คำตอบที่ 8
โครงการ สายใยอุตสาหกรรมสู่ชุมชน ( โครงการ 7 )
สถานที่ 1. โรงเรียนเขาเขียว ม.14 ต. ระบำ อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี
2. โรงเรียนบ้านโป่งมะค่า ม.7 ต. ระบำ อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี
3. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขามะตูม ม.15 ต. แม่เปิน กิ่ง อ. แม่เปิน จ. นครสวรรค์
ระยะเวลาเตรียมงาน ระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม ถึง วันที่ 5 กรกฎาคม 2546
หมายกำหนดการเดินทาง วันที่ 12 กรกฎาคม 2546
ผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มเทคนิคอาสา โทร. : (038) 480111-4 ต่อ 104 ,113
FAX. : (038) 480 695
1. คุณวิลาวัลย์ เผื่อนพึ่ง โทร. : 09-244 7304
2. คุณสายชล ทัพพุ่ม โทร. : 01-864 1803
3. คุณวชิระ สุขเกษม โทร. : 01-209 3003
4. คุณกมลรัตน์ วงษ์สำราญ โทร. : 01-424 0316
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมและชุมชนใกล้เคียง
2. เพื่อส่งเสริมและประสานความร่วมมือกันในการพัฒนาชุมชน
3. เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กลุ่มอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้ชุมชนได้รับทราบ
4. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนนโยบายการขยายโอกาสทางการศึกษา และปฏิรูปทางการศึกษา ควบ
คู่กับนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาล โดยจัดหาหนังสืออุปกรณ์การเรียน การสอน
อีกทั้งอุปกรณ์กีฬา เพื่อเป็นประโยชน์แก่เยาวชน และเป็นแหล่งความรู้ประจำหมู่บ้าน
5. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ร่วมโครงการ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
6. เพื่อให้ผู้ร่วมโครงการได้รู้จักการทำงานร่วมกัน มีความรับผิดชอบ เสียสละ และอดทน
มีความคิดสร้างสรรค์ และการปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ดี
7. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชน ทั้งยังได้เรียนรู้และสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน
8. เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร, อาหารแห้งสำหรับโครงการอาหารกลางวัน
9. เพื่อช่วยเหลือ และบรรเทาเกี่ยวกับการเจ็บไข้ได้ป่วย และความปลอดภัยในชีวิตของเด็กนัก
เรียนและชาวบ้าน โดยการแนะนำให้ความรู้ด้านสาธารณสุข
สภาพทั่วไปของท้องถิ่น
1. โรงเรียนเขาเขียว เป็นสาขาของโรงเรียนเขาขวางวิทยา มีเด็กนักเรียนจำนวน 45 คน
โดยแบ่งเป็นเด็กเล็กก่อนวัยเรียน 29 คน และมีครูผู้สอนจำนวน 1 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมปีที่ 1 - 3 หลังจากนั้นต้องไปเรียนต่อที่โรงเรียนแม่ คือ โรงเรียนเขาขวางวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 9 กม. อาคารที่ใช้เรียนเป็นอาคารชั่วคราว 1 หลัง ไม่มีผนังกั้นระหว่างห้อง มีส้วมชั่วคราว 1 ที่นั่ง และโรงอาหารที่ชาวบ้านช่วยกันสร้าง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากยังขาดงบประมาณในการก่อสร้าง ปัจจุบันงบประมาณอาหารกลางวันไม่เพียงพอต่อความต้องการ ต้องอาศัยชาวบ้านช่วยเจือจุนในบางโอกาส
สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน เป็นที่ราบเชิงเขา ตั้งอยู่ในบริเวณเขตุป่ากันชนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี อยู่ห่างจากตัวอำเภอ 34 กม. การคมนาคมบางส่วนเป็นถนนลูกรัง ส่วนใหญ่เป็นถนนดิน ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ และไม่มีสถานีอนามัยภายในหมู่บ้าน หากมีเหตุจำเป็นจะต้องส่งตัวไปสถานีอนามัย ต.ระบำ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 15 กม. มีประชากรจำนวน 438 คน แบ่งเป็น 103 ครัวเรือน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ข้าวโพด ผลผลิตขึ้นอยู่กับธรรมชาติ จึงมีรายได้ที่ไม่แน่นอน อีกทั้งยังมีสัตว์ป่าลงมากัดกินพืชไร่เสียหาย ชาวบ้านมีอุปนิสัยใจคอดี ยินดีต้อนรับคนต่างถิ่นและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการเป็นอย่างดี ชาวบ้านไม่หาของป่าหรือล่าสัตว์ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านตัวอย่างนำร่องในโครงการหมู่บ้านปลอดยาเสพติดอีกด้วย
