คำนำ
ในการแข่งขันกีฬาทุกประเภท มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้แข่งขันจะต้องรู้และเข้าใจกติกาของกีฬาประเภทนั้นอย่างดีพอสมควรในระดับหนึ่งเสียก่อน
จึงจะสามารถทำการแข่งขันอย่างมีประสิทธิผลได้ กีฬาเครื่องบินเล็กบังคับด้วยวิทยุประเภทบินผาดแผลงก็เช่นเดียวกัน
จากประสบการณ์ของผู้จัดทำ ซึ่งได้คร่ำหวอด อยู่กับกีฬานี้มาประมาณยี่สิบปี
ได้เห็นว่าจุดอ่อนของผู้เข้าแข่งขันของไทยเราก็คือ ความไม่สามารถที่จะทำ
ความรู้ความเข้าใจ กับกติกาได้อย่างถ่องแท้ จึงทำให้เริ่มฝึกบินแบบค่อนข้างจะสะเปะสะปะ
และไม่สามารถก้าวหน้าไปจนถึงจุดสูงสุดของศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเองได้
กติกานี้กำหนดขึ้นโดยอิงกับกติกาสากลฉบับ เอฟ 3 เอ ของสมาพันธ์การบินระหว่างประเทศเป็นหลัก
แต่ได้ตัดต่อเรียบเรียงให้ง่ายขึ้น เพื่อใช้สำหรับ การแข่งขันในระดับ พื้นฐานของไทย
เนื่องจากต้นฉบับภาษาอังกฤษของกติกาการแข่งขันกีฬาการบินผาดแผลงบังคับด้วยวิทยุฉบับนี้เขียนขึ้นสำหรับใช้กับการแข่งขันในระดับโลก
จึงค่อนข้างอ่านเข้าใจได้ยาก เพราะเขียนไว้อย่างกระชับ ห้วนๆสั้นๆ แต่ละเอียดและรัดกุม
ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะต้องตีความ และนำมาถกเถียงกัน ในระหว่างการแข่งขันหรือการตัดสิน
ซึ่งผู้แปลก็ได้พยายามทำการแปล โดยรักษาเนื้อความและความหมาย ของต้นฉบับภาษาอังกฤษไว้ให้ใกล้เคียง
มากที่สุดเพื่อประโยชน์อันเดียวกัน จึงอาจจะดูเหมือนว่าค่อนข้างที่จะอ่านเข้าใจได้ลำบากอยู่บ้าง
แต่ก็ได้พยายามที่จะใช้ภาษาและถ้อยคำ ที่ผู้ที่ทำการบินเครื่องบินเล็กผาดแผลง
จะสามารถเข้าใจได้ให้มากที่สุด ของแต่เพียงให้พยายามอ่านดูให้ดี อาจจะต้องอ่านซ้ำสักเที่ยวสองเที่ยว
ก็จะเข้าใจได้โดยตลอด
หวังว่ากติกานี้จะได้มีส่วนช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจของเพื่อนนักบินที่สนใจการบินผาดแผลงแบบสากล
กับช่วยจูงใจและเป็นฐาน ให้เพื่อนๆสามารถ ทำการบินผาดแผลง ได้อย่างสวยงามถูกต้องตามแบบมาตรฐานสากล
และสามารถพัฒนาระดับฝีมือในการบิน ให้ก้าวหน้าต่อไปจนถึงขั้นที่สามารถ
เข้าร่วมและมีชัยชนะในการแข่งขันการบินผาดแผลงประเภทนี้ในระดับนานาชาติได้ในที่สุด
ฉายศักดิ์
แสง-ชูโต และ สุรศักดิ์ บำเพ็ญบุณย์
ผู้จัดทำ
เมษายน 2545
การบินผาดแผลงบังคับด้วยวิทยุ
1.
