คำตอบที่ 8
เอามาจากหนังสือพิมพ์ มติชน
ลองลิงค์เข้าไปดู
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pro34020850&day=2007/08/02§ionid=0112
วันที่ 02 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10736
"คาราวานออฟโรด" เส้นทางนักผจญภัย กับ ความพินาศของผืนป่า
รายงานพิเศษ
โดย ปิยรัชต์ จงเจริญ
ในอดีตกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ได้ขึ้นชื่อว่า มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะ ป่าไม้ อยู่ลำดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว เพราะมีพื้นที่ป่าถึง 70% ของจังหวัด
เวลาผ่านไป กลุ่มนายทุน และนักการเมืองน้อย-ใหญ่ เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ จนผืนป่าอันกว้างใหญ่เสื่อมสูญไปจำนวนมาก
ขณะที่ผู้มีใจรักในการผจญภัยเส้นทางทุรกันดาร ผืนป่าเมืองกาญจน์มีทุกอย่างให้ "ครบเครื่อง"
ทำให้ทุกวันศุกร์ช่วงเย็น โดยเฉพาะวันหยุดยาว จะเห็น "คาราวานรถออฟโรด" เคลื่อนทัพเข้ามาในพื้นที่กาญจนบุรี มุ่งสู่ป่าเขาลำเนาไพร
จึงไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าความเสียหายย่อมเกิดขึ้นกับผืนป่า
และเป็นสาเหตุทำให้กลุ่มอนุรักษ์ออกมาโวยถึงผลกระทบ โดย "บุญส่ง จันทร์ส่องรัศมี" รองประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ กล่าวว่า ชาวบ้านคลิตี้ล่าง ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รับความเดือดร้อน เส้นทางสัญจรในหมู่บ้านได้รับความเสียหายจากรถขนาดใหญ่ของคาราวานออฟโรดตะลุยเข้าในเขตเตรียมประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำคลองงู
ซึ่งเส้นทางดังกล่าว ชาวบ้านใช้สัญจร รับส่งเด็กนักเรียนจากคลิตี้ล่างไปเรียนที่โรงเรียนทุ่งเสือโทน อยู่บ้านคลิตี้บน เนื่องจากคลิตี้ล่างไม่มีโรงเรียน ระยะทางถึง 24 กิโลเมตร และบรรทุกผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย
ทั้งนี้ จากการใช้เส้นทางโดยออฟโรด ส่งผลให้เส้นทางบางจุดลึกกว่า 1 เมตร ประมาณ 5 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านกว่า 60 หลังคาเรือน ต้องเดินทางด้วยความยากลำบาก ชาวบ้านช่วยกันซ่อมแซมครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เมื่อคาราวานออฟโรดเข้าไปก็พังเสียหายอีก
คาราวานออฟโรดระบุว่า ได้จ่ายเงินค่าใช้เส้นทางในอัตรา 500 บาท/คัน ให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว จึงไม่สนใจปัญหาที่พวกเขาก่อขึ้น
"เป็นพฤติกรรมการท่องเที่ยวอย่างไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ ไม่เคารพต่อวัฒนธรรมและสถานที่ของชุมชน ถนนในหมู่บ้านคลิตี้ล่างพังพินาศ แปลงเกษตรและต้นไม้ที่อยู่ตลอดสองข้างทางได้รับความเสียหาย สร้างความทุกข์ยากแก่ชุมชน การยกคำพูดมาอ้างว่า ออฟโรดก็ทำความดี นำของไปแจกผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่ใช่เรื่องเป็นหนี้บุญคุณขอให้ยุติความคิดและการกระทำเยี่ยงนี้เสียที" บุญส่งกล่าว
"วินิจ รักชาติ" หัวหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวไม่มีเจ้าภาพรับผิดชอบโดยตรง เพราะพื้นที่คาบเกี่ยวหลายหน่วยงานคือ เขตเตรียมประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ป่าสงวนแห่งชาติ และที่ดิน ส.ป.ก. ประกอบกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ประกาศปิดเส้นทาง คาราวานออฟโรดจึงเสาะแสวงหาเส้นทางตะลุยป่าในพื้นที่อื่นๆ
"ในช่วงหน้าฝนคาราวานออฟโรดจะชอบมาก เพราะจะได้นำอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการผจญภัยมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจไปแล้ว และไม่มีกฎหมายบังคับ แต่ในส่วนที่เป็นเขตป่าอนุรักษ์ สามารถสั่งห้ามใช้ได้อย่างเด็ดขาด เพราะทำลายเส้นทางและรบกวนสัตว์ป่า ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นยากต่อการควบคุมและบริหารจัดการ แต่หากประกาศเป็นเขตป่าอนุรักษ์ทั้งหมดก็จะง่ายต่อการควบคุมดูแล"
"ธรรมรัฐ วงศ์โสภา" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู อ.ทองผาภูมิ กล่าวว่า ได้กันพื้นที่ไว้ประมาณ 2,700 ไร่ เพื่อให้ชาวบ้านได้อาศัยทำกิน โดยไม่ได้นำเข้ารวมเป็นพื้นที่ที่กำลังจะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำคลองงู คาราวานออฟโรดมักจะตะลุยป่าตามเส้นทางดังกล่าวเพื่อเข้าไปพักค้างแรมบริเวณน้ำตกคลิตี้ล่าง และบริเวณลำเขางู ซึ่งมีลำห้วยเหมาะสำหรับการตั้งเต๊นท์ พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของอุทยานฯก็จริง แต่หน่วยพิทักษ์ป่าไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบ เช่น บริเวณน้ำตกคลิตี้ล่าง เป็นหน่วยพิทักษ์ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และอีกหน่วยตั้งอยู่บริเวณลำเขางู ซึ่งเป็นหน่วยพิทักษ์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จึงทำให้ทำงานลำบากและไม่สามารถควบคุมดูแลพื้นที่ได้อย่างเต็มที่
"ทิวาพร ศรีวรกุล" ประธานคณะกรรมการอนุรักษ์ผืนป่าตะวันตก จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า เส้นทางที่มุ่งสู่น้ำตกคลิตี้ล่าง จะต้องผ่านถนนกลางหมู่บ้าน และพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน หน้าฝนถนนดินจะลื่นมากทำให้รถออฟโรดไถลเข้าไปในแปลงเกษตรสองข้างทาง และเมื่อออฟโรดใช้เส้นทางหลักพังเสียหายและเป็นหลุมลึกมาก ก็จะเบี่ยงเส้นทางเข้าไปในแปลงเกษตร ทั้งนี้ เส้นทางเข้าน้ำตกคลิตี้มี 2 เส้นทาง ซึ่งกลุ่มคาราวานออฟโรดใช้พังเสียหาย ทำให้ต้นไม้ตาย ธรรมชาติเสียหาย
"อำนาจ ผการัตน์" ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า การที่ชาวออฟโรดอ้างว่าเข้าไปทำกิจกรรมเพื่อการกุศล และสาธารณประโยชน์ต่างๆ แต่อีกด้านหนึ่งสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านและทรัพยากรธรรมชาติ
--ทั้งสองส่วนจะนำมาแลกกันไม่ได้
หน้า 9<
ความคิดของผู้ที่อยากเป็นข่าว ประมาณว่าโชว์ผลงาน
นำเอาเหตุการณ์ของชาว Offroad ผู้อยากเข้าป่า มาตีแผ่เป็นข่าวเซ็ง