คำตอบที่ 1
       ก็นานาจิตตังครับ แต่ผมก็เห็นด้วยว่ามันจะเป็นการทำลายทางให้บอบช้ำหนักขึ้นไปอีก ส่วนใหญ่ผมเชื่อว่าต้องการเข้าป่าเพื่อดูธรรมชาติที่สวยงาม เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรจะไปทำลายทางโดยใช้ยางมัดโซ่ บางคนอาจมีทักษะในการใช้ 4W ไม่มากก็จะใช้วิธีปั่น และยิ่งปั่นในทางเละๆเท่าไร รถก็จะยิ่งจม และทางก็จะถูกทำลายมากขึ้น และรถที่ไม่ได้มัดโซ่ก็จะใช้ทางยากขึ้นไปอีก

คำตอบที่ 2
       แต่ก่อนชาวบ้านเค้าก็ใช้โซ่พันล้อเหมือนกันครับ เพราะไม่มีรถขับเคลื่อนสี่ล้อกัน เพียงแต่ว่าพอช่วงหน้าแล้งเค้ามาช่วยซ่อมแซมกันครับ

คำตอบที่ 3
       รู้แต่โซ่มัดยางครับ ยางมัดโซ่ยังไม่ชำนาญครับ

คำตอบที่ 4
       ใช่ยางที่ติดมากับรถ ยี่ห้อหนึ่งหรือเปล่าครับ

คำตอบที่ 5
       แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจนะครับว่า โซ่กับยาง simex 34 ,35 นี่เวลาปั่นกันจริง ๆ แล้วแบบไหนจะหนักหนาสาหัสกว่ากัน ไม่ใช่ว่าจะเข้าข้างโซ่พันล้อนะครับ

คำตอบที่ 6
       คุณราดหน้า... ผมว่าไม่หนีกันหรอกกับความเสียหาย ระหว่างยางดอกมหาโหดและการพันโซ่...

คำตอบที่ 7
       เท่าที่เคยเห็นนะครับยางsimexถ้าได้ปั่นแล้วผมว่ายิ่งกว่าพันโซ่เสียอีกนะครับ เวลาพันโซ่รถไม่สามารถวิ่งเร็วได้อยู่แล้วต้องกะดืบๆๆไปทีละนิดๆ ที่แสดงความคิดเห็นแบบตรงไปตรงมานะครับ ไม่คิดจะสนับสนุนหรือค้านความคิดเห็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะต่อให้ใครเสนอความคิดเห็นอย่างไรก็คงไม่ทำให้ถูกใจพอใจกันได้ทุกฝ่ายอยู่แล้ว ส่วนตัวผมเองฝนนี้ก็จะหาsimex มาใช้เช่นกัน

คำตอบที่ 8
       โซ่พันล้อเนี่ยชาวบ้านที่มีความจำเป็นในการเดินทางในช่วงหน้าฝนจะใช้กันเห็นได้บ่อยๆครับอันนี้เป็นการทำเพื่อดำรงชีพคงไม่ต้องพูดถึงและก็พวกเขาจะซ่อมทางกันในช่วงหน้าแล้งอยู่แล้ว
ประเด็นที่น่าสนใจคือพวกนักท่องเที่ยวอย่างเราๆท่านๆนี่ละครับที่ว่าจะเข้าข่ายทำลายทางแล้วไม่ช่วยเขาซ่อมเสียด้วย ยาง SIMEX นี่ก็ตัวดีเลยครับปั่นกันจนเป็นหลุมลึกทำลายมากกว่า พันโซ่เสียอีกในความคิดของผมก็เช่นเดียวกับพี่ม้าแกลบแหละครับฝนนี้ก็คงจะต้องเปลี่ยนรองเท้าให้เจ้ากระทิงโทนเหมือนกัน

คำตอบที่ 9
       ไม่ว่าใส่โซ่หรือใส่ยางบังไซแมกค์ มันก็คือกัน...คือในความหมายของคนออฟโรดรุ่นเก่าเขาเรียกว่าหมดฝีมือหรือไม่ได้ไช้ความสามารถอะไรเลยที่เอาชนะธรรมชาติ แป็บเดียวก็ถึงที่หมายแล้วจะไปเอาความหมายอะไรจากการเที่ยวป่าที่เรียกว่าออฟโรด อันนี้ไม่ได้ว่าอะไรนะเป็นความเห็น ยางมัดก็พอมัง..

คำตอบที่ 10
       การเอาชนะธรรมชาติได้ก็ไม่ได้หมายถึงว่าคนๆนั้นเป็นคนมีฝีมือ การเอาชนะธรรมชาติไม่ได้ก็ไม่ได้หมายถึงคนๆนั้นไม่มีฝีมือ การที่แป็บเดียวถึงที่หมาย กับ การที่นานหน่อยกว่าจะถึงที่หมาย ถ้าขับรถออฟโรดเข้าไป ความหมายของมันก็คือการเที่ยวป่าแบบออฟโรดเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ หรือจะเรียกเป็นอย่างอื่น ออฟโรดรุ่นไหนเขาก็ไม่ดูถูกกันหรอกครับว่าหมดฝีมือ อันนี้ก็ไม่ได้ว่านะครับเป็นความเห็น..