ข้อบังคับทางเทคนิคสำหรับการแข่งขันเครื่องบินเล็กบังคับด้วยวิทยุ
1. เครื่องบินเล็กผาดแผลงคิดเครื่อง(5.1)*
1.1.คำนิยามของเครื่องบินเล็กผาดแผลงติดเครื่องบินบังคับด้วยวิทยุ(5.1.1)
คือเครื่องบินเล็กที่ไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งทำท่าบินในอากาศโดยพื้นที่
(แผ่น) บังคับสำหรับกำหนดการวางตัวของเครื่องบิน ทิศทางและความสูง โดยนักบินซึ่งอยู่บนพื้นดินผ่านทางวิทยุบังคับ
1.2. คุณลักษณะทั่วไปของเครื่องบินเล็กผาดแผลงติดเครื่อง(5.1.2)
กางปีก ไม่จำกัด
(เอฟ 2 เอ ไม่เกิน 2 เมตร)
ความยาว ไม่จำกัด
(เอฟ 3 เอ ไม่เกิน 2 เมตร)
น้ำหนัก
ไม่จำกัด (เอฟ 3 เอ ไม่เกิน 5 กิโลกรัม โดยไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง)
ข้อจำกัดด้านเครื่องยนต์
: ใช้เครื่องยนต์ใดก็ได้ที่เหมาะสม ยกเว้นเครื่องเครื่องที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง
ก๊าซ หรือก๊าซเหลว เครื่องที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกจำกัดแรงดันไฟฟ้าไม่ให้เกิน
42 โวลต์สำหรับวงจรขับเคลื่อน
ระดับความดังเสียง ไม่เกิน
94 dB (A) ที่ระยะวัด 3 เมตรจากศูนย์กลางของตัวเครื่องบิน โดยเครื่องบินวางอยู่บนพื้นคอนกรีตหรือพื้นหินอัดในสถานแข่งขัน
โดยวัดเมื่อเครื่องทำงานเต็มที่ในแนว 90 องศาด้านขวาใต้ลมของเส้นแนวบิน
ไปโครโฟนจะอยู่สูง 30 เซนติเมตรจากพื้น จะต้องไม่มีสิ่งที่สะท้อนเสียงอยู่ในระยะใกล้กว่า
3 เมตรจากเครื่องบินหรือไมโครโฟน การวัดเสียงจะทำก่อนการบินทุกๆเที่ยว
ถ้าไม่มีพื้นคอนกรีตหรือพื้นหินอัดก็อาจทำการวัดเสียงบนพื้นดินเปล่าหรือบนพื้นหญ้าสั้นๆ
ซึ่งในกรณีนี้ความดังของเสียงต้องไม่เกิน 92 dB (A)
ในกรณีที่เครื่องยินไม่ผ่านการวัดเสียง
จะไม่มีการบอกให้นักบินและ/หรือทีมของนักบินหรือกรรมการผู้ตัดสินทราบ แต่เครื่องบินกับเครื่องส่งวิทยุจะถูกยึดเก็บรักษาไว้โดยกรรมการผู้ควบคุมสนามทันทีหลังจบเที่ยวบิน
ไม่อนุญาตให้ทำการใดๆเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือปรับเครื่องบิน (ยกเว้นการเติมน้ำมัน)
และหากเครื่องบินยังไม่ผ่านการทดสอบใหม่นี้ คะแนนของเที่ยวบินที่จบลงก่อนหน้านี้จะเท่ากับศูนย์
การแข่งขันจะถูกหยุดพักเมื่อมีการตรวจวัดเสียง
แต่ผู้เข้าแข่งขันจะถูกหยุดพักไม่เกิน 30 วินาทีสำหรับการตรวจวัด
อุปกรณ์วิทยุจะต้องเป็นประเภท
