ศุกร์,22 พฤศจิกายน 2567

[back home]
จำนวนคนอ่าน 26925  คน


โดย คุณดุสิต

การปรับแต่งเข็มน้ำมัน

      บางทีผมก็ไม่เข้าใจพฤติกรรมการบินเครื่องบินเล็กในบ้านเราหลายๆอย่าง หลายๆคนกลัวที่จะปรับเข็มน้ำมัน ไม่รู้จะกลัวกันไปทำไม บางคนที่ผมเคยเจอ 'เซียนที่สนามปรับมาให้ดีแล้ว ไม่ต้องปรับอะไรอีก'หรือ 'แหม อาทิตย์ที่แล้วปรับมาดีแล้ว คงไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว' หรือพวกยกเครื่องบินลงมาติดเครื่องยนต์แล้วก็บินเลย พอขึ้นเครื่องก็สำลัก หมดแรง เอ้าเลี้ยวกลับ ตายห่าเครื่องStall แล้วก็ตก ที่บรรยายได้ละเอียด เพราะผมก็เป็นคนหนึ่ง ละที่ชอบทำแบบนี้ เสียสุดที่รักไปหลายตัวเหมือนกัน หรือพวกที่รีบจะบิน พวกขึ้นไปหมดแล้วกลัวไม่ทันเขา พวกนี้ก็ใส่ถุงดำกลับบ้านมาเยอะแล้ว เสียเวลาเช็คซักนิดปรับซักหน่อย ปลอดภัย[สำหรับเครื่องบิน]ขึ้นอีกเยอะ

      อีกแบบคือพวกที่พยายามปรับเครื่องยนต์จนถึงจุดที่สามารถทำงานได้สูงสุด[Max.Practical RPM] แล้วก็บิน ด้วยรอบเครื่องยนต์นั้นตลอด จะมีลดบ้างก็ตอนจะบินลง แหมบางทียังมาบอกว่า เครื่องบินไม่ค่อยเร็วเท่าไรเลย ผมสงสัยมาตลอดว่าทำไมไม่เล่นเครื่อง Pylon เสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เครื่องบินจะบินได้เร็วหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว Aerodynamic น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ในสมัยก่อนมีการแนะนำ กันว่าถ้าจะบิน ครื่องเฮลิคอปเตอร์ ควรจะบินเครื่องบินเล็กให้ได้ก่อน แต่ผมว่าคนที่จะบินเครื่องบินเล็ก ก็น่าจะไปหัดบินเฮลิคอปเตอร์ก่อน เหมือนกัน เพราะจะช่วยให้มือซ้ายมี Dynamic มากขึ้น ไม่ใช่มีหน้าที่แค่พยุงเครื่องส่ง[Tx] มีกี่คนที่บินเครื่องบิน ด้วยความเร็วที่พอเหมาะ เก็บกำลังสำรองไว้เมื่อถึงเวลาต้องการใช้ สำหรับผมเมื่อเห็นว่า เครื่องยนต์มี กำลังไม่พอ ผมจะเปลี่ยนขนาดของเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น ยกตัวอย่างผมมีปีกสองชั้นอยู่ลำหนึ่ง ตอนแรกใส่ 4 Stroke 120 บินนะบินได้ แต่ผมสังเกตว่าเครื่องยนต์ทำงานหนักมากเกินไป ผมจะไม่ขืนใช้มันในสภาพแบบนั้น ผมเปลี่ยนเป็น 2 Stroke 1.08 คราวนี้เครื่องยนต์ทำงานสบายขึ้น มีกำลังสำรองมากขึ้น อีกตัวอย่าง ผมซื้อเครื่องยนต์ 2 Stroke 1.08 พร้อมกับพี่คนหนึ่ง พี่คนนี้แกบินแบบดันคันเร่งสุดตลอดเวลา เครื่อง1.08แกพังภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์ แถมพาเอาเครื่องบินของแกพังตามไปด้วย ส่วนของผม[ผู้ที่มือซ้ายทำงานตลอด] ปีนี้เป็นปีที่10ที่เครื่องยนต์ตัวนี้ยังรับใช้ผมอยู่ เอาละนอกเรื่องไปนิดๆเข้าเรื่องกันดีกว่า

