จาก แว่นน้ำ ลอกเขามา IP:110.77.232.20
อังคารที่ , 29/3/2554
เวลา : 14:10
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
เปิดตำนานรถพันธุ์ลุย
ความเคลื่อนไหวของรถขับเคลื่อนสี่ล้อในประเทศญี่ปุ่น
ถ้าเริ่มมองย้อนกลับไปดูยานพาหนพที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปกายในที่เดินสายพานผลิตจำหน่ายให้ชาวบ้านชาวช่องใช้งานเป็นครั้งแรกในโลก (ที่สร้างขึ้นแต่ยังได้ออกจำหน่ายขอไม่พูดถึงนะครับ) เราก็ต้องมาเริ่มที่รถยนต์ค่าย KARL BENZ ที่มีออกมาวิ่งตั้งแต่ปี 1886 โดยรถคันนี้มีเพียงสามล้อและขับเคลื่อนที่ล้อหลังเท่านั้น จากนั้นมาก็มีการพัฒนาปรับปรุงจนกลายเป็นสี่ล้อและเริ่มมีระบบขับเคลื่อนทั้งสี่ล้อกันในราวปี 1902 ส่วนถ้าเป็ยในประเทศญี่ปุ่น รถขับเคลื่อนสี่ล้อจะมีออกมาวิ่งกันในปี 1935 โดยเป็นรถจากค่าย KURUGANE ตามมาด้วยผลงานของค่าย ISUZU ในปี 1939 ซึ่งในยุคแรก รถขับสี่ล้อของค่ายรถต่างๆ ยังไม่แพร่หลายเท่าไหร่นัก จนกระทั่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจึงได้มีบทบาทสำคัญในการกิจลาดตระเวนและการส่งกำลังต่างๆ ในราชการทหารซึ่งทำให้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นแต่ก็ยังอยู่ในวงจำกัดเนื่องจากจะมีใช้เป็นยานพาหนะในกองทัพเท่านั้นจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง ค่ายรถในอเมริกาและอังกฤษจึงได้ทำออกมาวางจำหน่ายบนโชว์รูมให้ชาวบ้านชาวช่องได้ถอยลงมาใช้งานกัน
สำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อของค่ายรถญี่ปุ่นนั้น หลังสงครามโลกอาจจะเงียบหายไปบ้าง เนื่องจากต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสภาพบ้านเมืองและเศรษฐกิจนานพอสมควร โดยทางค่ายรถต่างๆเองก็ต้องเดินสายพายผลิตออกมาและส่งไปชดใช้เป็นค่าปฏิกรณ์สงคราม ซึ่งหนึ่งในนี้ก็จะมีรถขับเคลื่อนสี่ล้อรวมอยู่ด้วย ดังนั้นกว่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อจะได้ขึ้นโชว์รูมในเมืองซามูไรก็มาเริ่มที่ต้นทศวรรษที่ 1950 โดยภายหลังทางรัฐเมืองปลาดิบก็จะจัดแยกรถประเภทนี้ออกมาเป็นกลุ่มเฉพาะ เรียกว่าเป็นแบบ Recreational Vehicles หรือเรียกสั้นๆว่า RV ซึ่งปัจจุบันก็เป็นส่วนหนึ่งของ Passenger Cars และถ้าเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นให้ใช้งานเพื่อการพาณิชย์ก็จะแยกไปเป็นส่วนหนึ่งของ Com mercial Vehicles ซึ่งเพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจในรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้อยู่หรือที่กำลังคิดจะใช้ เราก็จะพาท่านทั้งหลายย้อนอดีตกลับไปดูว่าที่เมืองซามูไรนั้นเค้ามีจุดเริ่มต้นและการเจริญเติบโตเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ขอมาจบกันที่ปี คศ. 1996 โดยช่วงเวลาต่อไปจากนั้นท่านจะสามารถติดตามได้ใน รถอเนกประสงค์ 2001 ฉบับประจำปี 2544 ครับ
ปี คศ. 1951 TOYOTA Jeep BJ
นับว่าเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อคันแรกที่ชาวบ้านชาวเมืองซามูไรมีโอกาสได้ควบ โดยก่อนหน้านี้ค่าย TOYOTA ได้เดินสายพานผลิตตระกูล Jeep BJ ที่เป็นรถจี๊ปขนาดกลางสองตอน 6 ที่นั่งให้กับทางเคาบอย จากนั้นเมื่อนำมาจำหน่ายก็จะมีเครื่องยนต์เบ็นซิน 6 สูบ ขนาด 3,386 ซีซี, ตระกูล B เป็นขุมพลัง โดยรถขับสี่ล้อขันนี้ก็จะเป็นแม่แบบให้กับตระกูล Land Cruiser ที่จะแนะนำกันในมิถุนายน ปี 1954 จากนั้นปีถัดมาถึงจะนำขึ้นโชว์รูมให้ถอยลงมาใช้งานกัน
NISSAN Patrol
ในปีเดียวกันนี้ ทางค่ายรถ NIS SAN ก็ได้นำรถจี๊ปขนาดเล็ก 4 ที่นั่งขึ้นโชว์รูม โดยใช้ชื่อรถตระกูลนี้ว่า Patrol ซึ่งรุ่น 4 W 60 ก็ใช้ขุมพลังตระกูล NT ที่เป็นแบบ Side Valve แถวเรียง 6 สูบขนาด 3,670 ซีซี.
ปี คศ.1953 MITSUBISHI Jeep CJ 3 A-J 1/J2
ถอดแบบมาจาก JEEP Willy ของอเมริกา เนื่องจากในช่วงแรกทางค่าย MIT SUBISHI ต้องทำส่งเป็นปฏิกรณ์สงครามนั่นเอง จากนั้นจึงนำขึ้นโชว์รูม โดยมี 2 รุ่นด้วยกันคือ CJ 3 A-J 1 และ CJ 3 A-J 2 ที่และต่างก็ใช้ขุมพลังเบ็นซิน 4 สูบ ขนาด 2,199 ซีซี. เหมือนกัน
MITSUBISHI Jeep CJ 3 B-J 3
หลังจากที่ทางค่าย MITSUBIHI นำรถจี๊ปตระกูล Jeep CJ 3 A ขึ้นโชว์รูมได้ไม่นาน ปรากฏว่าราวเดือนกันยายนก็ได้ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ตามเมืองเคาบอย โดยรุ่นใหม่ CJ 3 B-J 3 นี้ใช้ขุมพลังตระกูล F ที่เป็นแบบเบ็นซินแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 2,199 ซีซี.
ปี คศ. 1995 TOYOTA Land Cruiser 20 (FJ 25/BJ 25)
แม้ว่าทาง TOYOTA จะบอกว่าเป็นการขึ้นไมเนอร์เชนจ์ของตระกูล Jeep BJ แต่เราก็อาจจะนับว่าเป็นเดินสายพานผลิตรถขับเคลื่อนสี่ล้อตระกูลใหม่เลยก็ว่าได้ โดยเค้าเรียกชื่อตระกูลว่า Land Cruiser 20 ซึ่งตัวเลขที่ห้อยท้ายจะหมายถึงรหัสตัวถัง 20 Model ซึ่งมีความยาวฐานล้อให้เลือกขนาดคือ 2,400 มม. และ 2,285 มม. โดยในรุ่นBJ 25 นั้นยังคงใช้ขุมพลังตระกูล B ที่เป็นแบบเบ็นซิน 6 สูบ ขนาด 3,386 ซีซี. แต่มาเป็นรุ่น FJ 25 เปลี่ยนมาใช้ขุมพลังเบ็นซินตระกูล F ที่เป็นแบบแถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,878 ซีซี.