open-loop (นั่นคือ ต้องไม่มี feedback ทางอีเลคโทรนิคจากเครื่องบินกลับลงมาสู่พื้นดิน)
ห้ามใช้ระบบนักบินอัตโนมัติ (auto pilot) ซึ่งใช้แรงเฉื่อย หรือ แรงโน้มถ่วง
หรือการใช้พื้นแผ่นดินเป็นตำแหน่งอ้างอิงทุกชนิด ห้ามใช้ระบบการเรียงลำดับการบังคับแบบอัตโนมัติ
(แบบฟรีโปรแกรม) หรืออุปกรณ์ตั้งเวลาบังคับอัตโนมัติ
ตัวอย่าง
: ที่อนุญาตให้ใช้
1. อุปกรณ์เปลึ่ยนแปลงอัตราการบังคับ ซึ่งปิดเปิดสวิทช์โดยนักบิน
2. ปุ่มหรือคันโยกบังคับใดๆ ซึ่งเริ่มและหยุดโดยนักบิน
3. สวิทช์ที่ปิดเปิดด้วยมือเพื่อเชื่อมโยงหน้าที่การบังคับ
ตัวอย่าง
: ที่ไม่อนุญาตให้ใช้
1. ปุ่มสำหรับพลิกตัวโดยฉับพลัน/สแน็ป ซึ่งมีการบังคับช่วงเวลาทำงานอัตโนมัติ
2. อุปกรณ์ซึ่งตั้งโปรแกรมสำหรับการส่งอนุกรมคำสั่งอย่างอัตโนมัติ
3. นักบินอัตโนมัติ (auto pilot) สำหรับการแก้การเอียงของปีก
4. ระบบเปลี่ยนมุม pitch ของใบพัดซึ่งมีการตั้งเวลาอัตโนมัติ
5. ระบบการรับคำสั่งด้วยเสียงใดๆ
6. ระบบซึ่งสามารถเรียนรู้ได้โดยอัตโนมัติจากการวิเคราะห์ลักษณะการบินแต่ละเที่ยว
1.3. คำนิยามและจำนวนผู้ช่วย
(5.1.3)
ผู้ช่วยอาจเป็นผู้จัดการทีม ผู้เข้าแข่ง หรือผู้สนับสนุนที่ได้ลงทะเบียนเป็นทางการอนุญาตให้นักบินแต่ละคนมีผู้ช่วยได้
1 คนในระหว่างเที่ยวบิน อาจมีผู้ช่วยได้ถึง 2 คนในช่วงสตาร์ทเครื่อง ผู้ช่วยคนที่สองอาจช่วยวางเครื่องบินสำหรับการบินขึ้นและเก็บเครื่องบินหลังการบินลง
1.4. จำนวนเที่ยวบิน(5.1.4)
ผู้เข้าแข่งขันมีสิทธิทำการบินได้ในจำนวนเที่ยวบินที่เท่ากันทั้งในระหว่างรอบคัดเลือก
รอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงชนะเลิศ โดยจะนับเฉพาะเที่ยวบินที่บินได้ครบถ้วน
1.5. นิยามของการพยายามบิน(5.1.5)
เมื่อนักบินได้รับอนุญาตให้เริ่มต้นจะถือว่าเป็นการพยายามบินหนึ่งครั้ง
หมายเหตุ : ถ้าไม่สามารถติดเครื่องได้ภายในเวลาสามนาที ผู้เข้าแข่งขันผู้นั้นต้องยอมเปลี่ยนที่ให้เป็นผู้แข่งขันถัดไป
ถ้าเครื่องหยุดลงหลังเริ่มการบินขึ้น แต่ก่อนที่เครื่องจะพ้นจากพื้น อาจเริ่มทำการสตาร์ทเครื่องได้ใหม่ภายในเวลาสามนาที
1.6. จำนวนการพยายามบิน(5.1.6)
ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนสามารถทำการพยายามบินได้หนึ่งครั้งสำหรับเที่ยวบินเป็นทางการหนึ่งเที่ยว
หมายเหตุ : ผู้อำนวยการแข่งขันอาจพิจารณาให้ทำการพยายามบินซ้ำได้หากว่าไม่สามารถทำการสตาร์ทเครื่องได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