         เนื่องจากCarburetors ของเครื่องยนต์ที่เราๆใช้กันมีหลายแบบ การที่จะพูดถึงการปรับสำหรับCarburetors ทุกชนิดคงเป็นไปไม่ได้ และผมก็รู้ไม่หมดด้วย เราจะพูดถึงCarburetorsที่เราพบเห็นกันบ่อยๆ ซึ่งก็มีการทำงานคล้ายๆกัน มีข้อปลีกย่อยที่แตกต่างกันนิดๆหน่อยๆ ตกลงกันก่อนเราจะพูดถึงการปรับCarburetors สำหรับการใช้งาน แบบธรรมดาสำหรับเครื่องบินเล็ก พวกเครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์ซึ่งต้อง ใช้เทคนิคพิเศษเช่น ต้องมีแท่นยึด เฮลิคอปเตอร์เพื่อ ใช้ปรับ [ซึ่งก็ไม่เห็นมีใครใช้กันเลย] หรือพวกเครื่องยนต์ของเครื่องบินDuct Fan ซึ่งผมไม่มีประสบการณ์เลย คงต้องขอผ่านไปก่อน

       เข็มปรับน้ำมัน[High Speed Needle Valve] มีหน้าที่อะไร แหม ชื่อภาษาอังกฤษมันก็บอก อยู่แล้วว่า เป็นเข็มสำหรับปรับรอบสูง ก่อนจะต่อไปเรามาทำความรู้จักกับศัพท์ภาษาอังกฤษสองตัว RICH และ LEAN Rich คือส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศ ที่เข้าไปในห้องเผาไหม้มีน้ำมัน เชื้อเพลิงมากเกินไป[Mixture has too much fuel] ส่วนLean คือส่วนผสมที่มีน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยไป[Mixture has too little fuel ] ถ้าเราคลายเข็ม ปรับน้ำมัน ออกแสดงว่าเรากำลังRich มัน ถ้าขันเข้าแสดงว่ากำลัง Lean มัน ดังนั้นเราก็จะมี ศัพท์ใหม่ๆ ไปใช้เช่นพื่ๆขอ Rich อีกนิด[แสดงว่าผมขอเพิ่มเหล้าในแก้วอีกนิด มันบางไป….. เราใช้เข็มปรับน้ำมันเพื่อปรับหา Maximum Practical RPM หรือรอบสูงสุดที่เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างปกติโดยไม่Over Heat เป็นจุดที่เครื่องยนต์สามารถ ให้กำลังใน ทางปฏิบัติได้มากที่สุด ถ้าเราปรับเข็มปรับน้ำมันเลยจากจุดนี้เข้าไปเครื่องยนต์จะเริ่มLean กำลังของเครื่องยนต์จะตกลง ประสิทธิภาพของการหล่อลื่นจะลดลง เครื่องยนต์ก็จะเริ่ม Over Heat ผลก็คือ ลูกสูบเสื้อสูบก็จะพัง ยังกะโฆษณาน้ำมันAuto Lub.ในTV.

      ปรกติบริษัทที่ผลิตเครื่องยนต์จะกำหนดจำนวนรอบที่จะเปิดเข็มปรับน้ำมันมาอย่างเคร่าๆในคู่มือ ถ้าไม่มีฝรั่งเขา แนะนำให้เปิด ไว้ประมาณ 3 รอบเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อทำการติดเครื่องยนต์ให้ได้ก่อน และเป็นจุดเริ่มต้น ที่ดีในการเริ่มต้น ทำการปรับเข็มน้ำมัน เมื่อติดเครื่องยนต์ได้แล้ว[ถ้าเป็นเครื่องยนต์ใหม่ ต้องผ่านการBreak-In มาแล้วและควรจะ Running-In มาแล้วอย่างต่ำครึ่งชั่วโมง (Running-Inในความหมายของผมคือ การให้เครื่องยนต์ทำงาน ในสภาวะ ปกติแต่มี Load ต่ำกว่าปกติ เช่นใส่ใบพัดที่มีPitchที่น้อยกว่าที่จะใช้งานจริง ) เราก็เริ่มปรับเข็มน้ำมันเพื่อหาจุด Maximum Practical RPM มีวิธีหนึ่งที่คนอเมริกา เขาใช้กันมานานแล้ว และผมได้ทดลองใช้มา นานพอสมควร เห็นว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดี เราเรียกวิธีนี้ว่าการบีบท่อน้ำมัน[Tubing Pinch]