MITSUBISHI Jeep CJ 3 B-J 10
รถในตระกูล Jeep ของค่าย MITSUBISHI นั้น ได้รับความนิยมสูงพอสมควร ดังนั้นทางค่ายรถนี้จึงทำรุ่นต่างๆ ออกมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในรุ่น CJ 3 B-J 10 นี้เป็นการเพิ่มฐานล้อ ให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่งให้เป็น 6 และทาสำคัญก็คือ แรกเดิมที่ตระกูล Jeep เป็นรถพวงมาลัยซ้ายอย่างเดียว มาปีนี้ก็ได้เริ่มทำตัวพวงมาลัยขวาออกมาจำหน่ายอีกด้วย
ปี คศ. 1956 MITSUBISHI Jeep CJ 3 B-J 11
ตลาดเริ่มต้องการรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถโดยสารมาขึ้นเป็นลำดับ ทางค่าย MITSUBISHI จึงได้เพิ่มความยาวฐานล้อให้เป็นรุ่น CJ 3 B-J 11 อีก 610 มม.ซึ่งเป็นผลให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 250 กิโลกรัม โดยยังมีทั้งแบบพวงมาลัยซ้ายและขวาจำหน่ายควบคู่กัน ส่วนขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์เบ็นซินตระกูล JH 4 ที่มีขนาดความจุ 2.0 ลิตรเหมือนเดิม
TOYOTA Land Cruiser 20 (FJ 28)
ตระกูล Land Cruiser เองก็ได้ตอบสนองความต้องการของตลาดแบบทันควันเช่นเดียวกัน โดยออกรุ่น FJ 28 ที่เพิ่มความยาวฐานล้อมากขึ้นคือ จากเดิม 2,400 มม. มาเป็น 2,430 มม. ส่วนขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์ตระกูล F ที่เป็นแบบเบ็นซินแถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3.9 ลิตรเหมือนเดิม
ปี คศ. 1958 MITSUBISHI Jeep JC 3/JC 10
MITSUBISHIT ได้ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ให้กับตระกูล Jeep อีกครั้ง และเปลี่ยนมาใช้ชื่อรุ่นว่า JC 3 และ JC 10 ทั้งสองรุ่นนอกจากจะเป็นรถพวงมาลัยขวาแล้วยังมีขุมพลังดีเซลแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,199 ซีซี. ตระกูล KE 31 ให้เลือกอีกแบบด้วย
ปี คศ. 1959 TOYOTA Land cruiser 30 (FJ 35 V)
ความต้องการรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถจุผู้โดยสารได้มากกว่าธรรมดาของตลาดได้เพิ่มมากขึ้นทุกขนาด ตระกูล Land Cruiser ก็ได้เพิ่มขนาดความยาวให้มากขึ้นไปอีกเพื่อสนองความต้องการ โดยตัวถังของรุ่น FJ 35 V ก็เริ่มเรียกว่าเป็นแบบแวก้อน 5 ประตู ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้ยังคงเป็นเครื่องเบ็นซินตระกูล F ซึ่งเป็นแบบแถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว ขนาด 3,878 ซีซี.
NISSAN Patrol (4 LU 66)
ในขณะเดียวกันค่าย NISSAN เองก็ได้ตอบสนองความต้องการของตลาดโดยการเพิ่มจำนวนที่นั่งให้กับตระกูล Patrol จาก 4 ที่นั่งเป็น 6 ที่นั่ง แต่ก็ยังคงอยู่ในร่างของจี๊ปช่วงสั้นตามเดิม แล้วก็เปลี่ยนขุมพลังที่ซุกอยู่ใต้ฝากระโปรงจากบล็อกเบ็นซินตระกูล NT มาเป็นตระกูล NC ที่ทั้งสองเป็นแบบแถวเรียง 6 สูบ Side Valve เหมือนกัน แต่ความจุจะต่างกัน (จาก 3,670 ซีซี. มาเป็น 3,956 ซีซี.)
ปี คศ. 1960 TOYOTA Land Cruiser 40 (FJ 40/43)
มาปีนี้ค่าย TOYOTA ก็เพิ่มอบบตังถังให้กับตระกูล Land Cruiser อีก 2 รุ่นคือ FJ 40 และ FJ 43 ซึ่งทั้งสองเป็นรถหลังคาผ้าใบที่ต่างกันตรงความยาวฐานล้อ คือ จะมีความยาวตัวรถไม่เท่ากันั้นเอง ส่วนขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์เบ็นซินแถวเรียง 6 สูบ ในตระกูล F ที่เป็นแบบโอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,878 ซีซี.
NISSAN Patrol 60/G 60
หลังจากที่นำ Patrol ขึ้นโชว์รูมมา 9 ปี ค่าย NISSAN ก็ได้ขึ้นเจนเนอเรชั่นออกทายาทมาสืบสกุล โดยใช้รหัสเรียกขานรุ่นต่างๆ เสียใหม่ ซึ่งก็จะมีอยู่ 3 รุ่นด้วยกันคือ 60, G 60 และ FS ซึ่งต่างกันที่ความยาวฐานล้อ ขนาด 2,200 มม., 2,500 มม. และ 2,800 มม. ตามลำดับ และทั้งหมดจะว่างเครื่องเบ็นซินตระกูล P ที่เป็นแบบแถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว ขนาด 3,956 ซีซี. ไว้ใต้ฝากระโปรง
MITSUBISHI Jeep J 20
สำหรับต้นตระกูล Jeep ของค่าย MITSUBISHIT ก็มีการทำไมเนอร์เชนจ์โดยชื่อเสียงเรียงนามก็จะเปลี่ยนไปเรียกแต่ละรุ่นเป็น J ตามด้วยตัวเลขสองตัวที่บ่งบอกว่าเป็นตัวที่มีความยาวฐานล้อขนาดไหน โดยรุ่น J 20 แม้ว่าจะเป็นรถจี๊ปขนาดกลาง แต่ถูกลดความยาวฐานล้อลง 200 มม. ลดความกล้างฐานล้อลง 60 มม. และผลิตแต่พวงมาลัยขวาเพียงอย่างเดียวส่วนเครื่องยนต์จะมีทั้งเครื่องเบ็นซินตระกูล JH 4 และดีเซลตระกูล KE 31
MITSUBISHI Jeep J 30
จี๊ป J 30 ก็เป็นรุ่นหนึ่งของตระกูล Jeep ของค่าย MITSUBISHIT ซึ่งได้พัฒนามาจากรุ่น JC 11 ที่เป็นทายาทตระกูล JC 10 โดยเครื่องยนต์ที่ประจำการอยู่จะเป็นเครื่องเบ็นซินตระกูล JH 4 ครับ
ปี คศ. 1962 MITSUBISHI Jeep J 32
ค่ายมิซูมิชิได้ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ให้กับ Jeep J 20 โดยในรุ่น Jeep 32 นี้แม้จะมีความยาวเท่าเดิม แต่ก็ได้เพิ่มให้มีจำนวน 6 ที่นั่ง ส่วนขุมพลังที่ใช้ยังคงเป็นเครื่องยนต์ตระกูล JH 4 เหมือนเดิม นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่น J 40 ออกมาสมทบ โดยมีรถจี๊ป 9 ที่นั่งที่ใช้ขุมพลังดีเซลตระกูล KE 31 ที่มีให้เลือกในรุ่น J 32 อีกด้วย
ปี คศ. 1967 TOYOTA Land cruiser FJ 55 V