โดยเหตุที่นอกเหนือจากอาณัติของนักบิน (เช่น ในกรณีที่วิทยุถูกรบกวน) ในทำนองเดียวกันหากเที่ยวบินถูกรบกวนโดยนอกเหนือจากอาณัติของนักบิน
ผู้เข้าแข่งขันก็อาจได้รับอนุญาตให้บินใหม่ และจะให้คะแนนตั้งแต่ท่าบินที่เริ่มถูกรบกวนเป็นต้นไปเท่านั้น
1.7. นิยามเที่ยวบินเป็นทางการ(5.1.7)
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร การพยายามบินหนึ่งครั้งจะถือเป็นหนึ่งเที่ยวบินเป็นทางการ
1.8. การให้คะแนน(5.1.8)
ท่าบินแต่ละท่าจะได้รับคะแนนเป็นจำนวนเต็ม ซึ่งอยู่ระหว่าง 10 และ 0 จากกรรมการผู้ตัดสินให้คะแนนแต่ละคน
คะแนนนี้จะถูกคูณด้วยสัมประสิทธิ์(ค่า k - ผู้แปล) ซึ่งขึ้นอยู่กับความยากง่ายของท่าบิน
ท่าบินใดซึ่งบินได้ไม่จบจะได้คะแนน 0 ท่าบินจะต้องบินให้กรรมการเห็นชัดเจน
ถ้ากรรมการมีความจำเป็นที่ไม่สามารถติดตามท่าบินได้ตลอดทั้งท่า กรรมการผู้นั้นควรลงคะแนนเป็น
Not Observed (N.O.) ในกรณีนี้คะแนนของกรรมการผู้นี้สำหรับท่านี้จะเท่ากับคะแนนเฉลี่ยของกรรมการคนอื่นๆ
ท่าบินตรงกลางควรบินตรงกลางของพื้นที่ทำการบิน ในขณะที่ท่าเลี้ยวกลับทิศทางไม่ควรหลุดเกินเส้นที่ทำมุม
60 องศาทางด้านซ้ายและขวาของจุดกลาง ความสูงต้องไม่เกิน 60 องศา นอกจากนี้ท่าบินควรบินอยู่ในแนวเส้นแนวบินซึ่งอยู่ที่ระยะห่างประมาณ
150 เมตรด้านหน้าของนักบิน การละเมิดกฎนี้จะเป็นสาเหตุให้กรรมการแต่ละคนลดคะแนนที่ให้ลง
ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการละเมิด พื้นที่ทำการบินจะแสดงอย่างชัดเจนด้วยเสาสีขาว
ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 100 มิลลิเมตร และสูงไม่น้อยกว่า
4 เมตร ซึ่งจะถูกปักไว้ตรงกลางเสาควรติดธงหรือริบบิ้นที่สีตัดกันเพื่อให้สามารถเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นควรให้มีเส้นสีขาวหรือสีอื่นที่เห็นได้ชัด ยาวอย่างน้อย 50 เมตรลากออกจากตำแหน่งของนักบินออกไปในแนว
60 องศา ทั้งซ้ายและขวาเพื่อแสดงจุดกลางและเส้นแนวขอบของพื้นที่การบิน
จะต้องไม่มีเสียงหรือสัญญาณใดๆที่จะแสดงให้รู้ถึงการละเมิดพื้นที่ทำการบิน
กรรมการจะนั่งอยู่ในระยะไม่เกิน
10 เมตรและไม่น้อยกว่า 7 เมตร ด้านหลังของตำแหน่งนักบิน (จุดตัดของเส้น
60 องศา) และอยู่ภายในบริเวณที่อยู่ภายในเส้นมุม 60 องศาที่ต่อออกไปด้านหลังของนักบิน
เมื่อเที่ยวบินแต่ละเที่ยวสิ้นสุดลง