     วิธีการบีบท่อน้ำมันส่วนหนึ่งเป็นการเช็คว่าการปรับเข็มน้ำมันณจุดนั้นทำให้เครื่องยนต์อยู่ในสภาวะใด อีกส่วนหนึ่ง เป็นการหาจุดMaximum Practical RPM ของเครื่องยนต์ วิธีการการทำก็ไม่ยากอะไร เมื่อติดเครื่องยนต์ ได้แล้วให้เร่งเครื่องยนต์จนสุด แล้วบีบท่อน้ำมันโดยจะ ใช้นิ้วมือบีบ [ระวังใบพัดหน่อย] หรือจะใช้คีมที่ไม่คมบีบก็ได [พี่มิกกี้ใช้กรรไกแบบที่พวกหมอเขาใช้คีบสำลี] เมื่อทำการบีบท่อน้ำมัน เครื่องยนต์จะมีการตอบสนอง4 แบบ

  • 1.เครื่องยนต์เร่งเมื่อบีบท่อน้ำมัน และเมื่อคลายการบีบ เครื่องยนต์จะลดรอบลงเหมือนเดิม    อาการนี้แสดงว่าส่วนผสมของน้ำมัน อยู่ในสภาวะค่อนข้าง Rich สามารถปรับเข็มน้ำมันเข้าได้อีก

  • 2. เครื่องยนต์เร่งเมื่อบีบท่อน้ำมัน เมื่อคลายการบีบ รอบเครื่องยนต์ไม่ตกลง แสดงว่าส่วนผสมของน้ำมัน อยู่ในสภาวะที่ยังRichอยู่แต่อยู่ใกล้จุดMaximum Practical RPMมากแล้ว ยังสามารถ ปรับเข็ม น้ำมันเข้าไปได้อีก

  • 3.เครื่องยนต์ไม่เร่งเมื่อบีบท่อน้ำมัน และเมื่อคลายการบีบ รอบเครื่องยนต์ก็ไม่ตกลง แสดงว่าส่วนผสม ของน้ำมันอยู่ที่จุด Maximum Practical RPM แล้ว

  • 4.เครื่องยนต์รอบลดลงเมื่อบีบท่อ แสดงว่าส่วนผสมน้ำมันLeanไปซะแล้ว คลายเข็มน้ำมันออก

       ไม่ยากใช่ไหมครับ ผมยืนยันไม่ยากจริงๆ พยายามปรับบ่อยๆ  ค่อยๆสังเกตอาการตอบสนอง ของเครื่องยนต์เมื่อ ทำการบีบท่อน้ำมัน คนที่ผมเห็นใช้วิธีนี้ตลอดเวลาคือคุณหม่องแห่งChopper Champ ผมชอบดูแก กับพี่มิกกี้ปรับ เครื่องยนต์เครื่องบินDuct Fanด้วยวิธีนี้ ใครเคยเห็นคนยกหัวเครื่องบินDuct Fan ขึ้นเพื่อปรับเข็มน้ำมันบ้าง สำหรับ เครื่องบินธรรมดาที่เราๆท่านๆบินกันวิธีนี้ได้ผลดีกว่าวิธีปรับโดยยกหัวเครื่องบินขึ้น ทดลองกันดูนะครับไม่เสียหายอะไร ระวังนิ้วให้ดีๆเท่านั้นแหละ