2. โรงเรียนบ้านโป่งมะค่า เป็นสาขาของโรงเรียนบุ่งอ้ายเจี้ยม มีนักเรียน 45 คน ครูผู้สอนจำนวน 2 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้นประถม 4 หลังจากนั้นต้องไปเรียนต่อที่โรงเรียนบุ่งอ้ายเจี้ยม ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 7 กม. มีอาคารเรียน 1 หลังแบ่งเป็น 4 ห้องเรียนและมีอาคารเอนกประสงค์อีก 1 หลัง มีงบประมาณอาหารกลางวันแต่ยังไม่เพียงพอ อีกทั้งยังขาดอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร ปัจจุบันทำอาหารเลี้ยงนักเรียนสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเท่านั้น
สภาพทั่วไปของบ้านโป่งมะค่า เป็นที่ราบเชิงเขาในเขต อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี อยู่ห่างจากตัวอำเภอ 24 กม. การคมนาคมบางส่วนเป็นถนนลูกรัง ส่วนใหญ่เป็นถนนดิน มีไฟฟ้าใช้แล้ว แต่ระบบน้ำประปายังมีไม่เพียงพอ มักขาดน้ำในช่วงหน้าแล้ง อีกทั้งน้ำที่ใช้เป็นน้ำบาดาลที่ขาดคุณภาพ ทำให้ไม่เหมาะแก่การดื่มกิน มีจำนวนประชากรประมาณ 250 คน แบ่งเป็น 70 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำไร่ เช่น ทำไร่ข้าวโพดและมันสำปะหลัง ผลผลิตขึ้นอยู่กับธรรมชาติจึงมีรายได้ไม่แน่นอน
3. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขามะตูม เด็กนักเรียนทั้งหมดเป็นเด็กเล็กก่อนวัยเรียน อายุ 2 - 3 ขวบ รวมทั้งสิ้นประมาณ 22 คน มีครูผู้สอน 1 คน เป็นศูนย์พักและพัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ก่อนส่งต่อระดับประถมในพื้นที่ใกล้เคียง มีอาคารเรียน 1 หลัง แต่ยังขาดอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา รวมถึงอุปกรณ์เสริมทักษะเด็กเล็ก มีงบประมาณอาหารกลางวัน แต่ไม่ค่อยพอเพียงต่อความต้องการ หมู่บ้านตั้งอยู่บนที่ราบสูง ห่างจากตัวอำเภอ 35 กม. มีประชากร 620 คน แบ่งเป็น160 ครัวเรือน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ เช่น ข้าวโพดและอาชีพรับจ้างทั่วไป
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ทำให้เกิดภาพลักษณ์ของกลุ่มอุตสาหกรรมต่อชุมชนดีขึ้น
2. ทำให้มีโอกาสได้รับความร่วมมือ และการประสานงานที่ดี ระหว่างชุมชนและกลุ่มอุตสาหกรรม
3. ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการเกิดจิตสำนึกที่ดี ที่จะทำงานเพื่อสังคม มีโอกาสได้สัมผัสกับสภาพที่
แท้จริงของชุมชน ที่อยู่ห่างไกลความเจริญด้านต่างๆ เพื่อเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือผู้ที่ยากลำบากกว่า และมีโอกาสเรียนรู้ปัญหาของชาวบ้าน เพื่อหาแนวทางการแก้ไข โดยร่วมมือ ระหว่างภาครัฐและเอกชน
4. สามารถช่วยเหลือเยาวชนในท้องถิ่นที่ห่างไกลได้มีโอกาสได้รับการพัฒนา เพื่อเป็นกำลังที่ดี
ในการพัฒนาประเทศต่อไป
5. ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับประสบการณ์ต่างๆ โดยตรง และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิต
ประจำวัน
6. ก่อให้เกิดความเข้าใจ และความรู้สึกที่ดีต่อกันระหว่างสังคมเมืองกับสังคมชนบท
ประเภทสิ่งของที่รับบริจาค
- ข้าวสาร, อาหารแห้ง, อุปกรณ์ทำอาหารเช่น เตาแก๊สและเครื่องครัว
- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงาน
- อุปกรณ์การเรียน, หนังสือเด็กเล็ก
- อุปกรณ์กีฬา
- รองเท้าแตะ
- เสื้อผ้า, เครื่องนุ่งห่ม, เครื่องนอน
- ยารักษาโรคเบื้องต้น
- วัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง
ลงชื่อ...........................................
(นางสาววิลาวัลย์ เผื่อนพึ่ง)
ประธานกลุ่มเทคนิคอาสา
โครงการ สายใยอุตสาหกรรมสู่ชุมชน ( โครงการ 7 )
สถานที่ 1. โรงเรียนเขาเขียว ม.14 ต. ระบำ อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี
2. โรงเรียนบ้านโป่งมะค่า ม.7 ต. ระบำ อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี
3. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขามะตูม ม.15 ต. แม่เปิน กิ่ง อ. แม่เปิน จ. นครสวรรค์
ระยะเวลาเตรียมงาน ระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม ถึง วันที่ 5 กรกฎาคม 2546
หมายกำหนดการเดินทาง วันที่ 12 กรกฎาคม 2546
ผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มเทคนิคอาสา โทร. : (038) 480111-4 ต่อ 104 ,113
FAX. : (038) 480 695
1. คุณวิลาวัลย์ เผื่อนพึ่ง โทร. : 09-244 7304
2. คุณสายชล ทัพพุ่ม โทร. : 01-864 1803
3. คุณวชิระ สุขเกษม โทร. : 01-209 3003
4. คุณกมลรัตน์ วงษ์สำราญ โทร. : 01-424 0316
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมและชุมชนใกล้เคียง
2. เพื่อส่งเสริมและประสานความร่วมมือกันในการพัฒนาชุมชน
3. เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กลุ่มอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้ชุมชนได้รับทราบ
4. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนนโยบายการขยายโอกาสทางการศึกษา และปฏิรูปทางการศึกษา ควบ
คู่กับนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาล โดยจัดหาหนังสืออุปกรณ์การเรียน การสอน
อีกทั้งอุปกรณ์กีฬา เพื่อเป็นประโยชน์แก่เยาวชน และเป็นแหล่งความรู้ประจำหมู่บ้าน
5. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ร่วมโครงการ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
6. เพื่อให้ผู้ร่วมโครงการได้รู้จักการทำงานร่วมกัน มีความรับผิดชอบ เสียสละ และอดทน
มีความคิดสร้างสรรค์ และการปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ดี
7. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชน ทั้งยังได้เรียนรู้และสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน
8. เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร, อาหารแห้งสำหรับโครงการอาหารกลางวัน
9. เพื่อช่วยเหลือ และบรรเทาเกี่ยวกับการเจ็บไข้ได้ป่วย และความปลอดภัยในชีวิตของเด็กนัก
เรียนและชาวบ้าน โดยการแนะนำให้ความรู้ด้านสาธารณสุข
สภาพทั่วไปของท้องถิ่น
1. โรงเรียนเขาเขียว เป็นสาขาของโรงเรียนเขาขวางวิทยา มีเด็กนักเรียนจำนวน 45 คน
โดยแบ่งเป็นเด็กเล็กก่อนวัยเรียน 29 คน และมีครูผู้สอนจำนวน 1 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมปีที่ 1 - 3 หลังจากนั้นต้องไปเรียนต่อที่โรงเรียนแม่ คือ โรงเรียนเขาขวางวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 9 กม. อาคารที่ใช้เรียนเป็นอาคารชั่วคราว 1 หลัง ไม่มีผนังกั้นระหว่างห้อง มีส้วมชั่วคราว 1 ที่นั่ง และโรงอาหารที่ชาวบ้านช่วยกันสร้าง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากยังขาดงบประมาณในการก่อสร้าง ปัจจุบันงบประมาณอาหารกลางวันไม่เพียงพอต่อความต้องการ ต้องอาศัยชาวบ้านช่วยเจือจุนในบางโอกาส
สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน เป็นที่ราบเชิงเขา ตั้งอยู่ในบริเวณเขตุป่ากันชนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี อยู่ห่างจากตัวอำเภอ 34 กม. การคมนาคมบางส่วนเป็นถนนลูกรัง ส่วนใหญ่เป็นถนนดิน ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ และไม่มีสถานีอนามัยภายในหมู่บ้าน หากมีเหตุจำเป็นจะต้องส่งตัวไปสถานีอนามัย ต.ระบำ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 15 กม. มีประชากรจำนวน 438 คน แบ่งเป็น 103 ครัวเรือน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ข้าวโพด ผลผลิตขึ้นอยู่กับธรรมชาติ จึงมีรายได้ที่ไม่แน่นอน อีกทั้งยังมีสัตว์ป่าลงมากัดกินพืชไร่เสียหาย ชาวบ้านมีอุปนิสัยใจคอดี ยินดีต้อนรับคนต่างถิ่นและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการเป็นอย่างดี ชาวบ้านไม่หาของป่าหรือล่าสัตว์ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านตัวอย่างนำร่องในโครงการหมู่บ้านปลอดยาเสพติดอีกด้วย