กรรมการแต่ละคนจะพิจารณาว่าระดับเสียงของเครื่องบินดังเกินไปหรือไม่ หากกรรมการส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเสียงดังเกินไป
คะแนนของกรรมการแต่ละคนสำหรับเที่ยวบินนั้นจะถูกตัดลง 10 คะแนน
ถ้ากรรมการเห็นว่าการทำการบินเป็นไปในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย
กรรมการอาจสั่งให้นักบินนำเครื่องบินลงสู่พื้น คะแนนซึ่งกรรมการแต่ละคนตัดสินให้จะถูกแสดงให้เห็นโดยทั่วกันภายหลังจากที่รอบบินแต่ละรอบสิ้นสุดลง
1.9. การจัดลำดับผู้ชนะ(5.1.9)
ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะทำการบินคนละสามเที่ยวบิน โดยจะนับเอาเที่ยวที่ได้คะแนนดีที่สุดสองเที่ยวเพื่อจัดลำดับชนะเลิศ
1.10. การเตรียมการตัดสินให้คะแนน(5.1.10)
ก่อนการแข่งขันจะต้องมีการประชุมชี้แจขงให้กับกรรมการ ตามด้วยเที่ยวบินฝึกฝนสำหรับกรรมการ
โดยผู้ที่ไม่ได้ร่วมแข่งขันนอกจากนั้นจะต้องมีการบินเที่ยวบิน อุ่นเครื่องสำหรับกรรมการ
โดยผู้ที่ไม่ได้ร่วมแข่งขันก่อนที่จะเริ่มเที่ยวบินแข่งขันเที่ยวแรก
1.11. การจัดการแข่งขันเครื่องบินผาดแผลงบังคับด้วยวิทยุ(5.1.11)
การจัดลำดับการบินสำหรับการบินจะทำโดยการจับฉลาก ยกเว้นแต่ว่าจะไม่ให้ผู้ใช้ความถี่เดียวกันบินถัดต่อจากกัน
สำหรับเที่ยวบินที่สอง สาม
จะเริ่มต้นจากลำดับที่ 1/3 และ 2/3 ตามลำดับลงมา
ในระหว่างเที่ยวบิน ผู้เข้าแข่งขันจะต้องอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับกรรมการผู้ตัดสินและอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อำนวยการการบิน
(Flight Line Director)
ต้องเรียกตัวผู้แข่งขันล่วงหน้า
5 นาที ก่อนที่จะให้ผู้แข่งขันเข้ามาใช้บริเวณสตาร์ทเครื่อง
ถ้าความถี่ของผู้แข่งขันไม่มีการใช้อยู่
ผู้แข่งขันจะได้รับมอบเครื่องส่งเมื่อเข้าไปในบริเวณสตาร์ทเครื่องแล้ว
เพื่อจะได้ทำการตรวจเช็ควิทยุ ถ้ามีการรบกวนทางด้านความถี่วิทยุ ผู้แข่งขันจะต้องได้รับอนุญาตให้มีเวลาตรวจเช็ควิทยุอีกไม่เกิน
1 นาทีก่อนที่จะเริ่มเวลา 3 นาทีสำหรับสตาร์ทเครื่อง ผู้ควบคุมเวลาจะแจ้งให้ผู้แข่งขันทราบเมื่อหมดเวลาหนึ่งนาทีและเริ่มทำการวัดเวลาสตาร์ทเครื่อง
3 นาที่ทันที
1.12. การทำท่าบิน(5.1.12)
จะต้องทำการบินท่าต่างๆตามลำดับที่กำหนดไว้โดยไม่มีการรบกวน ผู้แข่งขันสามารถทำท่าบินแต่ละท่าได้เพียงหนึ่งครั้งในระหว่างเที่ยวบิน