เว้นไปร่วม 7 ปี ทางค่าย TOYOTA ก็ได้ออกรุ่นใหม่ให้กับตระกูล Land Cruiser โดยเป็นรุ่น FJ 55 V ที่เป็นแบบ 4 ประตูใช้ขุมพลังเบ็นซินตระกูล F ขนาด 4.0 ลิตรที่ปั่นม้าออกมาใช้งานได้ 130 ตัว
ปี คศ. 1968 HOPE START ON 360
อาจจะเป็นค่ายรถที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่ผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังค่าย HOPE START ก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน เป็นค่าย SUZUKI นั่นเอง รถตระกูล ON 360 นี้เป็นรถขับเคลื่อนสี่หลังคาเปิดขนาดเล็ก 2 ที่นั่งที่ใช้ขุมพลังตระกูล ME-24 ซึ่งเป็นเครื่องเบ็นซิน 2 สูบ 2 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ขนาด 359 ซีซี.เท่านั้น
ปี คศ. 1970 MITSUBISHI Jeep J 24/J 36/J 44/J 54
ดูเหมือนว่าค่าย MITSUBISHIT ขยันปรับปรุงรุ่นต่างๆ ของตระกูล Jeep อย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากทิ้งช่วงมาเกือบ 8 ปี เค้าก็ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ให้กับรุ่นต่างๆ ทั้งหมด ในรุ่น J 54 ที่เป็นรถจี๊ปขนาดเล็ก ได้เพิ่มความยาวฐานล้ออีก 65 มม. จากนั้นก็มาเปลี่ยนความกว้างฐานล้อเป็น 1,300 มม. ส่วนขุมพลังต่างๆ ที่นำมาวางก็ยังคงเหมือนเดิม โดยเครื่องยนต์ดีเซลนอกจากจะมีตระกูล KE 31 แล้วยังได้ตระกูล 4 DR 5 ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว ขนาด 2,659 ซีซี. มาประจำการอีกบล็อกหนึ่งด้วย
SUSUKI Jimny 360 (LJ 10)
คงไม่แปลกใจอะไรถ้าจะบอกว่ารถตระกูลใหม่ Jimny 360 ที่มีรหัสตัวถัง LJ 10 ของค่าย SUSUKI คันนี้ก็มาจาก HOPE START 360 นั้นเอง โดยนอกจากจี๊ปขับเคลื่อนสี่ล้อ 2 ที่นั่งคนนี้จะมีหน้าตาของตัวเครื่องที่เปลี่ยนไปแล้ว ขุมพลังของมันก็ถูกเปลี่ยนไปใช้ตระกูล FB แต่ยังคงเป็นแบบเบ็นซิน 2 สูบ 2 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 359 ซีซี. และรถคันนี้ก็มีน้ำหนักบรรทุกรวม 250 กิโลกรัม
ปี คศ. 1972 SUSUKI Jimny 360 (LJ 20)
หลังจากที่ทางค่าย SUSUKI เดินสายพานผลิตตระกูล Jimny ออกมาได้เพียง 2 ปี ปรากฏว่าประชาชนต่างก็ต้อนรับรถจี๊ปขนาดเล็กที่มีค่าตัวย่อมเยารุ่นนี้อย่างเกินคาด ดังนั้นในปีนี้เค้าจึงทำไมเนอร์เชนจ์ให้ตัวรถดูไฉไลขึ้น แต่หัวใจสำคัญก็ยังคงอยู่ที่ขุมพลังซึ่งเปลี่ยนมาใช้บล็อก L 50 ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแบบเบ็นซิน 2 สูบ 2 จังหวะ ขนาด 359 ซีซี.เหมือนเดิม แต่ก็เปลี่ยนจากระบายความร้อนด้วยอากาศมาระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปี คศ. 1973 MITSUBISHI Jeep J 22/J 34/J 54
ค่าย MITSUBISHIT ทำไมเนอร์เชนจ์ให้กับตระกูล Jeep อีกครั้ง โดยรายละเอียดของตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นขุมพลังนอกจากจะมีเครื่องยนต์เบ็นซินตระกูล JH 4 แล้วเค้ายังได้เพิ่มเครื่องยนต์ตระกูล KE 47 (คนละบล็อกกับเครื่องดีเซลตระกูล KE 31 นะครับ) ที่เป็นเบ็นซิน 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว ขนาด 2,315 ซีซี.เข้ามาอีกครั้ง
ปี คศ. 1974 MITSUBISHI Jeep J 26/J 38/J46/J 56
หลังจากขึ้นไมเนอร์เชนจ์ให้กับตระกูล Jeep เพียงไม่กี่เดือนทางค่าย MITSUBISHIT ก็ได้ปรับเครื่องยนต์ที่ประจำการใหม่อีกครั้ง โดยได้ปลดประจำการเครื่องยนต์เบ็นซินตระกูล JH 4 แต่ยังคงบล็อค KE 47 เอาไว้ และนำเครื่องยนต์ตระกูล Astron ที่มีรหัส 4 G 53 มาวาง เครื่องยนต์เบ็นซินบล็อคนี้เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 2,384 ซีซี.
TOYOTA Land Cruiser 40
หลังจากที่ค่าย TOYOTA ได้ขึ้นเจนเนอเรชั่น Land Cruiser 40 มาตั้งแต่ ปี คศ. 1960 ซึ่งมีรุ่น FJ 40 และ FJ 43 ตามด้วย FJ 55 V ที่ทั้งหมดใช้ขุมพลังเบ็นซินแล้ว พอมาเดือนกุมภาพันธ์ปี 1974 ก็ได้เพิ่มรุ่น BJ 40 และ BJ 43 ที่เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล B ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,977 ซีซี.
DAIHATSU Taft 1000
เมื่อ SUSUKI Jimny ประความสำเร็จชนิดน่าพอใจ ทางค่าย DAIHATSU เจ้าพ่อรถเล็กอีกค่ายจึงได้เดินสายพานผลิตรถจี๊ปขับเคลื่อน 4 ล้อออกมาลุยกับเขาบ้าง โดยใช้ชื่อตระกูลว่า Taft ซึ่งถ้าเป็นแบบช่วงสั้น 4 ที่นั่งจะมีรหัสตัวถังว่า F 10 และถ้าเป็นแบบช่วงยาว 6 ที่นั่งก็จะใช้รหัสตัวถังว่า F 10/L โดยทั้งคู่มีเครื่องยนต์เบ็นซิน 4 สูบตระกูล EF ขนาด 958 ซีซี. เป็นขุมพลัง
ปี คศ. 1975 TOYOTA Land Cruiser FJ 56 V
ตระกูล Land Cruiser ของค่ายโตโยต้าก็ได้ออกรุ่นใหม่ FJ 56 V ซึ่งนอกจากจะเปลี่ยนขุมพลังจากเครื่องยนต์เบ็นซินตระกูล F มาเป็น 2 F ที่เป็นแบบแถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 4,230 ซีซี. แล้วยังเปลี่ยนแปลงระบบเกียร์ส่งกำลังจากธรรมดา 3 จังหวะมาเป็น 4 จังหวะด้วย
MITSUBISHI Jeep J 58
ทางค่าย MITSUBISHIT ก็ได้เพิ่มรุ่นให้กับตระกูล Jeep เพื่อให้คนสามารถเลือกใช้ได้มากขึ้น โดยรุ่น J 58 ที่เพิ่มขึ้นมานี้จะใช้ขุมพลังเบ็นซินตระกูล Astron รหัส 4 G 52 ซึ่งเป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ แค็บเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,995 ซีซี.