2. โรงเรียนบ้านโป่งมะค่า เป็นสาขาของโรงเรียนบุ่งอ้ายเจี้ยม มีนักเรียน 45 คน ครูผู้สอนจำนวน 2 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้นประถม 4 หลังจากนั้นต้องไปเรียนต่อที่โรงเรียนบุ่งอ้ายเจี้ยม ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 7 กม. มีอาคารเรียน 1 หลังแบ่งเป็น 4 ห้องเรียนและมีอาคารเอนกประสงค์อีก 1 หลัง มีงบประมาณอาหารกลางวันแต่ยังไม่เพียงพอ อีกทั้งยังขาดอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร ปัจจุบันทำอาหารเลี้ยงนักเรียนสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเท่านั้น
สภาพทั่วไปของบ้านโป่งมะค่า เป็นที่ราบเชิงเขาในเขต อ. ลานสัก จ. อุทัยธานี อยู่ห่างจากตัวอำเภอ 24 กม. การคมนาคมบางส่วนเป็นถนนลูกรัง ส่วนใหญ่เป็นถนนดิน มีไฟฟ้าใช้แล้ว แต่ระบบน้ำประปายังมีไม่เพียงพอ มักขาดน้ำในช่วงหน้าแล้ง อีกทั้งน้ำที่ใช้เป็นน้ำบาดาลที่ขาดคุณภาพ ทำให้ไม่เหมาะแก่การดื่มกิน มีจำนวนประชากรประมาณ 250 คน แบ่งเป็น 70 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำไร่ เช่น ทำไร่ข้าวโพดและมันสำปะหลัง ผลผลิตขึ้นอยู่กับธรรมชาติจึงมีรายได้ไม่แน่นอน
3. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขามะตูม เด็กนักเรียนทั้งหมดเป็นเด็กเล็กก่อนวัยเรียน อายุ 2 - 3 ขวบ รวมทั้งสิ้นประมาณ 22 คน มีครูผู้สอน 1 คน เป็นศูนย์พักและพัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ก่อนส่งต่อระดับประถมในพื้นที่ใกล้เคียง มีอาคารเรียน 1 หลัง แต่ยังขาดอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา รวมถึงอุปกรณ์เสริมทักษะเด็กเล็ก มีงบประมาณอาหารกลางวัน แต่ไม่ค่อยพอเพียงต่อความต้องการ หมู่บ้านตั้งอยู่บนที่ราบสูง ห่างจากตัวอำเภอ 35 กม. มีประชากร 620 คน แบ่งเป็น160 ครัวเรือน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ เช่น ข้าวโพดและอาชีพรับจ้างทั่วไป
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ทำให้เกิดภาพลักษณ์ของกลุ่มอุตสาหกรรมต่อชุมชนดีขึ้น
2. ทำให้มีโอกาสได้รับความร่วมมือ และการประสานงานที่ดี ระหว่างชุมชนและกลุ่มอุตสาหกรรม
3. ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการเกิดจิตสำนึกที่ดี ที่จะทำงานเพื่อสังคม มีโอกาสได้สัมผัสกับสภาพที่
แท้จริงของชุมชน ที่อยู่ห่างไกลความเจริญด้านต่างๆ เพื่อเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือผู้ที่ยากลำบากกว่า และมีโอกาสเรียนรู้ปัญหาของชาวบ้าน เพื่อหาแนวทางการแก้ไข โดยร่วมมือ ระหว่างภาครัฐและเอกชน
4. สามารถช่วยเหลือเยาวชนในท้องถิ่นที่ห่างไกลได้มีโอกาสได้รับการพัฒนา เพื่อเป็นกำลังที่ดี
ในการพัฒนาประเทศต่อไป
5. ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับประสบการณ์ต่างๆ โดยตรง และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิต
ประจำวัน
6. ก่อให้เกิดความเข้าใจ และความรู้สึกที่ดีต่อกันระหว่างสังคมเมืองกับสังคมชนบท
ประเภทสิ่งของที่รับบริจาค
- ข้าวสาร, อาหารแห้ง, อุปกรณ์ทำอาหารเช่น เตาแก๊สและเครื่องครัว
- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงาน
- อุปกรณ์การเรียน, หนังสือเด็กเล็ก
- อุปกรณ์กีฬา
- รองเท้าแตะ
- เสื้อผ้า, เครื่องนุ่งห่ม, เครื่องนอน
- ยารักษาโรคเบื้องต้น
- วัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง
ลงชื่อ...........................................
(นางสาววิลาวัลย์ เผื่อนพึ่ง)
ประธานกลุ่มเทคนิคอาสา
ข้อมูลของสามโรงเรียน