ทีม OFF ROAD "อะไรคือหัวใจของทีม"

จาก นาย starda
203.151.66.51
พุธที่ , 13/12/2543
เวลา : 18:01
อ่านแล้ว = 782 ครั้ง

เราเฝ้าดูการตั้งทีม ของกลุ่มมานานแล้ว เราอยากรู้ "อะไรคือหัวใจของทีม"บางคนบอกว่าการเดินทางท่องเที่ยวแบบOFF ROAD ต้องลุย,โหด,มันส์,เบาๆไม่สะใจ เราว่า การเดินทางท่องเที่ยวแบบนี้เฉพาะกลุ่มที่มีใจรักOFF ROAD น้อยไปหน่อย หาหลักของทีมก่อน เช่น การออกทริปท่องเที่ยวแบบOFF ROAD ของกลุ่ม เราควรไปแบบพักผ่อน เพื่อสมาชิกที่จะเข้ามาไม่เกิดอาการหวั่นไหว ว่ารถ4x4เดิมๆจะไปได้ไหม การจะตั้งทีมให้มีสมาชิกมากๆต้องเปิดใจ บางคนบอกไม่มีรถ แต่รักการเดินทาง ทางกลุ่มก็น่าจะรับได้ หรือ มีรถธรรมดา รถเก๋ง อยากไปด้วย พอถึงที่ ที่รถตัวเองเข้าไม่ได้ ก็อาศัย4x4 เข้าไป ก็น่าจะรับได้ ต่างคน ก็ต่างความคิด เราหาจุดยืนหรือหัวใจของกลุ่มก่อน ไม่ดีกว่าหรือ ขอบคุณครับ....

คำตอบที่ 6
หัวใจของทีม คือ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยใช้ยานพาหนะที่มีศักยภาพเหมาะสมในการเดินทางเข้าไปเพื่อพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขา
ผมขออนุญาติเล่าประวัติของการก่อตั้งทีมงานนี้ขึ้นมาให้ฟังก่อนนะครับว่า ผมเองกับเพื่อนๆเริ่มท่องเที่ยวเข้าป่าครั้งแรก ตั้งแต่ใช้รถเก๋ง BMW เดินทางเข้าป่า ตั้งเต็นท์พักแรม บ่อยครั้งเข้าพวกเราพบว่าศักยภาพของรถพวกเราไม่สามารถนำพาพวกเราไปในสถานที่ที่เป็นป่าเขา และ ธรรมชาติที่บริสุทธิ์จริงๆได้ เราจึงต้องหารถที่มีความพร้อมในการเดินทางของเรา นั่นก็คือ Off Road Vehicle
เราไม่เคยจำกัดลักษณะรถ หรือยานพาหนะใดๆทั้งสิ้น แต่ผมมีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งครับว่า ถ้าเราต้องการสถานที่ที่เป็นธรรมชาติที่ใสบริสุทธิ์มากเท่าไร เส้นทางก็จะลำบากมากขึ้นตามไปด้วยเสมอ
แต่ละ Trip ที่เราไปไม่ใช่ทุกที่ที่ลำบาก หรือโหดร้าย เราจะสลับสลับเปลี่ยนกันบ้างระหว่างยากและท้าทาย จนถึงแบบง่ายๆใครๆก็ไปได้
ก่อนออก Trip ทุกครั้งพวกเราจะบอกอยู่เสมอเรื่องการประเมินลักษณะเส้นทาง และระดับดาวของความยากง่ายในการเดินทางไว้ ซึ่งพวกเราที่จะเดินทางร่วมกันก็จะต้องศึกษาเส้นทาง และเตรียมพร้อมศักยภาพของรถตนเองด้วย แต่ก็พบว่ามีบางครั้งที่รถในกลุ่ม พบอุปสรรคในการเดินทาง เราก็จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมอ และอุปสรรคเหล่านั้น นั่นก็คือสีสันของการเดินทางของพวกเรา
*** ยินดีต้อนรับทุกท่านครับที่เป็นสุจริตชน และคนรักธรรมชาติ ***ครับ