ปี คศ. 1976 DAIHATSU Grand Taft 1600
ทางค่าย DAIHATSU ก็ได้มาเสริมกำลังให้รถจี๊ปขนาดเล็กตระกูล Taft ของตัวเองให้กำลังมาขึ้น โดยเพิ่มรุ่น Grand Taft 1600 ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบ็นซินบล็อค 12 R ของ TOYOTA ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 1,587 ซีซี.
SUSUKI Jimny 55 (SJ 10)
ค่าย SUSUKI ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ให้กับตระกูล Jimny อีกครั้งโดยตัวรถจะเปลี่ยนมาใช้รหัส SJ 10 ส่วนขุมพลังเปลี่ยนจากตระกูล L 50 มาเป็นตระกูล LJ 50 ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเครื่องเบ็นซิน 2 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำเหมือนกันแต่เป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ ทำให้มีความจุกระบอกสูบเพิ่มขึ้นจาก 359 ซีซี.เป็น 539 ซีซี.
ปี คศ. 1977 SUSUKI Jimny 8 (SJ 20)
แม้ว่าทาง SUSUKI จะเน้นให้รถขับเคลื่อนสี่ล้อตระกูล Jimny เป็นรถจี๊ปขนาดเล็กที่มีขุมพลังไม่ใหญ่นัก แต่เขาก็ต้องเพิ่มให้ขุมพลังมีกำลังมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นในรุ่น Jimny 8 ที่มีตัวถังเดียวกับปีที่แล้วก็ได้ใช้ขุมพลังบล็อก F 8 A เครื่องยนต์เบ็นซิน 4 สูบ ( 4 จังหวะ) ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 797 ซีซี.
SUSUKI Jimny 55 (SJ 10-2)
ในช่วงเดือนกันยายนปีนี้ นอกจาก SUSUKI จะออก Jimny รุ่นใหม่คือ Jimny 8 แล้ว ทางเค้าก็ยังเพิ่มให้รุ่น Jimny 55 โดยได้เพิ่มความกว้างฐานล้ออีก 100 มม. และยังมีขนาดของถังน้ำมันเชื้อเพลิงให้เลือกตั้งแต่ความจุ 26 ลิตรจนถึง 60 ลิตรเพื่อเพิ่มพิสัยการเดินทาง
ปี คศ. 1978 DAIHATSU Taft D 2500
เมื่อได้เพิ่มให้รถตระกูล Taft ของตัวเองมีขุมพลังเบ็นซินประจำการ 2 บล็อกคือ เครื่อง 2 F 4 สูบ ขนาด 1.0 ลิตรและ 12 R 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตรแล้ว ค่าย DAIHATSU ก็ได้เอาขุมพลังดีเซลมาให้เลือกใช้บ้าง โดยเป็นบล็อก DG ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ ขนาดความจุ 2,530 ซีซี.
SUSUKI Jimny 55 (SJ 10-3)
เป็นการเพิ่มแบบตัวถังจี๊ปตระกูล Jimny ให้หลากหลายขึ้นกว่าเดิม โดยในรุ่น Jimny 55 นี้นอกจากจะมีฐานล้อกว้างแล้ว ยังเพิ่มประตูด้านข้างด้วย (จากเดิมใช้ประตูผ้าใบโครงเหล็กอย่างเดียว) ส่วนขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์ตระกูล F 8 A ขนาด 800 ซีซี.เหมือนเดิม
ปี คศ. 1979 TOYOTA Land Cruiser 40
ในเดือนมีนาคมทางค่าย TOYOTA ก็ได้ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลที่ประจำการในตระกูล Land Cruiser ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานมลภาวะที่ประเทศญี่ปุ่นบังคับใช้ โดยปลดประจำการบล็อก B 4 สูบ ขนาด 3.0 ลิตรแล้วนำบล็อก 2 B เครื่องดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 3,168 ซีซี.มาแทนใน Land Cruiser 4 รุ่นเดียวกันคือ BJ 41 V, BJ 41, BJ 44 V และ BJ 44
ISUSU Faster Rodeo 4 WD
ISUZU เป็นค่ายรถค่ายแรกของเมืองซามูไรที่นำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาใช้กับรถกระบะของตนเอง โดยเมื่อเดือนมิถุนายนได้นำมาเป็นหนึ่งในตระกูล Faster ที่จะต่อท้ายด้วย Rodeo 4X4 ซึ่งใช้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อก C 190 ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 1,951 ซีซี.
TOYOTA Hilux 4x4 30/40
ห่างกันแค่สี่เดือนค่าย TOYOTA ก็แนะนำตัวกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อในเดือนตุลาคม ซึ่งก็คือ Hilux 4x4 ซึ่งล้อหน้าและหลังมีระบบกันกระเทือนแบบคานแข็ง-แหนบเหมือนกัน และใช้เครื่องยนต์เบ็นซินบล็อค 18 R ที่เป็นเครื่อง 4 สูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 1,986 ซีซี.
ปี คศ. 1980 TOYOTA Blizzard
อาจจะเป็นเพราะทางค่าย TOYOTA ได้ให้ขุมพลังไปซุกอยู่ใต้ฝากระโปรง DAIHATSU Taft ดังนั้นเมื่อเดือนเมษายนซึ่งโตโยต้าออกรถตระกูลใหม่ที่เป็นจี๊ปหลังคาแข็งขนาดเล็กตระกูล Blizzard จึงได้เอาตระกูล Taft มาเป็นแม่แบบ โดยขุมพลังที่ใช้ก็เป็นเครื่องยนต์ดีเซลบล็อก L 4 สูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 2,188 ซีซี. 72 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม.
NISSAN Safasi 160
ทางค่าย NISSAN เริ่มเดินสายพานผลิตรถตรวจการขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นครั้งแรก โดยออกรถตระกูลใหม่เอี่ยม Safari 160 ที่มีตัวถัง 3 แบบด้วยกัน คือ Hard Top, Hardtop Highroof และ Van 5 Doors ทั้ง 3 บอดี้ใช้ขุมพลังดีเซลรหัส SD 23 ที่เป็นเครื่องยนต์แถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,246 ซีซี. 95 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 220 กก.-ม.
NISSAN Datsun 4 WD (720)
ย้อนกลับเอาชื่อเดิมของค่ายตัวเองมาเป็นรถกระบะตระกูลใหม่ Datsun ที่มีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกใช้งาน โดยมีทั้งแบบซิงเกิ้ลแค็บและดับเบิ้ลแค็บ เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องเบ็นซินบล็อค L 18 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด ,770 ซีซี.
TOYOTA Land Cruiser 60
ยึดรูปแบบรถจี๊ปขนาดกลางมานานพอถึงเดือนสิงหาคมค่าย TOYOTA ก็ได้แนะนำรูปแบบใหม่ของ Land Cruiser ที่ก้าวขึ้นมาเป็นรถตรวจการณ์ 5 ประตูอย่างเต็มตัว คือ Land Cruiser 60 ซึ่งมีอยู่ 2 รุ่นด้วยกันคือ รุ่น FJ 60 ที่ใช้ขุมพลังเบ็นซินตระกูล 2 F 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 4,230 ซีซี. และรุ่น BJ 60 ที่ใช้ขุมพลังดีเซลตระกูล 3 B 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,431 ซีซี. 98 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม.