นักบินมีเวลาสามนาทีสำหรับสตาร์ทเครื่องและสิบนาทีที่จะทำการบินให้จบ โดยจะเริ่มนับเวลาสามนาทีและสิบนาทีเมื่อผู้แข่งขันได้รับอนุญาตให้สตาร์ทเครื่อง
เครื่องบินจะต้องวิ่งขึ้นและลงโดยไม่มีการช่วยใดๆ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือไม่มีการพุ่งเครื่องบิน
ถ้ามีชิ้นส่วนใดๆของเครื่องบินหลุดจากตัวเครื่องในระหว่างเที่ยวบิน การให้คะแนนจะยุติลง
ณ จุดนั้น และต้องนำเครื่องลงสู่พื้นทันที
เที่ยวบินจะจบลงเมื่อทำการลงสู่พื้นเสร็จสิ้น
การให้คะแนนจะยุติลงเมื่อครบเวลาสิบนาทีที่จำกัดไว้
1.13. ตารางท่าบินผาดแผลงขั้นพื้นฐานไทย(Thai Basic
Aerobatic Maneuvers Schedule)
TB-01 ลำดับการบินขึ้น
(Take-Off Sequence) |
K=1
|
TB-02 วงตั้งสี่เหลี่ยมจัตุรัส
(Square Loop) |
K=3
|
TB-03 ครึ่งคิวบันเอทกลับทาง
(Half Reversed Cuban8) |
K=2
|
TB-04 พลิกตัวสองรอบ
(Two-turn Roll) |
K=3
|
TB-05 กลับตัวแบบสตอลเทอร์น
(Stall Turn) |
K=2
|
TB-06 วงกลมตั้งในสองวง
(Two Inside Loops) |
K=3
|
TB-07 อิมเมลแมน
(Immelmann) |
K=2
|
TB-08 วงกลมตั้งนอกสองวง
(Two Outside Loops) |
K=3
|
TB-09 สปลิท-เอส
(Split-S) |
K=2
|
TB-10 วงตั้งสามเหลี่ยม
(Triangle Loop) |
K=3
|
TB-11 ฮัมทีบัมพ์
(Humpty Bump) |
K=2
|
TB-12
บินในแนวระดับหงายท้อง (Inverted Flight) |
K=2
|
TB-13
ครึ่งวงตั้งวงสี่เหลี่ยมพลิกตัวครึ่งรอบ(Half Square Loop with Half
Roll) |
K=2
|
TB-14 ใบไม้ร่วงสองรอบ
(Two-Turn Spin) |
K=3
|
TB-15 ลำดับการบินลง
(Landing Sequence)
|
K=1
|
|
Total
k=34
|
บทผนวก ก.
(5A)
คำอธิบายท่าบินผาดแผลงบังคับด้วยวิทยุ
(5A.1.13)
การตัดสินให้คะแนนท่าบินทุกท่าจะยึดตามเส้นแนวบิน และจะเริ่มและจบท่าโดยเส้นตรงในแนวระดับในลักษณะบินปรกติหรือหงายท้อง
ท่าบินตรงกลางจะเริ่มและจบในทิศทางเดียวกัน ในขณะที่ท่าบินกลับทิศทางจะจบลงด้วยทิศทาง
180 องศา กลับจากขาเข้า ระดับของขาเข้าและขาออกของท่าบินตรงกลางสมควรจะอยู่ในระดับความสูงเดียวกัน
ยอมให้มีการปรับระดับตำแหน่งความสูงได้ในท่าบินกลับทิศทาง
ท่าบินทุกท่าที่มีวงกลมตั้งหรือส่วนของวงกลมมากกว่าหนึ่งจะต้องให้เส้นผ่าศูนย์กลางของวงกลมตั้งและส่วนของวงกลมมีขนาดเท่ากัน
และในกรณีของวงกลมตั้งหลายวงจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ในทำนองเดียวกันท่าบินที่มีการพลิกตัวมากกว่าหนึ่งครั้งจะต้องมีอัตราการพลิกตัวที่เท่ากัน
