คำตอบที่ 7
คำว่า Memory Effectมันหมายถึงอะไร
ครับอาการ Memory Effect เกิดจากการที่เราเอาถ่านชาร์จประเภท Ni-Cd (นิกเกิ้ลแคดเมียม)และ Ni-MH (นิกเกิ้ลเมทัลไฮดรายด์)มาชาร์จซ้ำ
ในขณะที่ประจุถ่านยังไม่หมดก้อน การชาร์จประจุใหม่ที่เราชาร์จเข้าไปนั้นจึงเข้าไปได้ไม่เต็มก้อน
เมื่อเรานำถ่านมาใช้งานอีกครั้ง ประจุที่ใช้งานได้จะเป็นส่วนของประจุที่ชาร์จเข้าไปใหม่เท่านั้น
ทำให้ถ่านมีความจุลดลง การใช้งานสั้นลง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อถ่านชาร์จเหลือประจุอยู่ 70%
แล้วเราเอาไปชาร์จไฟใหม่ ประจุใหม่ที่ชาร์จเข้าไปได้จะได้แค่ 30%
เมื่อเรานำไปใช้อีกครั้งถ่านชาร์จก้อนนั้นจะสามารถจ่ายประจุออกมาได้แค่ 30% ไม่ใช่ 100% อีกต่อไป
ดังนั้น ก่อนการชาร์จถ่านควรจะใช้ถ่านให้ใกล้หมดก้อนก่อน (ขอย้ำแค่ใกล้หมดก้อนนะครับ เพราะถ้าใช้จนหมดก้อนแล้วค่อยนำมาชาร์จ ถ่านจะเสียครับ)
หรือใช้เครื่องชาร์จที่มาปุ่มคายประจุ (Discharge) ทำการคายประจุก่อนชาร์จไฟเข้าไปใหม่ จะทำให้ไม่เกิด Memory Effect ครับ
แต่สำหรับถ่านชาร์จ Ni-MH รุ่นใหม่ประเภทใช้งานได้ทันที (Ready to Use) หรือมีอีกชื่อว่า LSD (Low Self Discharge) ถ่านคายประจุต่ำ เช่น Eneloop , GP Recyko+ , Uniross Hybrio , Toriyama Infini ถึงแม้ว่าจะเป็นถ่านประเภท Ni-MH (นิกเกิ้ลเมทัลไฮดรายด์) แต่ว่าได้มีการเติมสาร superlattice alloy ลงไป สารตัวนี้เองทำให้ถ่าน Ni-MH รุ่นใหม่ต่างจากรุ่นเก่าเพราะไม่มีปัญหา Memory Effect อีกต่อไป เราจึงสามารถชาร์จถ่านได้บ่อยครั้งเท่าที่เราต้องการครับ