MITSUBISHI Pickup 4 WD
ค่ายมิซูมิชิทำรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อออกมาตามกระแสต้องการของตลาด โดยรถกระบะจากค่ายนี้จะใช้ขุมพลังเบ็นซินบล็อค 4 G 52 ซึ่งเป็นเครื่องแถวเรียง 4 สูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 1,995 ซีซี. 100 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 17.0 กก.-ม. ที่วางใน Jeep J 58 เหมือนกันนั่นเอง
ISUSU Faster Rodeo 4 WD
หลังจากที่เมื่อปีกลายได้ทำรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อออกมาเป็นค่ายแรก มาในพฤศจิกายนส่งท้ายปี 1980 ISUZU ก็ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ให้ใหม่โดยเพียงแค่แต่งหน้าทาปากนิดๆหน่อยๆ ขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล C 190 4 สูบ เวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 1,951 ซีซี. 62 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 12.5 กก.-ม.ตามเดิม
ปี คศ. 1981 MITSUBISHI Jeep J 57
หลังจากที่เงียบไปเพียง 5 ปี ทางค่าย MITSUBISHIT ก็ได้ขึ้นเจนเนอเรชั่นใหม่ให้กับตระกูล Jeep ทั้งหมด โดยในรุ่น J 57 จะมีขุมพลังให้เลือก 2 บล็อก คือ ถ้าเป็น รุ่น J 57 110 จะเป็นเครื่องยนต์เบ็นซินบล็อค 4 G 53 ที่วางในรุ่น J 56 ถ้าเป็นรุ่น J 57 120 ก็จะวางเครื่องยนต์เบ็นซินบล็อค G 54 B ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 2,555 ซีซี.
MITSUBISHI Jeep J 27
สำหรับรุ่น J 27 ของตระกูล Jeep นี้เป็นตัวที่มาแทน J 20 โดยใช้ขุมพลังบล็อก G 54 B เช่นเดียวกับ J 57 นะครับ
MITSUBISHI Jeep J 37
Jeep J 37 จะเป็นแบบแวก้อน 5 ประตู ซึ่งทางค่าย MITSUBISHIT เน้นให้เป็นรถครอบครัว โดยทางขุมพลังที่ประจำการก็ยังเป็นบล็อก G 54 B เช่นเดียวกับตระกูลอื่นๆ
MITSUBISHI Jeep J 47
ส่วนรุ่น J 59 ก็จะเป็นตัวถังอีกรูปแบบของตระกูล Jeep ซึ่งทางค่าย MITSUBISHIT ได้ออกแบบให้มีถึง 9 ที่นั่งด้วยกัน และวางเครื่องยนต์บล็อก G 54 B เหมือนกัน
MITSUBISHI Jeep J 59
คราวนี้มาเน้นให้ประหยัดขึ้นกว่าเดิม โดยรุ่น J 59 ที่มีตัวถังแบบจี๊ปขนาดเล็กจะใช้ขุมพลังเบ็นซินบล็อก G 52 B ที่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 1,955 ซีซี. เหมือนกับรุ่น J 58 ที่อยู่ในเจนเนอร์เรชั่นที่แล้ว
MITSUBISHI Jeep J 36 B
ถือว่าเป็นกองหนุนของรุ่น Jeep J 37 โดยจะเป็นแบบแวก้อน 5 ประตูเหมือนกัน แต่รุ่น J 36 จะวางเครื่องยนต์ดีเซลตระกูล 4 DR 5 ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,659 ซีซี. 80 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 18.0 กก.-ม.
SUSUKI Jimny - SJ 30
มาที่รถจี๊ปขนาดเล็กตระกูล Jimny ของค่าย SUSUKI ก็ได้ขึ้นเจนเนอร์เรชั่นใหม่ โดยทายาทที่มาแทนเมื่อเดือนพฤษภาคมจะใช้รหัสตัวรถว่า SJ 30 โดยมีตัวถัง 4 แบบฐานล้อเดียวกัน ส่วนทางด้านขุมพลังจะใช้เครื่องยนต์เบ็นซินบล็อค LJ 50 ซึ่งเป็นแบบแถวเรียง 3 สูบ 2 จังหวะ ขนาด 539 ซีซี. 28 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 5.4 กก.-ม. อันเป็นเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ตั้งแต่ปี 1976
ISUSU Rodeo Big Horn (UBS 52)
หลังจากที่ ISUSU ประสบความสำเร็จในการเดินสายพานผลิตกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อตระกูล Faster Rodeo เค้าก็ตั้งแนวบุกตลาดรถตรวจการณ์ด้วยการออกรถตระกูลใหม่ Rodeo Big Horn เมื่อเดือนกันยายน โดยเป็นแบบแวก้อน 3 ประตู ใช้ขุมพลังดีเซลรหัส C 223 ซึ่งเป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,238 ซีซี. 73 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 14.2 กก.-ม.
TOYOTA Blizzard
ค่าย TOYOTA เสริมกำลังให้กับตระกูล Blizzard ในเดือนตุลาคมด้วยการออกรุ่นใหม่มา 2 รุ่นด้วยกัน โดยรุ่น FRP ก็จะเป็นแบบหลังคาผ้าใบที่ใช้ขุมพลังดีเซลบล็อก L เหมือนกับรุ่นแรก ส่วนรุ่น Blizzard 3200 ก็จะมาใช้ขุมพลังดีเซลบล็อก 2 B ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,167 ซีซี. 93 แรงม้า
ปี คศ. 1982 TOYOTA Hilux 4 WD (30/40)
เดือนมีนาคมปีนี้ค่าย TOYOTA เพิ่มรุ่นให้กับตระกูลรถกระบะขับสี่ล้อในค่ายโดยทางด้านตัวรถจะมีแบบดับเบิ้ลแค็บเพิ่มขึ้นอีกแบบ ส่วนเครื่องยนต์ก็ยังมีเครื่องเบ็นซินตระกูล L แถวเรียง 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 2,188 ซีซี.มาให้เลือกอีกบล็อกด้วย
NISSAN Datsun 4 WD 720
ในช่วงเวลาเดียวกันค่าย NISSAN ก็จัดการเพิ่มรุ่นให้กับตระกูลรถกระบะขับสี่ล้อ Datsun 4 WD โดยในตัวถังที่มีตัวเก๋งธรรมดาก็จะเปลี่ยนเครื่องยนต์เบ็นซินที่จากเดิมเป็นตระกูล L 18 มาเป็นตระกูล Z 18 ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,770 ซีซี. 90 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 15.2 กก.-ม. จากนั้นก็ยังมีรุ่นตัวถังช่วงสั้นให้เลือก โดยจะมีแบบดับเบิ้ลแค็บที่ได้ขุมพลังดีเซลตระกูล SD 22 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,164 ซีซี. 65 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ให้เลือกอีกด้วย
MITSUBISHI Pajero (L Model)
หลังจากที่ทางค่าย MITSUBISHIT เดินสายพานผลิตรถตระกูล Jeep ที่เป็นรถจี๊ปขนาดเล็กและกลางมานาน เดือนพฤษภาคมปีนี้ก็ได้เปิดตัวรถตระกูลใหม่ที่เป็นรถตรวจการณ์ขับสี่ล้อขนาดเล็กภายใต้ชื่อว่า Pajero โดยตัวถังแบบ 3 ประตูจะมีสองแบบคือ แบบหลังคาผ้าใบและหลังคาแข็ง ส่วนทางด้านขุมพลังก็จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 บล็อก คือ เครื่องยนต์เบ็นซินตระกูล G 63 B 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,997 ซีซี. 110 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซลตระกูล 4 D 55 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 2,346 ซีซี. 75 แรงม้า และตระกูล 4 D 55 T ที่นำระบบเทอร์โบชาร์จมาเป่าเสกเรียกกำลัง เป็น 95 แรงม้า
SUSUKI Jimny 1000 (SJ 40)
ทางค่าย SUSUKI ก็มีการปรับขบวนของตระกูล Jimny ใหม่ในเดือนสิงหาคม โดยออกตัวถังใหม่รหัส SJ 40 ประมาณ 20 มม. โดยตัวถังจะมีความยาวและกว้างมากกว่าหน่อยหนึ่งด้วย ส่วนขุมพลังจะใช้เครื่องยนต์ตระกูล F 10 A 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 970 ซีซี. 52 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 8.2 กก.-ม.
MITSUBISHI Delica 4 WD
มาถึงเดือนตุลาคม ค่าย MITSUBISHIT สร้างประวัติการณ์ที่ต้องจารึกอีกครั้ง ด้วยการนำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาใช้กับรถตู้โดยสารตระกูล Delica (ซึ่งก็อาจจะถือว่าเป็นรถ MPV คันแรกของญี่ปุ่นได้ด้วย) โดยขุมพลังที่ใช้เป็นเครื่องยนต์บล็อก G 62 B 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,795 ซีซี.
TOYOTA Land Cruiser 40
ค่าย TOYOTA ยังเดินสายพานผลิตรถตรวจการณ์ขนาดเล็ก Land Cruiser 40 อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนตุลาคมก็เปลี่ยนขุมพลังดีเซลจากตระกูล 2 B มาเป็น 3 B ซึ่งเป็นแบบ 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,431 ซีซี. 98 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม.
TOYOTA Land Cruiser 60
ในช่วงเวลาเดียวกันก็ก้าวขึ้นมารถตรวจการณ์ขนาดใหญ่ขึ้นคือตระกูล Land Cruiser 60 ซึ่ง TOYOTA ก็ได้เปลี่ยนขุมพลังที่ประจำการในรุ่น HJ 60 V ที่เป็นแบบแวก้อน 5 ประตู โดยขุมพลังที่เอามาใช้เป็นเครื่องยนต์ดีเซลบล็อก 2 H แถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,980 ซีซี.
DAIHATSU Taft D 2800
มาที่รถขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดเล็ก Taft ของค่าย DAIHATSU ซึ่งได้นำเครื่องยนต์ดีเซลตระกูล DG ขนาด 2.5 ลิตรมาใช้เมื่อปี 1978 มาถึงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นตระกูล DL 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,765 ซีซี.77 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 17.8 กก.-ม.
ISUSU Rodeo 4 WD
หลังจากเรียกตระกูลรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของตัวเองว่า Faster Rodeo 4 WD มาจนถึงเดือนธันวาคมทางค่าย ISUZU ก็เปลี่ยนมาเรียกสั้นๆว่า Rodeo 4 WD แต่ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ดีเซล C 223 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,238 ซีซี.
MITSUBISHI Pickup 4 WD
ปิดท้ายปีด้วยรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของค่าย MITSUBISHIT ที่ได้ขึ้นไมเนอร์เชนจ์เปลี่ยนชุดไฟหน้าใหม่โดยขุมพลังที่ใช้จะเป็นเครื่องยนต์เบ็นซินบล็อค G 63 B 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,997 ซีซี.
ปี คศ. 1983 MITSUBISHI Pajero Metaltop
หลังจากคลอดตระกูล Pajero ออกมาได้ไม่ถึงปีดี เดือนมีนาคมปีนี้ค่าย MITSUBISHIT ก็เปลี่ยนขุมพลังที่ประจำการอยู่ในตัวถังแวก้อน 3 ประตูหลังคาแข็งที่เรียกว่า Metaltop โดยเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เบ็นซินตรกูล G 63 B 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,997 ซีซี.145 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 22.0 กก.-ม
NISSAN Datsun 4 WD 720
สำหรับรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของค่าย NISSAN ซึ่งใช้ชื่อตระกูลว่า Datsun นี้ในเดือนเมษายนก็ได้หัวเก๋งแบบ King Cab มาใช้ ส่วนเครื่องยนต์ก็เปลี่ยนไปจากปีที่แล้วที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลบล็อก SD 22 มาเป็นบล็อก SD 23 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,289 ซีซี.
SUSUKI Jimny SJ 30/40
สำหรับรถจี๊ปขนาดเล็กตระกูล Jimny นั้นในเดือนกรกฎาคมปีนี้ค่าย SUSUKI ได้ทำการปรับปรุงภายในห้องโดยสารของตัวถัง SJ 30 และ SJ 40 ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
NISSAN Safari 160
รถตรวจการณ์ตระกูล Safari ของค่าย NISSAN ถูกเปลี่ยนขุมพลังจากบล็อก SD 33 ที่เป็นแบบแถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,246 ซีซี. มาเป็นบล็อก SD 33 T ซึ่งนำระบบเทอร์โบชาร์จมาช่วยเรียกกำลังได้มากขึ้น
TOYOTA Hilux 4 WD
แม้ว่าเพิ่งจะนำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาใช้กับรถกระบะตระกูล Hilux เมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่เดือนพฤศจิกายนปีนี้ก็จัดการขึ้นเจนเนอร์เรชั่นใหม่ โดยทายาทที่มาแทนจะมีตัวเวอร์ชั่นขับเคลื่อนสี่ล้อมากขึ้น คือ ตัวรถจะมีทั้งแบบช่วงสั้น ช่วงยาวหัวเก๋งธรรมดาและดับเบิ้ลแค็บส่วนขุมพลังที่ใช้ก็เป็นเครื่องยนต์เบ็นซินบล็อค 3 Y-J ซึ่งเป็นเครื่องแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 1,998 ซีซี. 88 แรงม้าและเครื่องยนต์ดีเซลบล็อก 2 L 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 2,446 ซีซี.
MITSUBISHI Delica 4 WD
มาที่รถตู้โดยสารตระกูล Delica ของค่าย MITSUBISHIT ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนทางเค้าได้เปลี่ยนขุมพลังให้มีกำลังมากขึ้น คือจาบล็อคเบ็นซิน G 62 B ก็เปลี่ยนมาเป็น G 63 B ซึ่งเป็นเครื่องแถวเรียง 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,997 ซีซี. 91 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 15.4 กก.-ม
ปี คศ. 1984
ISUZU Big Horn UBS 52
ลักษณะเดียวกันกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ คือ ในตระกูลรถตรวจการณ์ Rodeo Big Horn นั้น เมื่อเดือนมกราคมก็เปลี่ยนมาเรียกชื่อเป็น Big Horn ขุมพลังที่ประจำการอยู่นอกจากจะมีเครื่องยนต์ดีเซลตระกูล C 223 แล้วยังนำเครื่องยนต์เบ็นซิน G 200 ที่เป็นแบบ 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,949 ซีซี. มาประจำการอีกบล็อกหนึ่งด้วย
MITSUBISHI Delica 4 WD
แม้ว่าทางค่าย MITSUBISHIT จะเพิ่งปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เบ็นซินที่วางใน Delica ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่พอเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เค้าก็ได้นำเครื่องยนต์มาให้เป็นตัวเลือกอีกสองบล็อก คือ 4 D 55 และ 4 D 55 T
DAIHATSU Rugger p 35
หลังจากที่ DAIHATSU เอาเครื่องยนต์เบ็นซิน 12 R ของค่ายโตโยต้ามาใช้ในตระกูล Taft และต่อมาค่าย TOYOTA ก็ได้นำรถตระกูลนี้เป็นแม่แบบให้กลับ Blizzard ปรากฏว่าพอถึงเดือนพฤษภาคม ทางค่าย DAIHATSU ได้ขึ้นเจนเนอร์เรชั่นใหม่ให้กับ Taft โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Rugger และใช้ขุมพลังดัเซลตระกูล DL 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,765 ซีซี.
TOYOTA Blizzard
อย่างพร้อมเพียงกันค่าย TOYOTA ก็ได้ขึ้นเจนเนอร์เรชั่นใหม่ใหม่ให้กับตระกูลBlizzard ซึ่งตัวใหม่นี้จะเหมือนกับ Rugger ของค่าย DAIHATSU โดยเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องดีเซลบล็อก 2 L แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 2,446 ซีซี.
TOYOTA Hilux Surf 60
เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในเดือนเพฤษภาคมทางค่าย TOYOTA ก็ได้คลอด Hilux Surf 60 ซึ่งจะเป็นการนำรถกระบะขับสี่ล้อรุ่น Hilue FRP มาผสมผสานแบบแวก้อน ด้วยการเอาหลังคาไฟเบอร์มาครอบที่กระบะท้าย ขุมพลังมีให้เลือก 2 เครื่อง บล็อกแรก คือ 3 Y-J เครื่องเบ็นซิน ขนาด 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 2 L ขนาด 2.5 ลิตร
MITSUBISHI Pajero Sport Turbo
เมื่อเดือนมิถุนายน MITSUBISHIT ได้ออกรุ่นพิเศษให้กับตระกูล Pajero โดยเน้นให้มีความสปอร์ตดุดันมากกว่าธรรมดาเครื่องยนต์มีให้เลือก 2 บล็อก คือ เครื่องเบ็นซิน G 63 B และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 D 55 T
SUSUKI Jimny SJ 30
แม้ว่ามี Jimny ตัวถัง SJ 40 ที่มีขนาดเขื่องกว่าหน่อยออกจำหน่าย แต่ทางค่าย SUSUKI ก็ยังคงส่งจี๊ปขนาดเล็ก SJ 30 ขึ้นโชว์รูม โดยในเดือนกรกฎาคมปีนี้ก็ได้ปรับปรุงระบบพวงมาลัยและคอนโซลกลางใหม่
DAIHATSU Rugger
แม้ว่าจะเพิ่งออกมาลุยเมื่อต้นปี แต่พอเดือนกันยายน ค่าย DAIHATSU ก็ได้ปรับขุมพลังให้มีกำลังมากขึ้น โดยเครื่องยนต์ดีเซลตระกูล DL ขนาด 2.8 ลิตรก็ได้ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์มาช่วยเรียกกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 94 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม.
TOYOTA Hilux Surf
ในเดือนเดียวกันตระกูล Hilux Surf ของค่าย TOYOTA ก็ใช้ขุมพลังดีเซลใหม่ เป็นบล็อก 2 L-T ซึ่งเป็นเครื่องดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 25 ลิตร 85 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 19.2 กก.-ม
TOYOTA Land Cruiser 70
ทางค่าย TOYOTA ได้ฤกษ์ขึ้นเจนเนอเรชั่นใหม่ให้กับตระกูล Land Cruiser 40 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตระกูล Land Cruiser 70 ที่เป็นทายาทนั้นเต้าทำออกมา 2 รุ่นด้วยกันคือ BJ 70 และ BJ 73 ซึ่งวางครื่องดีเซลบล็อก 3 B ที่เป็นแบบ 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,431 ซีซี.
SUSUKI Jimny JA 51
ในช่วงเดือนสิบเอ็ดเหมือนกัน ทางค่าย SUSUKI ออก Jimny ตัวใหม่ในรหัสตัวถัง JA 51 ซึ่งถือว่าเป็นตัวไมเนอร์เชนจ์ของตระกูล เครื่องยนต์ที่ใช้จะมีขนาดเขื่องขึ้น คือ เป็นเครื่องเบ็นซินบล็อค G 13 A 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 1,324 ซีซี. 70 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 10.7 กก.-ม
TOYOTA Land Cruiser 60
สำหรับตระกูล Land Cruiser 60 ที่ถือว่าเป็นรถตรวจการณ์ใหญ่สุดของค่าย TOYOTA ก็ได้ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยเครื่องยนต์ที่นำมาประจำการคือขุมพลังดีเซลบล็อก 2 H ซึ่งเอามาใช้กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะเป็นครั้งแรก
TOYOTA Land Cruiser FJ 62 V
ในรุ่น FJ 62 V ของตระกูล Land Cruiser 60 ที่เป็นแบบแวก้อนก็มีการเปลี่ยนขุมพลังเบ็นซินใหม่จากบล็อก 2 F มาเป็นแบบ 3 F 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,955 ซีซี.
ปี คศ. 1985
MITSUBISHI Pajero
ในเดือนพฤษภาคมทางค่าย MITSUBISHIT ออกได้ออกรถรุ่นใหม่ให้กับตระกูล Pajero ในชื่อรุ่น Metaltop ที่ใช่เกียร์อัตโนมัติ
ISUZU Rodeo 4 WD
เดือนห้าแหมือนกันที่ ISUZU Rodeo ได้ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ แต่ทางด้านขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อก C 223 ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,238 ซีซี. 82 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 18.1 กก.-ม
ISUZU Big Horn (UBS 52/12)
แม้ว่าค่าย ISUZU จะเพิ่งเดินสายพานผลิตตระกูล Big Horn ออกมาได้ประมาณ 4 ปีแต่ก็จะมีตัวถังแบบเดียวคือ แบบแวก้อน 3 ประตู และในเดือนมิถุนายนปีนี้ก็ได้ทำแบบแวก้อน 5 ประตูตามออกมาอีกโดยยังคงใช้ขุมพลังเบ็นซิน G 200 และดีเซล C 223 แต่ได้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะมาใช้ด้วย
NISSAN Datsun 4 WD D21
เดือนสิงหาคมปีนี้ ทางค่าย NISSAN ขึ้นไมเนอร์เชนจ์ให้กับรถกระบะตระกูล Datsun ใหม่หมด โดยทางขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์เบ็นซินตระกูล Z 18 และดีเซลตระกูล SD 23 อยู่เหมือนเดิม
TOYOTA Hilux & Hilux Surf 4 WD
ในเดือนเดียวกัน TOYOTA ก็ได้เปลี่ยนระบบกันสะเทือนหน้าให้กับตระกูล Hilux และ Hilux Surf จากแบบคานแข็ง-แหนบมาเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น ทอชั่นบาร์
DAIHATSU Rugger
เมื่อปีที่แล้วทางค่าย DAIHATSU ได้ออกรถตระกูล Rugger ไปเมื่อต้นปีจากนั้นพอปลายปีก็ได้นำระบบเทอร์โบมาใช้กับขุมพลังของตัวเอง ซึ่งมาเดือนกันยายนนี้ ทางเค้าก็ได้ออกตัวถังใหม่แบบแวก้อน 3 ประตูที่เรียกว่า Metaltop มาสมบทอีกรุ่น
TOYOTA Blizzard
ในช่วงเวลาเดียวกันทางตระกูล Blizzard ของค่าย TOYOTA ที่เป็นแฝดคนละฝากับ DAIHATSU Rugge ก็ได้ขุมพลังใหม่คือ เปลี่ยนจากเครื่องยนต์เบ็นซิน 2 L ธรรมดามาเป็นเครื่องยนต์เบ็นซินเทอร์โบ 2 L-T ที่สามารถเรียกม้าได้ 85 ตัวและมีแรงบิดสูงสุด 19.2 กก.-ม.