และหากกำหนดให้มีการชะงัก เวลาของการชะงักต้องเท่ากัน การพลิกตัวต่อเนื่องในแนวระดับจะต้องอยู่ในระดับความสูงและทิศทางเดียวกัน
เท่าบินทุกท่าที่มีการพลิกตัว,
พลิกตัวบางส่วน หรือพลิกตัวฉับพลันหรือท่าผสมของที่กล่าวมา จะต้องมีเส้นตรงที่ยาวเท่ากันปรากฏอยู่ก่อนและหลังการพลิกตัวหรือท่าผสม
ยาเว้นในกรณีของกลุ่มท่าอิมเมลแมน (Immelman) หรือท่าสปลิท-เอส (Split
S) สำหรับท่าการพลิกตัวฉับพลันที่เป็นการพลิกตัวฉับพลัน (หรือพลิกตัวเป็นแบบคว้าน)
จะได้คะแนนศูนย์ ท่าใบไม้ร่วง/สปินที่เป็นการดำแบบคว้านลงหรือเริ่มต้นด้วยการพลิกตัวฉับพลันจะได้คะแนนศูนย์
การละเมิดใดๆจากที่กล่าวข้างบนจะเป็นเหตุให้มีการลดคะแนนเพิ่มเติมจากการละเมิดที่กล่าวไว้ในข้อสังเกตสำหรับกรรมการสำหรับท่าบินแต่ละท่า
และการลดคะแนนตามที่กล่าวไว้ในแนวทางสำหรับกรรมการ ให้สังเกตว่ารายการเหล่านี้ไม่ได้ครอบคลุมไปหมดทุกกรณี
คำอธิบายท่าบินผาดแผลงขั้นพื้นฐานไทย (Thai Basic Aerobatic Maneuvers)
TB-01 ลำดับการบินขึ้น (Take-Off Sequence)
บินขึ้นจากจุดที่กำหนด หลังจากแนวบินตรงทวนลม เลี้ยว 90 องศาที่บริเวณเส้นแนวบินตามลม
ไปที่จุดขอบบริเวณ เลี้ยว 180 องศา หรือเลี้ยว 90 องศา ตามด้วยอีก 270 องศาในทางตรงกันข้าม
เพื่อกลับเข้าเส้นแนวบินทวนลม
หมายเหตุ :-
- ไม่ทำตามลำดับ คะแนนศูนย์
- เครื่องบินผ่านด้านหลังกรรมการ คะแนนศูนย์
TB-02 วงตั้งสี่เหลี่ยมจัตุรัส
(Square Loop)
จากแนวบินระดับ ดึงขึ้นในแนวดิ่ง ดึง 90 องศาเข้าแนวบินระดับหงายท้อง ดึง
90 องศาลงในแนวดิ่ง ดึง 90 องศาเข้าเส้นแนวบินระดับ
หมายเหตุ :-
- ความยาวของแต่ละขาต้องเท่ากัน
- ส่วนของวงกลมที่ทั้งสี่มุมต้องมีรัศมีเท่ากัน
- ขาเข้าและขาออกต้องอยู่ในระดับและเส้นแนวบินเดียวกัน
TB-03 ครึ่งคิวบันเอทกลับทาง
(Half Reversed Cuban 8)
จากแนวบินระดับ ดึงขึ้น 45 องศา พลิกตัวครึ่งรอบ ทำวงกลมตั้งใน 5/8วง ออกจากท่าในแนวระดับ
หมายเหตุ :-
- พลิกตัวตรงกลางเส้นแนวบินตรงขาขึ้น
- 5/8 วงกลมตั้งในมีรัศมีคงที่
TB-04 พลิกตัวสองรอบ (Two-turn Roll)
จากแนวบินระดับ พลิกตัวสองรอบ
หมายเหตุ :-
- อัตราการพลิกตัวเร็วเท่ากัน
- การพลิกตัวอยู่ในแนวระดับ
- เข้าและออกจากท่าระดับเดียวกัน
TB-05 กลับตัวแบบสตอลเทอร์น (Stall Turn)
จากแนวบินระดับ ดึงขึ้นในแนวดิ่ง ที่จุดยอดกลับตัวแบบสตอลเทอร์น ในทิศทางใดก็ได้