      แล้ววิธีนี้มีขีดจำกันหรือไม่ มีครับ มีนิดหน่อย วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเครื่องยนต์ที่เริ่มหลวม ซึ่งในความเป็นจริง วิธีอะไรก็ใช้ไม่ได้ ก็ของมันกำลังจะพังอยู่แล้ว วิธีนี้มักจะมีปัญหาถ้าเครื่องยนต์ถูก ติดตั้งบนเครื่องบิน อย่างไม่ถูกต้อง เช่นระดับถังน้ำมันไม่อยู่ในระดับที่ถูกต้อง ท่อน้ำมันรั่ว สภาพถังน้ำมันไม่ดี มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนเขาเอาเครื่องยนต์OS 61ที่ใช้กับเครื่องPattern มาหาผมให้ช่วยแก้ไข เขาบอกว่ามันรวนมาก ปรับเข็มน้ำมันยาก เครื่องยนต์ไม่ค่อยมีแรง และเครื่องยนต์ชอบดับตอนบิน ผมก็เริ่มเอามาทดสอบบนแท่นทดสอบ มันก็ทำงานได้ดีมาก ทั้งรอบสูงและรอบต่ำ ต่อมาผมทดสอบโดยเอามันไปติดตั้งบนเครื่องบินPattern ของผมเพราะใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกัน เครื่องยนต์ก็ยัง คงทำงานได้อย่างดี กำลังดีมาก ถึงแม้ผมจะใช้น้ำมันที่ไม่มีNitroเลย มันก็ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องบินสามารถบินทำท่าทางต่างๆได้ดี ผมบินให้เขามาดูว่าเครื่องยนต์ยังดีมากๆ ทดลองใช้น้ำมันที่เขาใช้อยู่ 15% Nitro เครื่องก็ยิ่งทำงานได้ดีขึ้น ปรับเข็มน้ำมันได้ง่ายขึ้นมาก แล้วผมก็ถอดเครื่องยนต์คืนเขาไป เขาก็เอาไปใส่เครื่องบินตัวเดิม โทรมาบอกผมว่าเหมือนเดิม ไม่มีกำลัง ปรับเข็มน้ำมันยากมาก และยังดับกลางอากาศอยู่ ผมเลยแนะนำให้ทำการ ตรวจสอบถังน้ำมันและระบบส่งน้ำมัน ระดับของถังน้ำมัน ก็ไม่รู้ว่าเขาทำหรือ ปล่าแต่ได้ข่าวตอนหลังว่า เครื่องตกไปแล้ว เพราะเครื่องดับขณะบิน จากเรื่องนี้ผมให้ข้อคิดบางอย่าง เครื่องยนต์ทุกเครื่องควรเริ่มต้นบนแท่นทดสอบเครื่องยนต์ อย่าเอาเครื่องไป Break-In หรือ Running-In บนเครื่องบินเพราะอาจจะ มีตัวแปรตัวอื่นที่จะทำให้ เครื่องยนต์ ทำงานผิดปกติได้ ให้ทดสอบบนแท่นทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์ของเราทำงานได้อย่างปกติ ถ้า ครื่องยนต์ ที่ใช้อยู่รวนหรือปรับยาก แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติ ผมแนะนำให้ถอดเครื่องยนต์ออกไปทดสอบบนแท่นทดสอบ ถ้าเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างปกติบนแท่นทดสอบ แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติที่ตัวเครื่องบิน เรื่องระดับของถังน้ำมัน ผมเคยอ่านข้อแนะนำของคุณLee แกให้ระดับของ Fire Bar ใน arburetor และระดับกึ่งกลาง ถังน้ำมันมี ระยะ ต่างกันได้ไม่เกิน2 มม. เอาไม้บรรทัดมาเล็งดูซิครับ 2 มม. เล็กนิดเดียว 

           ส่วนเครื่องที่ใช้Fuel Pumpจากประสบการณ์ ใช้วิธีนี้ไม่ได้ คงต้องใช้วิธีปรับโดย ใช้วิธียกหัวเครื่องบินขึ้น แล้วค่อยๆปรับเข็มน้ำมันจนเครื่องเริ่มLean แล้วจึงคลายเข็มให้เครื่องยนต์Rich ขึ้นอีกนิดหน่อย เครื่องยนต์ที่ใช้Fuel Pump ส่วนใหญ่จะปรับยาก Rich เกินไปก็ดับหรือทำงานไม่ดี Lean ก็ดับ เครื่องยนต์แบบนี้ควรใช้น้ำมันที่มี Niroไม่ต่ำกว่า15% ซึ่งจะทำให้การปรับเข็มน้ำมันง่ายขึ้นมาก ต้องพยายามปรับให้เครื่องมีกำลังเท่าที่เราต้องการ ให้ใช้ความสามารถของFuel Pumpในด้านช่วยเพิ่มการตอบสนองของรอบเครื่องยนต์จะดีกว่า พยายาม ใช้เครื่องวัดรอบ เครื่องยนต์จะช่วยได้มาก

