ล่าสุดได้แจ้งเรื่องทุนนี้กับคุณบรรจงว่า จะขออนุญาตนำเรื่องทุนนี้มาโพสต์ที่เวบบอร์ดของชาวออฟโรด เผื่อว่า จะมีสมาชิกผู้มีใจบุญ อยากทำบุญร่วมกับผมและคณะฯ ขอเชิญชวนทุกท่านนะครับ ติดต่อผมได้ตามเบอร์มือถือ และโทรศัพท์ หรือe-mail ที่แจ้งไว้ ผมจะทำหน้าที่ประสานงานกับผู้ร่วมบริจาคทุกท่าน แจ้งความคืบหน้า ความเคลื่อนไหวต่างๆว่า นักเรียนรับทุนคือใคร ชื่ออะไร ผลการเรียนเป็นอย่างไร พร้อมกับจัดการเรื่องใบเสร็จรับเงินจากโครงการพระเมตตาสมเด็จย่า เพื่อใช้หักลดหย่อนภาษีเงินได้ และอื่นๆ
หากการโพสต์นี้เป็นการรบกวน ต้องขออภัยนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอ่านมาจนจบ เรื่องมันยาว ต้องอธิบายยาวหน่อยครับ
เอารูปตอนไปอมก๋อยมาแนะนำให้รู้จัก ผมอยู่ข้างขวา ส่วนด้านซ้ายคือ หมอบุญไทย ผู้จัดหาอุปกรณ์ทันตกรรมขนาดใหญ่ เช่น เครื่องปั่นไฟ ปั๊มลม เครื่องSuction Autoclave ยูนิตทำฟันประจำรถทันตกรรม และเก้าอี้ทำฟันที่ใช้ออกภาคสนาม ฯลฯ
|