คำตอบที่ 1
       เค้าเปิดกระทู้ให้แล้วนะ เพื่อนๆสมาชิกที่ร่วมเดินทางใครถ่ายรูปไว้ก็นำมาลงกันได้เลยนะครับเพราะงานนี้หินงามถ่ายรูปน้อยมาก

คำตอบที่ 2
       ประวัติ
ตามตำนานอุรังคธาตุ กล่าวว่า ท้าวพญาทั้งห้าผู้เป็นใหญ่ ได้แก่พญาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหานหลวง พญาคำแดง เจ้าเมืองหนองหานน้อย พญาจุลณีพรหมทัต เจ้าเมืองจุลนีพรหมทัต พญาอินทรปัตถ์ เจ้าเมืองอินทปัตถนคร และพญานันทเสน เจ้านครศรีโคตรบูรณ์อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุ ได้สร้างอูบมูงขึ้นเพื่อประดิษฐานพระอุรังคธาตุ ตามพุทธพยากรณ์ โดยก่อสร้างด้วยดินดิบ (อิฐดิบ) ฐานพระธาตุพนมได้ขุดลงไปจนเป็นอูบมุง (อุโมง) เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กระดูกส่วนหน้าอก เมื่อก่อด้วยดินดิบเสร็จแล้ว จึงได้ก่อไฟเผาพระธาตุเป็นเวลากว่าหลายวัน อิฐจึงได้แห้งสนิทจรดกัน ในพระธาตุพนม บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า ซึ่งประมาณ พ.ศ. 8 พระอุตรเถระและพระโสณเถระ สมรทูตของพระเจ้าอโศกมหาราช ได้อัญเชิญมา และพระมหากัสสปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้บนภูกำพร้า ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ พระธาตุพนมได้รับการบูรณะและอุปถัมภ์โดยกษัตริย์แห่งล้านช้าง

พ.ศ. 2223-2225 และเป็นรูปแบบที่นิยมในอีสาน
พ.ศ. 2233 พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) ปฏิสังขรณ์พระธาตุให้สูงขึ้น
พ.ศ. 2483 รัฐบาลได้บูรณะให้สูงขึ้น
พ.ศ. 2518 องค์พระธาตุพนมชำรุดล้มลง ทางราชการได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้นใหม่ ให้คงสภาพเดิม
พ.ศ. 2522 การบูรณะโดยภาครัฐและเอกชน
เมื่อปี พ.ศ. 2485 วัดพระธาตุพนมฯ ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร" ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.38 น. ด้วยเหตุที่มีฝนตกพายุพัดแรงติดต่อมาหลายวันและความเก่าแก่ขององค์พระธาตุ พระธาตุพนมจึงได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 นอกจากจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระธาตุดั่งเดิมแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้นบรรจุและประดับไว้ในองค์พระธาตุอีกด้วย โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ ซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม

คำตอบที่ 3
       ความงดงามยามเช้าของพระธาตุ

คำตอบที่ 4
       บ่อน้ำวัดพระธาตุพนม
น้ำบ่อวัดพระธาตุพนม ตั้งอยู่ทางทิศเหนือขององค์พระธาตุ บริเวณกำแพงชั้นนอก ห่างจากพระธาตุพนมประมาณ 30 วา (60 เมตร) บ่อ กว้าง 1.50 เมตร ลึก 10 เมตร กรุข้างบ่อด้วยไม้แดง บ่อน้ำเก่าแก่ น้ำใส รสจืดสนิท และมีน้ำอยู่ตลอดปี ราษฎรส่วนมากใช้น้ำในบ่อนี้เป็นน้ำดื่ม และใช้เป็นน้ำอภิเษกของจังหวัดนครพนมมีอยู่เพียงแห่งเดียว สถานที่ประกอบพิธีน้ำอภิเษก คือ บ่อน้ำพระอินทร์บริเวณพระธาตุพนม

ยอดฉัตรพระธาตุพนมองค์เก่า (ทองคำประดับอัญมณี)
อูบมุง (เก่า) ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
องค์พระธาตุพนมและพระวิหารหลวงยามค่ำคื

คำตอบที่ 5
       ก่อนจะมาๆหว้พระธาตุพนมทีมงานออฟโรดของเราก็ได้แวะทำบุญมาหลายที่ และอย่าลืมว่าท่านทั้งหลายได้ไต่สะพานไม้พิชิตถึงชั้น 7 ของวัดภูทอก (หนองคาย)ไหว้พระอาจารย์จวนมาแล้ว

คำตอบที่ 6
       เข้ามารอชมครับพี่นอม

คำตอบที่ 7
       เช้าขึ้นมาพวกเราก็ร่วมกันถวายเทียนที่วัดหน้าบ้านท่าน บีเจ

คำตอบที่ 8
       ย้อนมาหน่อยนะ

คำตอบที่ 9
       เองนะ อยู่เฉยๆนะดีแล้ว เดี๋ยวตรูปวดหมอง

 แก้ไขเมื่อ : 2/8/2553 20:43:06

คำตอบที่ 10
       จัดเตรียมเทียนเพื่อถวายหลวงพ่อ

คำตอบที่ 11
       รับศิลกันก่อน

 แก้ไขเมื่อ : 2/8/2553 20:53:05

คำตอบที่ 12
       สาธุ ๆ

คำตอบที่ 13
       ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่

คำตอบที่ 14
       กล่าวนำถวายเทียนโดยคุณสมชาย จากแม่วังออฟโรด

 แก้ไขเมื่อ : 2/8/2553 20:50:01

คำตอบที่ 15
       รับศิลกันไม่ครบข้อหนึ่ง

 แก้ไขเมื่อ : 2/8/2553 20:54:03

คำตอบที่ 16
      

คำตอบที่ 17
       จุดเทียนกันก่อนถวาย

คำตอบที่ 18
      

คำตอบที่ 19
       ช่วยกันประเคนหน่อยเร็ว

คำตอบที่ 20
      

คำตอบที่ 21
       หลังจากรับพรกันแล้วก็เป็นธรรมเนียมของ บีเจ

คำตอบที่ 22
       พรุ่งนี้มาต่อนะ

คำตอบที่ 23
       หวัดดีครับพี่นอม นาน ๆ ๆ จะได้เห็นหินหนุน ได้เข้าพรรษาครับ แล้วหลาย ๆ ๆ ๆ คนเข้าพรรษาด้วยป่าวครับพี่

คำตอบที่ 24
       เสียดายจริงๆครับที่ติดราชการ กทม.ไม่งั้นไม่พาดแน่ แต่ยังไงขอส่งกำลังใจช่วย และจะคอยชมรูปภาพที่เพื่อนๆสมาชิกนำมาให้ชม

คำตอบที่ 25
       มีแรงลงต่อหรือยังครับผมรอชมอยู่

คำตอบที่ 26
       อัศจรรย์ภาพนี้ท่านอาจารย์จวน มานั่งตรงนี้ได้อย่างไร
ในขณะที่ตรงนี้ไม่มีบันไดปีนป่ายขึ้นเลย สูงชันมาก

.....................................................

“บรรยากาศภายใน วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในบรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย เป็นวัดของ ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ (พระผู้เป็นอรหันต์สร้าง) วิศวะยังยอมแพ้ในการก่อสร้างว่าท่านพระอาจารย์จวน สร้างบันไดเวียนวนไปมารอบภูทอก 7 ชั้น ได้อย่างไง ??? แปลกเหลือเกิน นั้นเป็นแค่เพียงแค่สมาธิธรรม บารมีอภิญญาท่านในการก่อสร้าง คนธรรมดาก่อสร้างไม่ได้แน่นอน”

.....................................................

พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
พ.ศ. ๒๔๖๓-พ.ศ. ๒๕๒๓
วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก)
หมู่ที่ 6 ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย

คำตอบที่ 27
       สิ่งก่อสร้างนี้สถาปัตย์ยังยอมแพ้ ออฟโรดเราที่ไต่สะพานขึ้นพูดได้คำเดียว ว่า"เสียว"จริงๆ

คำตอบที่ 28
       พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ
วัดเจติยาคีรีวิหาร(ภูทอก) อำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย

"พระอริยเจ้าผู้มีกายและจิตสมควรแก่วิมุติธรรม"

พระเดชพระคุณพระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐพระอริยเจ้าผู้ถึงพร้อมด้วยสาวกบารมีญาณ เกิดมาเพื่อบรรลุธรรมในปัจจุบันชาติ ท่านมีนิสัยโน้มน้อมมาทางพระธรรมตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อได้ฟังธรรมจากพระกรรมฐาน จิตสงบรวมเป็นหนึ่ง สามารถแยกกายและจิตได้ ท่านจึงได้สละทรัพย์ และบ้านเรือนออกบวช

ท่านเป็นผู้มีความเพียรพยายามเป็นเลิศ มีสติในการแก้ไขกิเลสเฉียบพลัน อุบายธรรมและปฏิทาเป็นปัจเจกแปลกจากครูบาอาจารย์รูปอื่น

ในปีพุทธศักราช ๒๔๙๓ ท่านจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำพวง อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ได้เกิดจิตปฏิพัทธ์หญิงสาวคนหนึ่ง จึงได้คิดหาอุบายแก้ไข โดยยกภาษิตโบราณมาเทียบสิ่งที่ท่านหลงใหลอยู่ว่า "เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอากระดูกมาแขวนคอ" ท่านจังคิดดัดนิสัยของตนเองที่ไปหลงรักผู้หญิงเข้าด้วยการเอากระดูกช้างมาแขวนคอห้อย
ต่องแต่ง ท่านตั้งใจมั่นว่า "ตราบใดที่ใจยังตัดใจอาลัยรักในสตรีไม่ได้ ยืน เดิน นั่ง นอน ออกบิณฑบาตร ฉันข้าว ก็จะเอากระดูกช้างแขวนคอไว้ตราบนั่น" ไม่ว่าท่านจะเดินจงกรม นั่งสมาธิ หรือรับกิจนิมนต์ไปในหมู่บ้านก็ตาม ท่านเอากระดูกช้างแขวนคอไว้ตลอดจนชาวบ้านทั้งหลายเขาเล่าลือกันว่า "ท่านเป็นบ้า"

เมื่อท่านปฏิบัติอย่างนี้ เกิดความละอายใจเห็นโทษภัยในความลุ่มหลงจิตก็คลายความกำหนัดรักใคร่ในหญิงนั้น เมื่อหลวงปู่ขาว อนาลโย ได้ถามถึงเหตุที่ท่านทำเช่นนั้น ท่านได้กราบเรียนดังที่กล่าวมาแล้ว หลวงปู่ขาวกล่าวชมว่า "อุบายนี้ดีนักแล"

จิตของท่านจึงมุ่งไปสู่ความหลุดพ้น โจนทะยานทำลายกองกิเลส ดั่งสายน้ำพุ่งลงมาจากยอดเขาสูงลงสู่พื้นล่าง ท่านชอบท่องเที่ยวและแสวงหาครูบาอาจารย์ที่อยู่ตามป่าเขาลึกๆ เช่น เข้าไปศึกษาธรรมกับท่านพระอาจารย์หล้า ขนฺติโก พระอริยเจ้าผู้อยู่แต่เพียงโดดเดี่ยวบนสันเทือกเขาภูพาน

ท่านมีสหธรรมิกคือ ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ได้รับอบรมในทางธรรมจากท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต และหลวงปู่ขาว อนาลโย

ท่านได้รับการยกย่องจากที่นพระอาจารย์มั่น ว่า "...กาเยนะ วาจายะ วะเจตวิสุทธิยา ท่านจวน! เป็นผู้มีกายและจิตสมควรแก่ข้อปฏิบัติธรรม เป็นผู้สามารถรวมจิตทีเดียวถึงฐีติจิต"

ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ ปีวอก ณ บ้านเหล่ามันแกว บ้านเลขที่ ๒๘ หมู่ ๑๒ ตำบลดงมะยาง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ

เป็นบุตรของนายลา และนางแหวะ วงศ์จันทร์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๗ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๖

เมื่อท่านอายุได้ ๑๔-๑๕ ปี ได้พบพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ใกล้บ้านก็บังเกิดความเลื่อมใสตั้งปณิธานว่าต่อไปจะบวชอย
่างท่านบ้าง พระธุดงค์ได้มอบหนังสือ "ไตรสรณคมน์" ของท่านอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม ไว้ให้ เมื่อท่านได้อ่านแล้วบังเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ได้พยายามปฏิบัติตาม เริ่มสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ บริกรรมภาวนาจิต รวมเป็นหนึ่ง จิตอยู่เฉพาะจิต กายอยู่เฉพาะกาย เวทนาใดก็ไม่มีปรากฏเลย

หลังจากจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ อายุย่างเข้า ๑๘ ปี ท่านได้เข้าทำราชการกรมทางหลวงแผ่นดินอยู่เป็นเวลา ๔ ปี

ภายหลังระหว่างทำงานได้รับหนังสือ"จตุราลักษณ์" ของท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล เมื่อท่านอ่านไปถึงบทมรณานุสติ จิตก็สลดสังเวชว่า "เราก็ต้องตาย"

เมื่ออายุเพียง ๒๐ ปีท่านสละเงินที่เก็บหอมรอมริบระหว่างทำงานอยู่กรมทางหลวงทั้งหมดเป็นเจ้าภาพสร้างมห
ากฐินคนเดียว สร้างพระประธาน สร้างห้องน้ำ ถวายสงฆ์จนเงินหมด

เมื่อท่านอายุ ๒๑ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายมหานิกาย ที่วัดเจริญจิต บ้านโคกกลาง ตำบลดงมะยาง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ พระอาจารย์บุ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาแจ้ง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า "กลฺยาณธมฺโม" ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรม และสอบได้นักธรรมตรีในพรรษานั้น และต่อมาก็ได้ลาสิกขา

หลังจากสึกมาเป็นฆราวาสแล้วท่านได้เดินทางไปแสวงหาอาจารย์ฝ่ายกรรมฐานธรรมยุต และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุตเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๖ ณ วัดป่าสำราญนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีพระครูทัศนวิสุทธิ (มหาดุสิต เทวิโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ได้รับฉายาว่า "กุลเชฎโฐ"

เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้ท่องปาฏิโมกข์ และเจ็ดตำนานจบหมดภายในเวลาหนึ่งเดือน

ปีพุทธศักราช ๒๔๘๘ พรรษาที่ ๓ ท่านจำพรรษาที่วัดบ้านนาจิกดอนเมย บ้านหนองปลิง ตำบลนาจิก ได้อธิษฐานทำความเพียรจะไม่นอนไม่ฉันตลอดพรรษา

ท่านอธิษฐานจิตว่า "ถ้ายังมีบุญวาสนาอยู่ในพรหมจรรย์แล้ว ขอให้ได้นิมิตเห็นท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต"

หลังจากนั้น ๓ วัน ท่านได้นิมิตว่า ได้เดินทางไปสู่สำนักท่านพระอาจารย์มั่น เห็นท่านกำลังกวาดลานวัดอยู่ พอเห็นก็รู้ว่านี่คือท่านพระอาจารย์มั่น ท่านเหลือบมาเห็นเข้าก็ทักพระอาจารย์จวน อย่างดีใจว่า "อ้อ...ท่านจวนมาแล้ว ท่านจวนมาแล้ว" มีความรู้สึกคล้ายกับพ่อเห็นลูก ลูกเห็นพ่อ พอท่านตรงเข้าไปจะกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่นก็โก่งหลัง บอกให้ท่านขึ้นขี่หลังเหมือนม้า แล้วท่านจึงพาเหาะขึ้นบนอากาศจนลิบเมฆ แล้วพามาลงที่กลางภูเขาลูกหนึ่ง แล้วบอกว่า"เอาละ ลงนี่แหละ พอดีพอควรแล้ว"

ท่านพิจารณาเกิดปีติยินดีว่า คงจะมีวาสนาบารมีอยู่ในเพศพรหมจรรย์ จึงเร่งทำความเพียรต่อไป

หลังจากออกพรรษาได้ ๕ วัน พระอริยคุณาธาร(มหาเส็ง ปุสฺโส) ได้เดินทางมาที่วัดป่า บ้านนาจิก พระอุปัชฌาย์จึงได้ฝากท่านกับพระอริยคุณาธารขอให้ช่วยนำไปอยู่กับท่านพระอาจารย์มั่น
ด้วย

ปีพุทธศักราช ๒๔๘๙ พรรษาที่ ๔ ท่านจึงได้ติดตามท่านเจ้าคุณอริยคุณาธารไปอยู่กับท่านพระอาจารย์มั่น ที่วัดป่าบ้านหนองผือ อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร

ขณะที่ท่านอยู่ที่วัดป่าบ้านผือใหม่ๆ ใจก็อดคิดตามประสาปุถุชนไม่ได้ว่า "เขาลือกันว่าท่านอาจารย์ใหญ่เป็นพระอรหันต์ เราก็ไม่ทราบว่าจริงไม่หรือ ถ้าเป็นอรหันต์จริง คืนนี้ก็ให้มีปาฏิหาริย์ให้เป็นปรากฏด้วย"

ในคืนวันนั้นเอง พอท่านภาวนา ก็ปรากฏนิมิตเห็นท่านพระอาจารย์มั่นเดินจงกรมอยู่บนอากาศ และแสดงปาฏิหาริย์เหาะขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา และเวลานอนหลับก็ยังฝันเห็นท่านเดินอยู่บนอากาศเช่นเดียวกัน ท่านจึงยกมือไหว้และกล่าวขอขมาว่าเชื่อแล้ว...

หลังจากวันนั้น ท่านก็เกิดคิดขึ้นมาอีกว่า "เอ... เขาว่าท่านอาจารย์ใหญ่รู้วาระจิตของลูกศิษย์ทุกคนจริงไหมหนอ? เราน่าจะลองดู ถ้าท่านอาจารย์ใหญ่รู้วาระจิตเรา ขอให้ท่านอาจารย์ใหญ่มาหาเราที่กุฏิคืนวันนี้เถอะ " พอท่านคิดได้ประเดี๋ยวเดียวก็ได้ยินเสียงไม้เท้าเคาะใกล้เข้ามา และกระแทกเปรี้ยงเข้าที่ฝากุฏิของท่าน พร้อมกับเสียงของท่านพระอาจารย์มั่นเอ็ดลั่นว่า "ท่านจวน...ทำไปจึงไปคิดอย่างนั้น นั่นไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ รำคาญเรานี่"

พรรษาที่ ๕-๖ ปีพ.ศ. ๒๔๙๐ -๒๔๙๑ จำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ คืนหนึ่งขณะนั่งภาวนาในโบสถ์มีนิมิตเกิดขึ้นว่ามีพระเถระรูปหนี่งได้มาให้โอวาทตักเต
ือนว่า "ท่านจวน ท่านอย่าวางแผ่นดิน เพราะความประพฤติของท่านยังไม่สม่ำเสมอ"

ท่านได้มาพิจารณาดู แผ่นดินแปลว่า ให้มีความหนักแน่นเหมือนแผ่นดิน เมื่อถูกกระทบกระเทือนจากอารมณ์ก็อย่าวอกแวก ตั้งใจให้เป็นสมาธิ ไม่หวั่นไหวฟุ้งซ่าน ท่านจึงได้เขียนจดหมายกราบเรียนถามท่านพระอาจารย์มั่นถึงนิมิตในครั้งนี้

ท่านพระอาจารย์มั่นได้ตอบจดหมายว่า
"ถึงท่านจวนที่อาลัยยิ่ง
...ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมได้แนะนำให้ท่านนั้นขอให้ท่านจงตั้งอกตั้งใจประพฤติปฏิบัติด
ำเนินไปตามคำที่ผมแนะนำ อย่าได้ประมาท เพื่อจะได้เป็นเกียรติยศแก่พระพุทธศาสนาต่อไป"

หลังจากนั้นท่านได้ออกวิเวกอาศัยอยู่บนดอยกับชาวเขาเผ่าต่างๆ ทางภาคเหนือ ติดกับเขตพม่า เข้าเขตจังหวัดเชียงตุง ประเทศพม่า แล้วกลับมาทางภาคอีสาน

เมื่อกลับมาได้ไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่น ที่วัดบ้านหนองผือ จังหวัดสกลนคร ท่านอาจารย์มั่นได้ถามว่าการภวนาเป็นอย่างไรบ้าง ท่านอาจารย์ได้กราบเรียนท่านว่า "ไม่ดีเหมือนอยู่กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์"