     ส่วนเครื่อง4 จังหวะผมไม่ใช้วิธีบีบท่อน้ำมัน ผมใช้วิธีของคุณ Lee แห่ง RCM คือใช้เครื่องวัดรอบเครื่องยนต์ และใช้ข้อกำหนดว่าเครื่อง4 จังหวะต้องไม่ทำงานด้วยรอบเครื่องยนต์เกิน 10,000รอบต่อนาที ถ้าสิ่งที่คุณอยากได้คือกำลัง คุณต้องไปหาเครื่อง 2 จังหวะ เครื่อง4 จังหวะให้คุณไม่ได้เรื่องนี้ ผมเห็นคนเล่นเครื่องบิน ในบ้านเราพยายามกันนัก ที่ปรับเข็มน้ำมันเพื่อจะเค้นเอากำลังออกมาจากเครื่อง4 จังหวะให้มากที่สุด จะเอาอะไรกันนักกันหนา ไม่กลัวมันพังกันบ้างเลย ในสมัยก่อนตอนที่เริ่มนิยมใช้เครื่องยนต์4 จังหวะในบ้านเรา มีอาการเสียหายของเครื่องยนต์ 4 จังหวะอย่างหนึ่งที่แปลกมาก ซึ่งผมไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ มีเครื่องยนต์4 จังหวะจำนวนมากบริเวณเสื้อห้องข้อเหวี่ยงแตก คงเดาถูกนะว่าแตกเพราะอะไร เครื่อง 4 จังหวะควรเลือกใบพัดให้เหมาะสมกับตัวมันและงานที่ใช้ แน่นอนว่าเครื่องยนต์ 4 จังหวะส่วนใหญ่ สามารถ ทำงานได้เกิน 10,000 RPM ทุกตัว แต่เราไม่ควรปรับให้มันทำงานที่จุดนั้น ทำไมหรือ เมื่อเครื่องยนต์ 4 จังหวะ เมื่อทำงานที่รอบเครื่องยนต์เกิน 10,000RPM เครื่องยนต์อาจจะมีอาการชนิดหนึ่งเกิดขึ้นที่ระบบValue พวกช่าง เครื่องยนต์เขาเรียกอาการนี้ว่า Value ลอย ซึ่งเป็นอาการที่สปริง Value ไม่สามารถจะดัน Value ให้ปิดได้ทัน เป็นผลให้เครื่องยนต์มีกำลังลดลง  [พวกที่ชอบแต่งเครื่องยนต รถแข่งจะรู้ว่าสปริง Value ของรถแข่งจะแข็งกว่า ของรถธรรมดามาก] 

       จากประสบการณ์ของผม ใส่ใบพัดตามข้อกำหนดที่บริษัทเขาบอกไว้ในคู่มือ ปรับเข็มน้ำมันโดยใช้เครื่องวัดรอบ เช็ครอบเครื่องยนต์ไว้ตลอดเวลา ให้ปรับจนกว่ารอบเครื่องยนต์ไม่เพิ่มขึ้น เมื่อถึงจุดนี้ให้คลายเข็มน้ำมัน ออกอีกเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์อยู่ในสภาพRichจริงๆ แต่ถ้าที่จุดนี้รอบเครื่องยนต์สูงกว่า 10,000RPM ให้คลายเข็มน้ำมันออกอีกจนกว่าเครื่องยนต์จะมีรอบการทำงานต่ำกว่า 10,000 RPM ถ้าที่รอบ เครื่องยนต์ต่ำกว่า 10,000RPM  แล้วเห็นว่าเครื่องยนต์มีกำลังไม่พอให้ทดลองเปลี่ยนใบพัดให้ใหญ่ขึ้น อย่าลืมเรื่องชนิดน้ำมันของเครื่อง4 จังหวะ จำนวนNitro ประมาณ10-15%ก็เพียงพอแล้วสำหรับเครื่องแบบนี้ สารหล่อลื่นประมาณ 18% และควรเป็น น้ำมันสังเคราะห์
       

       สิ่งที่อยากให้ทุกคนฝึกให้เป็นนิสัยคือก่อนที่จะนำเครื่องบินขึ้นควรทำการเช็คการ Tune-up เครื่องยนต์โดย วิธียกหัวเครื่องบิน ทุกครั้ง อย่างไปคิดว่าเมื่อ Flight ที่แล้วบินดี Flight ต่อมาจะดีเหมือนเดิม ถ้าเห็นว่าเครื่องยนต์มีอาการ ส่อไปในทาง Lean อย่าพึ่งขึ้นบิน พยายามปรับเข็มน้ำมันให้เครื่องยนต์อยู่ในสภาวะที่ถูกต้องก่อน ผมเห็นนักบินที่ชำนาญ หลายๆคนเสียเครื่องบิน ไปเพราะเรื่องนี้มามาก ใครเคยเครื่องยนต์ดับตอนที่เครื่องบินกำลังไต่ความสูงช่วงTake off จะเข้าใจดีว่าช่วงนั้นอันตราย มากเพียงใด เลี้ยวกลับมาสนามก็ไม่ได้ เข้าป่าลูกเดียว

       ว่าจะเขียนเรื่องการปรับเข็มเดินเบาต่อไปเลย กลัวว่าบทความจะยาวเกินไป เอาเป็นคราวหน้าแล้วกัน เรื่องการปรับเข็มเดินเบา มีเทคนิคการปรับแปลกๆของพื่มิกกี้มาฝากด้วย 
      

        เหมือนเดิมละครับ  หวังว่าบทความนี้คงมีประโยชน์อะไรบ้างเล็กๆน้อยๆ สวัสดีทุกคนครับ

ดุสิต

[back home]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Conner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster