คำตอบที่ 4
ถึงคุณ Sea and Oversea
ต้องถามใจตัวเองก่อนว่าวัตถุประสงค์ที่จะยกให้สูงขึ้นนั้นเพื่ออะไร
1. เพื่อให้เท่ห์ โก้หรู หรือดูสวยงาม
2. เพื่อให้สามารถใส่ยางที่มีขนาดใหญ่ได้
3. ผู้ขายเชียร์ให้ใส่ชุดยก
เมื่อก่อนรถผมก็ใส่ชุดยก 4" ของ Procomp Stage II จุดประสงค์ก็เพื่อให้ใส่ยางขนาด 32 ได้ ค่าใช้จ่ายในการยกขึ้น 4 " ประมาณ 44,500 บาท เฉลี่ยค่าใช้จ่ายยกขึ้นประมาณ 11,125 บาทต่อความสูง 1"
ยาง BF MT อีกประมาณเส้นละ 5,800 บาท เบ็ดเสร็จ 5 เส้น คิดเป็นเงิน 29,000
ความเป็นจริงจากกรณีที่ยกให้สูงขึ้นนั้นจะพบว่า ยังมี 2ส่วนของเครื่องล่างที่ยังอยู่ในระดับเดิมคือ
1. ชุดปีกนกล่างหรือเสื้อเพลาหน้าสำหรับพวกคานแข็ง
2. เสื้อเพลาท้าย
ส่วนที่ยกขึ้นไปได้นั้นจะอยู่เหนือ(บน)โครงรถ (Chassis)เท่านั้น ดังนั้นเมื่อเวลาล้อหน้าหรือหลังจะแขวนจะเป็นเพราะ 2 ส่วนนี้ก่อน ยกเว้นพวกที่เล่นโหดๆ จมโคลนลงไปทั้งคันต้องไปให้ถึงที่หมาย พังไม่ว่าขออย่าให้เสียหน้าเพราะว่าแต่งรถเสียเงินมาเยอะแล้ว
เวลาเข้าป่าไปเที่ยวกันจริงๆ ผลปรากฏว่าพวกยาง AT หรือ MT หรือพวกใช้ SUPER SWAMP เจอดินเหนียวอุดดอกยาง กลมเป็น DONUS ก็ลื่นไถลไปตามๆกัน ซึ่งก็ไม่แตกต่างกันหรอก ตกร่องควบคุมทิศทางและ Line ไม่ได้ ยาง AT หรือ MT ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
สู้รถที่ใช้ยาง Standard (HT) และใส่โซ่พันล้อไม่ได้
หากพูดถึงการใช้โซ่พันล้อแล้ว บางคนอาจมีความเห็นว่าการใช้โซ่ทำให้ถนนพัง ซึ่งผมก็ขอบอกว่าหากคุณใช้ความเร็วที่เหมาะสมและถูกวิธีแล้ว ก็มิได้ทำให้ถนนเสียหายอย่างที่พวกคุณหลายคนคิดหรอกครับ
ประเด็นที่คุณต้องพิจารณา
1. คุ้มแล้วเหรอที่ยกขึ้นมา 4 นิ้วๆละหมื่นกว่าบาท
2. ยกขึ้นมาแล้วใส่ยางเดิมก็ดูไม่สวย ก็ต้องเสียเงินซื้อยาง
3. หากใช้ยาง AT MT ต้องมีการถอดสลับยางอยู่บ่อยๆ เพื่อเฉลี่ยหน้าสัมผัสการสึกหรอของหน้ายางให้สม่ำเสมอ มิฉะนั้นจะได้ยินเสียงหน้ายางดัง ปั๊ปๆๆๆๆ กับพื้นถนน เป็นที่น่ารำคาญเวลาฟังวิทยุ
4. รถแต่งแล้วขายยากไม่ได้ราคา เพราะขายได้แต่เฉพาะวัยรุ่น ผู้ใหญ่ไม่ค่อยซื้อ ยกเว้นถอดชุดยกขายแยกต่างหาก ดังนั้นเมื่อจะยกขึ้นจะต้องเก็บชุดเก่าเอาไว้
5. หลายคนมองว่า รถที่ดัดแปลงและแต่งมาแล้ว ลุยใช้งานมามากซึ่งหมายถึงบอบช้ำมาเยอะแล้ว
5. คุณอาศัยอยู่ในเมืองหรืออยู่ในป่ามากกว่ากัน
6. เป็นธุรกิจของคุณอยู่หรือเปล่า
ปัจจุบันของผมเหรอ สูง 4 นิ้วยาง AT คืนสู่สามัญ (ความสูงเดิมๆ ยางเดิมๆ )