จาก ทีมงาน Offroad 203.148.176.195 พฤหัสบดี, 14/12/2543 เวลา : 14:08

คำตอบที่ 7
ครับ... ก็อย่างที่เพื่อนผมกล่าวเอาไว้ว่า พวกเราเริ่มเดินทางแรมคืนค้างแรมตามป่าเขาด้วยรถเก๋ง BMW ครับ แต่จากประสบการณ์ทุกภาคในประเทศไทย ถ้าเป็นที่ที่ธรรมชาติยังคงบริสุทธิ์อยู่ และรอการต้อนรับจากผู้มาเยือนที่มีจิตใจรักษ์ธรรมชาติอย่างจริงๆ นั้นมักจะอยู่ในที่ที่ธุระกันดาร และยากที่จะเข้าไปได้ด้วยยานพาหนะธรรมดา...พวกเราเคย ตกร่องเขา, จมหล่มโคลนกลางป่า, ติดอยู่ในป่าในเวลาคืนเดือนมืด หรือ ใช้เวลากว่า 4-5ชั่วโมงเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมเดินทางให้ไปพร้อมๆเราได้ในระยะทางแค่ 2-3 กิโลเมตร...นั่นคือสีสันและความหมายของมิตรภาพที่อยู่ภายในที่รอการค้นพบจากการท
ดสอบของธรรมชาติ...
...ในส่วนตัวผมยังคงใช้รถเก๋งอยู่ซึ่งการเดินทางทุกครั้งผมก็จะไปด้วยน้ำใจของเพื่อนผมทุกครั้งโดยไม่เคยได้รับการปฎิเสธในมิตรภาพที่มีให้กัน
... หัวใจของ Off Road ของผมคือ "ความจริงใจในมิตรภาพที่ผ่านการทดสอบจากการเดินทางในเส้นทางที่มีบททดสอบครับ"...อย่างไรก็ตามพวกผมบางครั้งก็ใช้เส้นทางที่ค้อนข้างสะดวกสบายเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจบ้างในบางครั้งเช่น เขาใหญ่ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น หรือ ไทรโยค เป็นต้น
แล้วพวกผมจะส่งข่าวไปชักชวนครับ....เอาเป็นว่าจะติดต่อ นาย Strada ได้ยังงัยครับ

จาก นายบี 203.148.176.195 พฤหัสบดี, 14/12/2543 เวลา : 14:23

คำตอบที่ 8
ผมว่า นาย Strada น่าจะเข้าใจผิดในกิจกรรมของกลุ่มเราเป็นแน่ครับ อย่าพึ่งด่วนสรุปถึงความใจแคบของพวกเราในมุมมองของคุณ เพราะกลุ่ม Off Road ของพวกเรามีหลายคันหลายที่ ซึ่งผมไม่เคยเห็นใครแม้แต่คนเดียวที่ใจแคบเลยครับ
ก่อนอื่นเราต้องแยกคำนิยามของคำว่า Off Road ก่อนนะครับ ถ้าเป็นภาษาไทยก็แปลว่า เส้นทางลำบากที่ไม่น่าจะเรียกว่า ถนน ครับ ซึ่งเป็นเส้นทางท้าทายนักเดินทางที่ต้องการหาความหมายจากการเดินทางแบบนี้ซึ่งมักจะได้ไปถึงจุดหมายปลายทางที่ซ่อนความสวยงามอันยังคงความบริสุทธ์ เอาไว้....แต่ที่ นาย Strada กับคุณปิคอัพ 2x4 ชอบน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Camp Car ครับ ซึ่งก็เป็นที่นิยมอีกเหมือนกันมีหลายกิจกรรมที่กลุ่ม Camp Car ที่เค้าจัดกันไป แต่เผอิญว่าทาง เวปเราไม่ได้ทำกิจกรรม Camp car เอาไว้ด้วย....แต่ก็ยินดีต้อนรับครับถ้าสนใจในกิจกรรม Off Road แต่ทางเราจะพยายามช่วยหาเวปที่เกี่ยวกับ Camp Car ให้ได้ก่อนแล้วจะ Link ให้คุณ ปิคอัพ 2x4 กับ นาย Strada ได้เข้าไปคุยกับกลุ่มเค้าเพื่อจะได้ถูกกลุ่มนะครับ

จาก นายบี 203.148.176.195 พฤหัสบดี, 14/12/2543 เวลา : 15:12

คำตอบที่ 9
ที่ช่วยกันกล่าวมาทั้งหมดเนี่ย ผมเป็นคนนึงที่เห็นด้วยครับ อย่างผมแต่ก่อน 4x4 ไม่เคยวิ่งผ่านสมองเลย แต่เมื่อต้องทำงานและได้สัมผัสมันถึง 3 ปี ปัจจุบันรถประเภทอื่นยากที่เข้าเข้ามาในสมองผมเหมือนกัน เหตุคือ Off Road คือการ ถ้าทายให้เอาตัวรอด โดยทุกอย่างที่ไป และไม่น่าจะไปได้ ต้องกลับมาเหมือนเดิม และอย่างที่นาย บี กล่าวไว้ ตั้งแต่ผมท่องเที่ยวมาหากใช้รถธรรมดาท่านจะได้แต่ธรรมชาติที่เจ้าของสถานที่จัดเตรียม ตกแต่งไว้ให้ชม ....และปัจจุบันผมก็ยังท่องเที่ยวกับเพื่อนที่มีรถเก๋ง หรือกะบะธรรมดาอยู่เหมือนเดิม โดยใช้วิธีที่ คุณ Strada ได้กล่าวไว้ ...คือทุกคันไปเท่าที่ไปได้ เส้นทางต่อไปรถใครไปได้ก็ถ่ายกันไป .....
แต่ผมเตือนคุณ Strada นิดนึงครับ คือเมื่อคุณเข้ามาในกลุ่ม Off Roadบ่อยๆ แล้ว สิ่งที่ควรระวัง คือการหลงไหล และขายรถคันเก่า และเสียเงิน เพื่อซื้อ 4X4 ครับ

จาก นายโท 203.149.7.51 พฤหัสบดี, 14/12/2543 เวลา : 15:30

คำตอบที่ 10
ขอคิดด้วยคนน่ะ
ผมคิดว่าเราไม่ควรติดกับคำว่า Offroad เกินไปนัก พวกเราคือกลุ่มคนที่มีรสนิยมในการท่องเที่ยวใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เหมือนๆกัน มีความต้องการคล้ายๆกัน ในที่สุดก็ร่วมเดินทางสนุกสนาน ร่วมกันได้ จุดยืนที่ผมมีแล้วคิดว่าพวกเราก็มีเหมือนกันคือ
1.สภานที่
ผมอยากท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงาม สงบ ไม่พลุกพล่าน ไม่ชอบรีสอร์ท(ไม่มีตัง) ดื่มด่ำสนุกสนานกับเพื่อนพี่น้องที่รู้ใจ
2.เส้นทาง
สถานที่ที่มีอย่างที่กล่าวถึง เกือบทุกที่คงไม่ใช่เส้นทางลาดยาง ติดถนนใหญ่ เข้าภึงได้ง่าย ภ้าง่ายมันก็ไม่สงบซิครับ แน่นอนมันต้องมีตั่งแต่ดิดลูกรัง ขึ้นเขา ร่องน้ำ ตามเส้นทางเก่าโดยไม่ทำลายธรรมชาติ พวกคุณคิดว่ารถอรไรที่พาเราไปได้ อุปสรรคเป็นสิ่งท้าทาย น่าลอง ทดสอบความสามารภทั้งรถทั้งคน แต่มันเป็นผลพลอยได้จากการเดินทางมากกว่าสถานที่ที่เราจะไป ที่สำคัญก็คือไปให้ถึงกลับให้ใด้และปลอดภัยทุกคนทุกคัน
แน่นอนครับ 1 คือจุดยืน 2. คือผลพลอยได้ที่น่าสนใจของผม อยากเสนอให้กับทุกคนได้คิดดู
จากข้างต้น ครับสถานที่และเส้นทางจะต้องถูกศึกษา พูดคุย ใครที่คิดว่ารถตัวเองไปได้ก็ไป ไปไม่ได้แต่อยากไปก็อาศัยกันไป ไม่เลือกชนิด ขนาดรถ ขึ้นอยู่กับตัวเอง และกำลังทรัพย์ ถ้ามีรถเก๋งและมีกะตัวซ่อมซะอย่าง ก็ไปได้ขึ้นอยู่กับใจและตัวเองครับ

จาก ไพลิน 6221 203.148.255.13 ศุกร์, 15/12/2543 เวลา : 11:19

คำตอบที่ 11
May I share my idea too!!
I think we shouldn't strict with the name in english ,OFFROAD is mean off the road
so,as soon as your turn your wheel out and drive off the road you are off road driving that may be
vary from soft off road to hard offroad like somebody rated a star.
We travel in offroad style it dosen't mean we have to go on the mud or rock only but it may be
we can go somewhere soft track to have a rest or camping also.
The most necessary equipment for off-roader is the 4x4 vehicle to take us to the designed
place but if somebody brave enough to take your van or sedan to offroad and you can drive
to the target ,yes ,you can do if you do not worry about your car.But as many people above
said we can join all 4x4 and 4x2 and combine the car to the track.
The heart of off road can describe in many way but the same thing that show out when we travel
offroad are spirit and friendship of all member that travel together.
So,the heart of Off-road should mean the sharing of the heart,spirit and friendship of all the
member to help ,co-operate and happy together on the off-road track to the designed target
and caring to the social ,culture and environmental.

จาก adventure999 203.151.66.4 ศุกร์, 15/12/2543 เวลา : 15:41

คำตอบที่ 13
คำตอบ "อะไรคือหัวใจของทีม off road" ตามความเห็นของผมที่ได้สัมผัสมา คือ 1.ความสามัคคีของทุกคนที่ร่วมเดินทางกันทุกรุ่นทุกวัยทุกอาชีพไม่มีเกี่ยงชั้นวรรณะ 2.จุดมุ่งหมายในการเดินทางท่องเที่ยวนั้นตรงกัน 3.ความปลอดภัยในระหว่าการเดินทาง (ทุกคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน,แก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมเดินทาง,รถยนต์,เส้นทาง,ธรรมชาติฯ) ทั้ง 3 ข้อนี้ คงจะเป็นหลักใหญ่ๆที่ตรงกับประโคยที่ว่า "กลับให้ได้ ไปให้ถึง" โดยที่ผมจะเน้นให้ความปลอดภัยของคนเป็นอันดับที่ 1 และรถเป็นอับดับที่ 2 เพราะคนไม่มีอะไหล่เหมือนรถนะ ส่วนสถานที่เป้าหมายที่จะไปกันก็คงแล้วแต่สถานะการณ์ ยากที่จะคาดหมายล่วงหน้าได้ บางทีขาเดินทางเข้าไปง่ายไม่มีปัญหาอะไรแต่พอขาเดินทางกลับออกมาพอมีฝนตกเล็กน้อยหรือผลจากน้ำค้างตอนกลางคืน เส้นทางที่ง่ายก็เปลี่ยนไปทันที เพราะฉนั้นความพร้อมก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน ไม่อย่างนั้นความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวก็อาจจะเปลี่ยนไปได้ ท้ายสุดถ้าทุกๆคนทำได้ทั้ง 3 ข้อนี้. ไม่ว่าจะขับ 2 ล้อ หรือขับ 4 ล้อ เส้นทางจะ on road หรือ off road ขึ้นเขาลงห้วยเข้าป่าไหนก็ตาม ผมคิดว่าทุกคนก็คงได้ความสุขความประทับใจ,ประสบการณ์ต่างๆในการเดินทางของทริปนั้นๆแน่นอน.

จาก ขนมิ้ง/4 wheels. 203.144.223.74 จันทร์, 18/12/2543 เวลา : 16:59

คำตอบที่ 14
เห็นด้วยกับคุณขนมิ้งและคุณadventure999ครับ สมัยก่อนกลุ่มที่เล่นoffroadจะเป็นพวกล่าสัตว์ครับ แต่สมัยนี้ไม่มีอะไรให้ล่าแล้วเพราะป่าลดน้อยลง จึงหันมาเล่นแต่รถอย่างเดียว ถ้ายังไงก็รักษาธรรมชาติ เหมือนกับที่รักคนและรถนะครับ .... keep spirit of 4WD forever

จาก เอก 203.144.223.73 พฤหัสบดี, 18/1/2544 เวลา : 22:34

คำตอบที่ 15
ครั้งแรกที่ได้ออกความคิดเห็นในwebนี้ แต่ก่อนใช้รถเก๋งเที่ยวเหมือนทั่วๆไปมานานหลังจากได้สัมผัสการเที่ยวแบบ offroadแล้วไม่เคยได้กลับไปเที่ยวแบบเดิมอีกเลยติดใจในสิ่งที่เรียกว่าธรรมาชาติได้ไปในที่ ที่รถปกติไปไม่ได้ ได้พบเห็นสิ่งที่หลายคนไม่เคยได้เห็น ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้รถ offroad เต็มรูปแบบ (ใช้ Strada 4wd ยกสูงชุดยกของ Ultimate ติดเทอร์โบ inter cooler)

จาก จิงโจ้ mitsu 202.57.188.51 เสาร์, 20/1/2544 เวลา : 14:08

คำตอบที่ 16
ครั้งแรกที่ได้ออกความคิดเห็นในwebนี้ แต่ก่อนใช้รถเก๋งเที่ยวเหมือนทั่วๆไปมานานหลังจากได้สัมผัสการเที่ยวแบบ offroadแล้วไม่เคยได้กลับไปเที่ยวแบบเดิมอีกเลยติดใจในสิ่งที่เรียกว่าธรรมาชาติได้ไปในที่ ที่รถปกติไปไม่ได้ ได้พบเห็นสิ่งที่หลายคนไม่เคยได้เห็น ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้รถ offroad เต็มรูปแบบ (ใช้ Strada 4wd ยกสูงชุดยกของ Ultimate ติดเทอร์โบ inter cooler)

จาก จิงโจ้ mitsu 202.57.188.51 เสาร์, 20/1/2544 เวลา : 14:09

คำตอบที่ 23
เมื่อก่อนเข้าใจเองว่า off road ก็คือการมีรถคันโต ๆ เท่ห์ ๆ ไว้ขัดเล่นไปในป่า ที่เป็นทาง ธุระกันดาร เละ ๆ แฉะ ๆ เพื่อความสนุกสนานก็เท่านั้นเอง ..... หลังจากได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเดินทางกับกลุ่ม OFF ROAD หลาย ๆ ครั้ง มันมีอะไรที่พิเศษไปกว่านั้นมากมาย เช่นความมีน้ำใจให้กัน (ซึ่งหากันได้ไม่ง่ายในสังคมยุคปัจจุบันนี้) ตลอดจน คำมั่นสัญญาที่ OFF ROAD มีให้แก่กันและกันว่า เราจะไม่ทำลายป่า นอกจากนี้ ยังทำให้ได้รู้ว่า"ทำไมคนไทยทุกคนถึงต้องรักป่า" ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง และ OFF ROAD เท่านั้นที่สามารถจะพาคุณไปถึง นี่เป็นเพียงความรูสึกเล็ก ๆน้อย ๆที่พอจะเรียบเรียงออกมาได้. เพราะฉะนั้น หลังจาก ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สดใสบริสุทธิ์ออกมาแล้า ขอให้ทิ้งไว้แต่ความทรงจำเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น (ขยะ)เก็บออกมาให้หมด เข้าใจ๋

จาก ผู้หลงใหลป่า 203.147.4.22 ศุกร์, 9/11/2544 เวลา : 16:13

คำตอบที่ 26
ขอแจมด้วยคนไม่ว่ากันนะครับ สำหรับผมแล้วการท่องเที่ยวแบบ off road คือความสุขที่หาไม่ใด้ในเมือง เมื่อก่อนใช้ pick up ขับ2 มีเวลาว่างก็แพคกระเป๋าเข้าไปนอนตามป่าเขา สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิุ ไปตามทางที่ไปใด้ เจอทางที่ไปไม่ใด้ก็ถอย วันหนึ่งเกิดความคิดอยากจะไปในทางที่ไปไม่ใด้ ก็เลยเก็บเงินซื้อ ขับ4 มาใช้ มีมิตรภาพเกิดขึ้นใหม่หลายครั้งที่ไปเที่ยว ครั้งหนึ่งไป น้ำตกผาสวรรค์ ไป3คัน ขากลับ(ประมาณ 8 กม.จากน้ำตก) มีรถสวนมา 1 คัน ก็หยุดทักทายกัน ตามประสาคนคอเดียวกัน ปรากฎว่า พอถึงทางออกเราก็เลี้ยวซ้ายเพื่อไปผาสวรรค์บน รถคันที่สวนกันคันนั้น ตามเรามา เราเห็นพี่เขามาคันเดียวก็เลยปรึกษากันทาง ว. ว่าจะชวนเขาไปด้วย พอจอดรถ พี่เขาก็เดินมา ขอไปด้วยคัน เราก็ o.k. เลย ทุกวันนี้เราเที่ยวด้วยกัน ลุยโคลน ลุยน้ำ ด้วยกัน ช่วยเหลือกัน กินข้าวด้วยกัน ทุกครั้งที่เข้าป่า เรามีความสุข มีเสียงหัวเราะ มีความประทับใจ ทั้งจากธรรมชาติที่บริสุทธิ และมิตรภาพที่ไม่ใด้ไส่หน้ากาก ทุกครั้งที่ไป เราจะไม่เหลืออะไรไว้ที่นั่น นอกจากความประทับใจและรอยล้อ(ไม่เคย post อะไรใด้ยาวเท่านี้มาก่อนเลย)

จาก โหงว 202.183.167.211 เสาร์, 10/11/2544 เวลา : 12:25

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>>
1