ท่านอาจารย์มั่นจึงบอกว่า "ต่อไปให้ภาวนาอยู่ทางภาคอีสานนี่แหละ อย่าไปที่อื่นอีกเลย"หลังจากนั้นท่านก็ท่องเที่ยวธุดงค์อยู่ป่าเขาถ้ำทางภาคอีกสานมาโดยตลอด

พรรษาที่ ๒๗-๓๘ ปีพุทธศักราช ๒๕๑๒-๒๕๒๓ ท่านได้สร้างวัดเจติยาคิรีวิหาร(ภูทอก) อำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย ให้เป็นศาสนสถานที่สำคัญสำหรับผู้มุ่งปฏิบัติธรรม ด้วยวัตรปฏิบัติอันงดงามของท่าน และความสวยงามของภูทอก เมื่อใครได้ไปสัมผัสแล้วต่างก็เกิดซาบซึ้งศรัทธากันถ้วนหน้า

ท่านละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓ ด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก ณ ท้องนาทุ่งรังสิต หมู่ที่ ๔ ตำบลคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พร้อมกับพระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม พระอาจารย์วัน อุตฺตโม พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม

สิริรวมอายุ ๕๙ ปี ๙ เดือน ๑๘ วัน ๓๘ พรรษา

คำตอบที่ 29
       ดูอีกภาพสวยๆวัดภูทอก

คำตอบที่ 30
       มานมัสการพระธาตุพนมกันต่อจะได้ขึ้นสวรรค์กันทุกๆคน ครับ

คำตอบที่ 31
       ป้าหม๋วยกับลุงสมชายแม่วังออฟโรดกำลังเตรียมไหว้พระธาตุพนม ในยามเช้าอย่างนี้ดูมีความสุขมาก ครับ

คำตอบที่ 32
       ถ้าพูดถึงเรื่องสวรรค์คนส่วนมากจะนึกถึง"สวรรค์ชั้น 7"และทุกคนก็จะเคยชินกับคำว่า"สวรรค์อยู่ในอก"นี่แหละครับเป็นที่มาของทริปนี้ของหินหนุนและแม่วังออฟโรด เพราะได้ไปขึ้นถึงชั้นสูงสุดที่วัดภูทอก แล้วไปไหว้พระธาตุพระพนมต่อซึ่งบรรจุพระสารีริกธาตุส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า งานนี้ครบถ้วนครับ

คำตอบที่ 33
       มาชมบรรยากาศจากกล้องอีกตัวหนึ่ง

คำตอบที่ 34
       มุ่งหน้าไปแสวงบุญด้วยการถวายเทียนกันต่อ

คำตอบที่ 35
       เคยแต่วิ่งตามก้นถ่ายตูดคนอื่น

คำตอบที่ 36
       คราวนี้มีคนอื่นตามตูดถ่ายก้นเรา555555

คำตอบที่ 37
      

คำตอบที่ 38
      

คำตอบที่ 39
       แล้วพวกเราก็มาถึง

คำตอบที่ 40
       ทางเข้าวัด ร่มรื่นน่าพักผ่อน

คำตอบที่ 41
       มีรถนักท่องเที่ยวเข้าออกไม่เคยขาด

คำตอบที่ 42
       มองดูข้างบนเดี๋ยวเราจะเดินขึ้นไป

คำตอบที่ 43
      

คำตอบที่ 44
      

คำตอบที่ 45
       พวกเรากำลังเตรียมตัวเดินขึ้นไปกัน

คำตอบที่ 46
       ป้าหน่อยกำลังจะบินขึ้นไป

คำตอบที่ 47
      

คำตอบที่ 48
      

คำตอบที่ 49
       เรื่มออกเดินกัน

คำตอบที่ 50
       ค่อยๆไต่กันไป

คำตอบที่ 51
       เร็วๆลุงวัช

คำตอบที่ 52
       โอย..เหนื่อยว่ะ ไอ้หลานเอ๋ย

 แก้ไขเมื่อ : 3/8/2553 21:12:41

คำตอบที่ 53
       ยายหหน่อย เบลช่วยจูงนะครับ

คำตอบที่ 54
       สบายกันดีอยู่รึเปล่า

คำตอบที่ 55
       สู้ๆค่ะ เอ้ยครับ

 แก้ไขเมื่อ : 3/8/2553 21:19:43

คำตอบที่ 56
       เห็นทางราบแล้ว พวกเรา

 แก้ไขเมื่อ : 3/8/2553 21:22:30

คำตอบที่ 57
      

คำตอบที่ 58
       โอย..ขึ้นอีกแล้วเรา

คำตอบที่ 59
      

คำตอบที่ 60
       โอ้โฮ รังบะเริมเลย

คำตอบที่ 61
       ไปอีกเรื่อยๆ

คำตอบที่ 62
       ยังไม่ถึงจุดหมายที่จะไป

คำตอบที่ 63
       ภาพที่ 42, 43, 44 ผมไม่คิดว่าจะมีให้เห็นที่เมืองไทย อเมซิ่งมากๆ

แล้วตอนเดินขึ้น พี่ได้นับขั้นบันไดมามั้ยครับ

คำตอบที่ 64
       งานนี้คนแรงไม่แข็งทั้งสองคนไม่ได้ขึ้นไปครับ คุณมนตรีป้วนเปี้ยนกันอยู่ข้างล่างนี่แหละ

คำตอบที่ 65
       ส่วนคนนี้กลัวความสูง

คำตอบที่ 66
       ก็เลยเลาะกันอยู่ข้างล่าง

คำตอบที่ 67
       จะขึ้นไปก็กลัวความสูงนะ

คำตอบที่ 68
      

คำตอบที่ 69
      

คำตอบที่ 70
      

คำตอบที่ 71
      

คำตอบที่ 72
       ลูกใครเอ่ย ไปด้วยกัน

คำตอบที่ 73
       นี่ก็นักท่องเที่ยว

คำตอบที่ 74
       ความสูงทำให้เสียวไส้มากกว่าขับออฟโรดไต่สันดอยอีกครับ

คำตอบที่ 75
       ความมห้สจรรย์ของธรรมชาติ

คำตอบที่ 76
       มองลงไปจากชั้นที่ 6

คำตอบที่ 77
       อีกมุมหนึ่งจากชั้นบน

คำตอบที่ 78
       ทางเดินชั้นที่ 6

คำตอบที่ 79
       ทีมนี้ไม่กลัวงูขึ้นไปถึงชั้นที่ 7

คำตอบที่ 80
       ในที่สุดก็มาถึงจุดละลายทรัพย์

คำตอบที่ 81
       ถึงจุดละลายทรัพย์ เลยหมดแรงหรือถ่วงเวลาก็ไม่รู้

คำตอบที่ 82
       ขากลับแพร่ กับรถจากเชียงใหม่หลงมาทางนี้ ที่ไหนเอ่ยๆๆๆๆ

คำตอบที่ 83
       ถึงที่พักเขื่อนอุบลรัตน์

คำตอบที่ 84
       หน้าบ้านที่พักเคียงดาว และเคียงเดือน

คำตอบที่ 85
       นี่ก็หน้าเขื่อน

คำตอบที่ 86
       บรรยากาศยามเย็นหน้าเขื่อน

คำตอบที่ 87
       ไม่รู้โกรธกันหรือเปล่า หรือหิวข้าวเย็นกันแน่

คำตอบที่ 88
       รอกินข้าว

คำตอบที่ 89
       นี่ก็รอกินข้าวเหมือนกัน

คำตอบที่ 90
       นี่กินข้าวเช้าก่อนเดินทางต่อ

คำตอบที่ 91
       ขอบคุณลุง BJ ที่ให้การต้อนรับและนำทาง

คำตอบที่ 92
       ถึงแม้ว่าจะหลงอ้อมไปบ้างก็ได้รสชาติดี

คำตอบที่ 93
       ได้เดินทางร่วมกัน ก็ถือว่าเป็นวาสนา

คำตอบที่ 94
       อนาคตคงได้ร่วมทาง ร่วมงานกันอีก

คำตอบที่ 95
       สวัสดีค่ะลุงสมชายและคุณป้าหม่วย สบายดีนะค่ะ

คำตอบที่ 96
      

คำตอบที่ 97
       คุณลุงสมชายพาคุณป้าจิ๋มหลงมาที่นี่หรือเปล่าคะ

คำตอบที่ 98
       ตามมาชมพวกพี่ ๆ ๆ ๆ ครับ แล้วคันนี้ไม่ได้ไปด้วยหรือครับ

คำตอบที่ 99
       ไม่ได้ไปครับแกติดธุระครับ

คำตอบที่ 100
       หากช้าไปเพียงอีกไม่กี่วัน"วัดภูทอก"ก็ไม่อยู่ในเขต จ.หนองคายแล้ว เพราะเป็นเขตของจังหวัดที่ 77 จ.บึงกาฬ แต่ยังไงๆเมืองพญานาคก็ยังคงอยู่ที่หนองคาย ครับ

คำตอบที่ 101
       เหล่าพญานาคที่เห็นนี้ก็ต่างมาร่วมบุญวันเข้าพรรษาที่"วัดพระธาตุพนม"ด้วยเช่นดังมวลมนุษย์ผู้ประเสริฐ

คำตอบที่ 102
       วิวทิวทรรศที่สวยๆนี้มีไว้ให้ทุกๆคนสัมผัสได้ที่"เขื่อนอุบลรัตน์"ขอนแก่นครับ

คำตอบที่ 103
       จะพาคุณแม่ไปพักผ่อน และ

คำตอบที่ 104
       นอนห้องพักแบบสบายๆอย่างนี้

คำตอบที่ 105
       ทานอาหารอร่อยๆจากฝีมือแม่ครัวของเราเองได้เลยครับ

คำตอบที่ 106
       ยังไม่ได้พาไปที่จุดนั้น อย่าดังไปคณะร่วมทางยังไม่รู้ว่ามีจุดชมวิวอีกจุดหนึ่ง เอาไว้พาหลงทางครั้งหน้าครับ

คำตอบที่ 107
       เมื่อไหร่จะไปอีก ครับ

คำตอบที่ 108
       ไปไหนๆก็ไม่ลืม...ต้องชวนแม่ครัวพิเศษ ไปโตยยยยย

คำตอบที่ 109
       เอาไว้ให้ช่างภาพเก่งก่อนแล้วกัน

คำตอบที่ 110
       แม่วัง 001 กระซิบดังจัง พาหลงทางอีกเร็ว ๆ นะคะ วิวสวยมากเลย

คำตอบที่ 111
       ไม่หลงทางก็ไม่รู้เส้นทางใหม่ๆจริงมั๊ย?

คำตอบที่ 112
       คนทั่วไปอาจบอกว่าหลงทางเสียเวลา แต่เราคิดว่าได้อยู่ร่วมทางด้วยกันนานขึ้นงัย

คำตอบที่ 113
       ขอบคุณหินหนุนมากๆที่นำไทรเงินไทรทองมาฝาก

คำตอบที่ 114
       ขออภัยมีภาพมาแทรกต้นไทร

คำตอบที่ 115
       ยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกท่าน ครับ

คำตอบที่ 116
       แล้วเราจะไปกันใหม่ โดยไปทางอิสานใต้แล้ววนมาออกนครพนม หนองคาย ดูบั้งไฟพญานาค เฮอกว่าจะเอามันอยู่เจ้าไวรัสตัวร้ายเล่นเอาลงภาพไม่ได้เสียหลายวัน

 แก้ไขเมื่อ : 11/8/2553 14:43:10

คำตอบที่ 117
      

คำตอบที่ 118
      

คำตอบที่ 119
      

คำตอบที่ 120
       เรียงคิวขึ้น

คำตอบที่ 121
       เหนื่อยจริงๆ

คำตอบที่ 122
       ยายหน่อย เดินดีๆนะครับ

คำตอบที่ 123
       ว้าย ผมอายนะ

คำตอบที่ 124
       คุณแม่ครับ เดินตามโฟโต้มาเลยครับ

คำตอบที่ 125
       ระวังนะคุณแม่

คำตอบที่ 126
       หายเหนื่อย เป็นปลิดทิ้ง

คำตอบที่ 127
       ขอหล่อหน่อยนะ

คำตอบที่ 128
       มุมสูง

คำตอบที่ 129
       ทางเดิน

คำตอบที่ 130
      

คำตอบที่ 131
      

คำตอบที่ 132
      

คำตอบที่ 133
      

คำตอบที่ 134
      

คำตอบที่ 135
       มากมายหลานรัง

คำตอบที่ 136
      

คำตอบที่ 137
      

คำตอบที่ 138
       ไม่รู้ลูกอะไร

คำตอบที่ 139
      

คำตอบที่ 140
      

คำตอบที่ 141
       เราคงได้กลับมา

คำตอบที่ 142
      

คำตอบที่ 143
      

คำตอบที่ 144
       ถึงไหนแล้วครับนี้ผมไม่ได้เข้ามานานเลยครับ คำตอบที่ 133 ผมคงไม่กล้าเดินแน่ครับ


 แก้ไขเมื่อ : 12/8/2553 23:19:29

คำตอบที่ 145
       ภาพที่ 126 ภูยอดตัดอันนั้น ใช่ภูกะดึงรึเปล่าครับ

ระดับความสูงที่พี่เดินขึ้นไปไม่ใช่ย่อยนะครับ เห็นวิวไปไกลเลย

คำตอบที่ 146
       ใช่ค่ะ ภาพที่126 คือภูกระดึง มองเห็นทั้งภูเลย มองลงไปก็จะเห็นทางเข้าภูทอกมาจนถึงลานจอดรถก็เห็น ((เห็นรถของเราจอดอยู่ด้วย)) แล้วก็เห็นวิวทิวทัศไปไกลสุดลูกหูลูกตาเลย แต่บนชั้น 7 ต้องใช้ความระมัดระวังกันนิดนึงนะคะ เพราะไม่มีรั้วหรือไม้อะไรมากั้นเลย แถมยังเป็นหินที่มีน้ำเปียกแล้วก็ขึ้นตะไคร่ ลื่นทีเดียว ถ้าดอกยาง (รองเท้่า) ไม่ดี เดินไม่ระวังท่านก็อาจจะลงไปอยู่ข้างล่างโดยใช้ความเร็วมากสุดเป็นประวัติการณ์ในการลงภูทอกก็ได้
ตอนเราอยู่บนนั้นมีอีกกลุ่มนึงเขากำลังจะเดินสวนลงมาเป็นวัยรุ่นหน่อยๆ ก็มีผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูงด้วยแต่ไม่มาก เดินมาถึงตรงหินเขาก็ลื่น ดีนะที่เขาจับเพื่อนไว้ทัน ทำเอาใจหายใจคว่ำกันหมด

คำตอบที่ 147
       ขอบคุณครับ เพื่อนอาสาฯ005 สำหรับรูปและข้อมูล



แวะมาเคาะประตูบ้าน

พี่คองพี่นอม ช่วงนี้ฝนเยอะแถวๆนั้นเจอนํ้าท่วมบ้างรึเปล่า ภูเก็ตตอนนี้ฝนไม่ค่อยมี ฟ้าใสๆ แดดร้อนๆครับ

คำตอบที่ 148
       สวัสดีค่ะ พี่นอม ...
เป็นบุญตาที่ได้มาชมกระทู้นี้ ..บังเอิญว่า ภูทอกเป็นสถานที่ ..ที่ตั้งใจจะไปมาหลายปี ...
และปีนี้ ..คิดว่าต้องไปให้ได้ .. มาเจอกระทู้พี่นอมพอดี ....
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะคะ ...กลุ่มหิน ดู อบอุ่นมากๆๆ

คำตอบที่ 149
       พี่คองพี่นอม ช่วงนี้ฝนเยอะแถวๆนั้นเจอนํ้าท่วมบ้างรึเปล่า ภูเก็ตตอนนี้ฝนไม่ค่อยมี ฟ้าใสๆ แดดร้อนๆครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนนี้ที่พิษณุโลกฝนตกมากแต่แถวบ้านพี่น้ำยังไม่ท่วมครับ

คำตอบที่ 150
       สวัสดีค่ะ พี่นอม ...
เป็นบุญตาที่ได้มาชมกระทู้นี้ ..บังเอิญว่า ภูทอกเป็นสถานที่ ..ที่ตั้งใจจะไปมาหลายปี ...
และปีนี้ ..คิดว่าต้องไปให้ได้ .. มาเจอกระทู้พี่นอมพอดี ....
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะคะ ...กลุ่มหิน ดู อบอุ่นมากๆๆ
-----------------------------------------------------------------
สวัสดีเช่นกันครับคุณพลายแก้ว ถ้าไปภูทอกช่วงหน้าหนาวน่าจะสวยมากๆเลย เสียดายที่คุณพลายแก้วไม่ไปก่อนที่จะถูกยกขึ้นป็นจังหวัดที่ 77

คำตอบที่ 151
       เป็นไงบ้างน้อเพื่อนๆชาวหินหนุนเห็นภาพข่าวน้ำท่วมแล้วไม่รู้ว่าเราจะได้ช่วยเหลือเขาสักเพียงใด

คำตอบที่ 152
       ขอเพียงส่งเสียงมา จะไปในทันใด(ถ้าไม่ติดภาระกิจนะ)ถ้าหากเป็นเธอจะรีบไป จิตใจยังพร้อมและยินดี

คำตอบที่ 153
       ขอโทษที คำตอบที่ 152 ไม่ได้ย่อรูป แต่ด้วยใจจริงอยากจะช่วยจริงๆนะครับ ต้องขอโทษอีกที

คำตอบที่ 154
       พี่นอมพี่คง ผมไปซื้อมาแล้วครับเครื่อง 1KZ-TE 185 Inter บน พรุ่งนี้จะเอาไปให้โอแมน ณ.ป่ายิ้ม วางให้นะครับ

คำตอบที่ 155
       เครื่องสวยดีครับคุณชาตรี คงสมใจละคราวนี้เรื่องแรงเร็ว กดคันเร่งแล้วทันใจดีแต่ ค่าน้ำมันคนละเรื่องกับแก๊สเลยนะครับ

คำตอบที่ 156
       พี่นอม พี่คง ไปชมภาพทั้งหมดได้ที่เพื่อน KZ ภาค 11 ครับ อัตราการกินน้ำมันประมาณ 10-11 โล/ลิตร ครับที่ความเร็ว 120-130 กม. เท่าที่โอแมน ณ.ป่ายิ้ม ทดลองมา ผมว่า OK แล้วครับกับเครื่องดีเซลที่มีแรงเยอะ ๆ ๆ ๆ 145 ม้า แรงบิด 35 Kg/nm. ที่ 2000 รอบแบบนี้

คำตอบที่ 157
       ขอแสดงความเสียใจกับ คุณเกรียงไกร เทพพิทักษ์ เพื่อนอาสาฯ 005 ที่บ้านพักคุณแม่และพี่ชายถูกไฟไหม้หมดทั้งสองหลังครับ

คำตอบที่ 158
       ขอขอบพระคุณสมาชิก "หินหนุนกลุ่มเพื่อนอาสาฯ" ทุกท่านและเพื่อนสมาชิกออฟโรดทุกชมรมที่ห่วงใยโทรศัพท์มาพูดคุยและให้กำลังใจ ช่วงนี้ผมคงต้องช่วยเหลือคนใกล้ตัวก่อน แล้วคงได้พบกันเมื่อชาติต้องการ (เนื้อคู่กันแล้วต้องไม่แคล้วกัน)

คำตอบที่ 159
       สุขสันต์วันเกิด ที่จะมาถึงอีกรอบพรุ่งนี้ ครับลุงคอง ขออวยพรให้มีอายุ วรรณะ สุขขะ พละ สมปราถนาทุกประการ ครับ

คำตอบที่ 160
       ขอบคุณครับ ขอให้พรนั้นคืนสนองคนอวยพรเช่นเดียวกันครับ

คำตอบที่ 161
       สุขสันต์วันเกิด ย้อนหลังครับพี่คอง ขอให้พี่มีอายุยืนยาวตลอดไปครับ คิดเงินให้ได้เงิน คิดทองก็ขอให้ได้ทอง และขอให้การเดินทางทุก ๆ ๆ ทริป ปลอดภัยตลอดไปครับ

คำตอบที่ 162
       ไม่มีใครสนใจ"บั้งไฟพญานาค"หรือครับ