คำตอบที่ 11
       ขอเพิ่มเติมนิดเดียวครับ ผมว่า อยู่ที่สถานการณ์มากกว่า อยากให้ทุกคนที่ใช้รถ เข้าใจธธรมชาติ เข้าใจรถ เข้าใจผู้ที่ต้องใช้เส้นทางร่วมกัน เอาเป็นว่า ไม่ปั่น ไม่พันโซ่ เป็นอันว่าดี ( อาจจะไม่ดีที่สุด )

คำตอบที่ 12
       น่าจะให้ความสนใจในแง่ของทัศนะคติที่เราเข้าป่ากันนะครับ

ถ้าจะเอามันในการลุยน้ำลุยโคลนก็ไปบ่อดินหรือสนามแข่งที่ไหนก็ได้ ใกล้ดี
หรืออยากจะให้คนเขาเห็นกันว่าพวกกูแน่ ไปในที่ใครๆ เขาไปไม่ได้ ในฤดูกาลที่ไม่มีใครกล้าเสี่ยง ก็อีกเรื่อง
ชาวบ้านชาวป่าอาศัยทางเป็นเรื่องความเป็นความตายของเขาครับ
การเข้าป่าของผม อาจจะไม่เหมือนกับคนอื่น แต่ผมเข้าไปด้วยความเคารพในธรรมชาติ กับคนอื่นๆ ที่ใช้ป่าร่วมกับเรา ผมเห็นคุณค่าของความเป็นมิตรและเพื่อนร่วมทางที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นอะไรที่เราจะรำลึกถึงในเวลาที่ผ่านมาด้วยความสุขใจ
ไม่ต้องมีการลุยน้ำลุยโคลนมาเสริม

หน้าฝนเป็นระยะที่ป่าจะฟื้นตัวของมัน ปล่อยให้ธรรมชาติจัดการกับตัวของมันเองเถอะ

ความคิดเห็นส่วนตัว ด้วยความเคารพครับ

คำตอบที่ 13
       ดีแล้วครับคุณนกขมิ่น หน้าฝนจะได้ไม่ต้องมาแย่งกันเที่ยว ด้วยความเคารพคุณเที่ยวหน้าแล้ง ผมเที่ยวหน้าฝน ลงตัวครับท่าน ส่วนเรื่องยางก็เป็นความเห็น ไม่ได้ดูถูกอะไรเทือกนั้น คนที่ชอบอะไรก็ว่ากันไป ผมเข้าใจคนรุ่นใหม่ มั่นใจไว้ก่อน ดีครับ แต่ถ้าไปไม่ได้แล้วดันลัดตัดต้นไม้เบิกทางเป็นสี่ห้าเลนแบบในคริตี้ (ในโป่งตะแบกก็เริ่มอีกแล้ว)เรียกว่าเอาเปรียบธรรมชาติไม่ควรทำ อย่างนี้คงไม่ต่อว่าผมนะครับ ถ้าใส่ไซแม็กแล้วไปไม่ได้จะดันเปิดทางใหม่ จอดแล้วเดินไปยังไม่น่าอายกว่า

คำตอบที่ 14
       คนใช้รถออฟโรดก็มีอยู่หลายแบบครับ บางคนใช้เพราะต้องการให้เป็นพาหนะพาเข้าไปหาธรรมชาติ บางคนใช้เพราะต้องการความสะใจในการเอาชนะธรรมชาติ บางคนใช้เพราะรักในเครื่องยนต์กลไก บางคนใช้เพราะคนอื่นเค้ามีใช้กัน บางคนใช้เพราะมีอาชีพต้องหากินกับรถออฟโรด บางคนใช้เพราะเบื่อความจำเจลองหาอะไรใหม่ๆเล่นดีกว่า
นายแพทย์บางคนก็ใช้ออฟโรด นักเลงโตบางคนก็ใช้ออฟโรด
โซ่กับยางsimax ก็พอๆกันแหละครับ เจอประเภทดื้อหัวรั้น ไปไม่ได้ก็ไม่ยอม แต่งรถมาเต็มที่แล้วจะเสียฟอร์มได้งัย ต้องปั่นๆๆๆๆ ปั่นกันจนกลายเป็นปั่นโศก จะยอมให้ใครมาลากเป็นไม่ยอม หรือไม่ก็ขี้เกียจลากวิ้นซ์ ทีนี้รถที่ตามมาก็ซวยสิครับ พวกปั่นซะลึกแล้ว จะลงไปปั่นต่อก็กลัวรถพัง เบี่ยงเอาดีกว่า พอใช้เบี่ยงก็กลายเป็นผู้ต้องหาเปิดไลน์ใหม่อีก
สรุปคือ ตัวใครตัวมันครับ

คำตอบที่ 15
       รวมทั้งหมดแล้วมาจบคำว่า"จิตสำนึก"ของแต่ละคน ใครคงไปว่าใครไม่ได้หรอกครับ เฮยๆ