TOYOTA Land Cruiser 70
สำหรับทางตระกูล Land Cruiser 70 ที่เพิ่งเดินสายพานผลิตไปเมื่อปลายปีที่แล้ว มาในเดือนพฤศจิกายน ปีนี้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ โดยเปลี่ยนระบบกันสะเทือนมาเป็นแบบคอยล์สปริง พร้อมกันนี้ถ้าเป็นรุ่น LJ 71 ก็จะมาใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบตระกูล 2 L-T 4 สูบ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 2,446 ซีซี. ส่วนในรุ่น BJ 71 และ BJ 74 จะมาใช้ขุมพลังดีเซลเทอร์โบตระกูล 13 B-T 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,341 ซีซี.
TOYOTA Land Cruiser HJ 61 V
รุ่น HJ 61 V ตระกูล Land Cruiser นั้นทางค่าย TOYOTA นำเอามาแทนรุ่น FJ 62 V ที่เพิ่งเปลี่ยนขุมพลังไปเมื่อปลายปี 1984 โดยรุ่นนี้จะวางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรหัส 2H-T ที่เป็นแบบแถวเรียง 6 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 3,980 ซีซี. 135 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุด 32.0 กก.-ม.
SUSUKI Jimny JA 51
ทางค่าย SUSUKI ออกตัวถังแบบ High Roof ให้กับตัวถังรหัส JA 51 ในตระกูล Jimny ซึ่งก็จะมีลักษณะคล้ายกับ Caribian ในบ้านเรานั่นเอง
TOYOTA Hilux Surf
หลังจากเปลี่ยนระบบกันสะเทือนหน้าไปไม่กี่เดือน ปรากฏว่าทางค่าย TOYOTA ก็ส่งท้ายปีให้กับ Hilux Surf ด้วยการเอาขุมพลังดีเซลเทอร์โบตระกูล 2 L-T มาใช้คู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะเป็นครั้งแรก
ปี คศ. 1986
SUSUKI Jimny JA 71
มาที่ตระกูล Jimny อีกครั้ง โดยในรุ่นตัวถังแบบ SJ 30 นั้นทางเค้าก็จะใช้ขุมพลัง 3 สูบ 2 จังหวะรหัส LT 50 พอมาในรุ่นตัวถังแบบ JA 71 นั้นที่ออกมาขึ้นโชว์รูมในเดือนมกราคม ปรากฏว่าจะมีตัวถังเดียวกับทาง SJ 30 แต่ทางด้านขุมพลังจะเปลี่ยนมาเป็นแบบ 3 สูบ 4 จังหวะ แค็มเดี่ยว (SOHC) ขนาด 543 ซีซี. รหัส F 5 A โดยปั่นม้าออกมาได้ 42 ตัวและมีแรงบิดสูงสุด 5.9 กก.-ม.
MITSUBISHI Pajero (P Model)
ย่างขึ้นเดือนเจ็ด MITSUBISHIT ขึ้นเจนเนอร์เรชั่นใหม่ให้กับตระกูล Delica ซึ่งทายาทที่ออกมาแทนนี้จะมีพื้นที่ภายในห้องโดยสาใหญ่ขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ ส่วนขุมพลังที่ประจำการอยู่เปลี่ยนจากขุมพลังดีเซล 4 D 55 มาเป็นเครื่องดีเซลบล็อก 4 D 56
NISSAN Datsun 4 WD (D 21)
มาในปี คศ. 1986 นี้ ทางค่าย NISSAN ได้เปลี่ยนขุมพลังของกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ Datsun โดยเครื่องยนต์ที่นำมาประจำการเป็นเครื่องเบ็นซินบล็อค Z 20 S ที่เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 1,952 ซีซี. 88 แรงม้าที่ 5,000 รตน. และมีแรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. ที่ 3,200 รตน.
NISSAN Terrano
เดือนสิงหาคมค่าย NISSAN ออกรถตรวจการณ์ใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นน้องเล็กของตระกูล Safari นั่นคือ Terrano ซึ่งใช้เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล T 27 เป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ 8 วาล์ว โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 2,663 ซีซี. 85 แรงม้าที่ 4,300 รตน. และมีแรงบิดสูงสุด 18.0 กก.-ม. ที่ 2,200 รตน. โดยระบบกันสะเทือนของรถตรวจการณ์ตระกูลนี้ด้านหน้าจะเป็นแบบอิสระ ปีกนก ทอร์ชั่นบาร์ ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานแข็งคอยล์สปริง อาร์มยึด 5 จุด
TOYOTA Land Cruiser 60
ในช่วงเดือนแปด TOYOTA ออกรุ่นใหม่ให้กับตระกูล Land Cruiser 60 ในชื่อรุ่น VX ซึ่งเน้นเรื่องความหรูหราสะดวกสบายเป็นพิเศษ ระบบส่งกำลังจะมีเกียร์อัตโนมัติให้ใช้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
TOYOTA Blizzard
ในเดือนเดียวกันนั้น ทางค่าย TOYOTA ก็ได้เปลี่ยนระบบถ่ายทอดกำลังให้กับรถตระกูล Blizzard จากเดิมที่เมื่อจะเปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อโดยกดปุ่มสวิทช์ไฟฟ้าก็จะเปลี่ยนมาเป็นแบบคันโยกที่ทนทานและดูแลรักษาได้ง่ายกว่า
TOYOTA Hilux 4 WD 60
เดือนตุลาคม ค่าย TOYOTA เปลี่ยขุมพลังที่ประจำการอยู่ในกระบะ Hilux 4 WD ใหม่เป็นเครื่องยนต์เบ็นซินตระกูล 3 Y-J แบบแถวเรียง 4 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว (OHV) ขนาด 1,998 ซีซี.
MITSUBISHI Jeep J 53
แม้ว่าค่ายต่างๆ จะออกรถขับเคลื่อนสี่ล้อประเภทจี๊ปกันมากขึ้น แต่ MITSUBISHIT ก็ยังมีตระกูล Jeep เป็นตัวเอกคันหนึ่งอยู่เหมือนเดิม และในรุ่น J 53 เค้าก็ได้เอาขุมพลังดีเซลเอทร์โบ 4 DR 6 ซึ่งเป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแค็มชาฟท์ (SOHC) ขนาด 2,659 ซีซี. 94แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 21.0 กก.-ม.
ISUZU Rodeo 4 WD
ส่วนรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อตระกูล Rodeo ก็ขึ้นไมเนอร์เชนจ์เป็นการส่งท้ายปี โดยทางค่าย ISUZU ก็เพียงเปลี่ยนหน้าตาให้เด่นสะดุดตาเป็นส่วนใหญ่
|