ลงมาในแนวดิ่ง ดึงเข้าสู่แนวบินระดับ
หมายเหตุ :-
- รัศมีการกลับตัวไม่เกิน ?ของกางปีก
- ส่วนของวงกลมขาขึ้นและขาลงมีรัศมีเท่ากัน
- ถ้าเครื่องบินคว่ำหรือหงายตัวตกลงมา คะแนนศูนย์
TB-06 วงกลมตั้งในสองวง (Two Inside Loops)
จากแนวบินระดับ ดึงเข้าสู่วงกลมตั้งในสองวง ออกจากท่าในแนวบินระดับ
หมายเหตุ :-
- วงกลมทั้งสองวงทับกัน
- จุดที่ออกจากท่าต้องอยู่ในตำแหน่งและระดับเดียวกันกับจุดที่เข้าท่า
TB-07 อืมเมลแมน (Immelmann)
จากแนวบินระดับ ดึงเข้าสู่ครึ่งวงกลมตั้งใน ที่ยอดวงพลิกตัวครึ่งรอบ ออกจากท่าในแนวบินระดับ
หมายเหตุ :-
- การพลิกตัวต้องทำทันทีหลังจบครึ่งวงกลมตั้งใน โดยไม่มีการชะงัก
TB-08 วงกลมตั้งนอกสองวง (Two Outside Loops)
จากแนวบินระดับ ดันเข้าสู่วงกลมตั้งนอกสองวง ออกจากท่าในแนวบินระดับ
หมายเหตุ :-
- ดู TB-06
TB-09 สปลิท-เอส (Split-S)
จากแนวบินระดับ พลิกตัวครึ่งรอบแล้วดึงเข้าสู่ครึ่งวงกลมตั้งใน ออกจากท่าในแนวบินระดับ
หมายเหตุ :-
- ต้องดึงเข้าครึ่งวงกลมตั้งในทันทีหลังพลิกตัว
TB-10 วงกลมตั้งสามเหลี่ยม (Triangle Loop)
จากแนวบินระดับ ดึงขึ้นในแนวเส้นบิน 45 องศา แล้วดึง 135 องศา เข้าสู่แนวบินระดับหงายท้อง
ดึง 135 องศา เข้าสู่แนวขาลง ดึง 45 องศา ออกจากท่าในแนวบินระดับ
หมายเหตุ :-
- จุดที่ออกจากท่าต้องอยู่ในตำแหน่งและระดับเดียวกันกับจุดที่เข้าท่า
TB-11 ฮัมทีบัมพ์ (Humpty Bump)
จากแนวบินระดับ ดึงขึ้นในแนวดิ่ง พลิกตัวครึ่งรอบทำครึ่งวงกลมตั้งใน ลงมาในแนวดิ่งแล้วดึงออกจากท่าในแนวระดับ
หมายเหตุ :-
- ส่วนของวงกลม ต้องมีรัศมีเท่ากัน
- ครึ่งวงกลมตั้งในควรมีรัศมีไม่แคบจนเกินไป เครื่องบินต้องไม่คล้ายกับหล่นลงมา
- พลิกตัวที่กึ่งกลางเส้นแนวดิ่งขาขึ้น
TB-12 บินในแนวระดับหงายท้อง (Inverted Flight)
จากแนวบินระดับ พลิกตัวครึ่งรอบ บินในแนวระดับหงายท้อง พลิกตัวครึ่งรอบออกจากท่า
หมายเหตุ :-
- ทิศทางและระดับต้องอยู่ในแนวเดียวกับเส้นแนวบิน
TB-13 ครึ่งวงตั้งสี่เหลี่ยมพลิกตัวครึ่งรอบ (Half Square Loop with Half
Roll)
จากแนวบินระดับ ดึงขึ้นในแนวดิ่ง พลิกตัวครึ่งรอบดัน 90 องศา ออกจากท่าในแนวระดับ
หมายเหตุ :-
- ส่วนของวงกลมต้องมีรัศมีเท่ากัน
- พลิกตัวที่กึ่งกลางเส้นแนวดิ่งขาขึ้น
TB-14 ใบไม้ร่วงสองรอบ (Two-Turn Spin)
จากเส้นแนวบินระดับ ลดความเร็วจนเครื่องบินสตอล เข้าสู่การหมุนตัวแบบใบไม้ร่วงสองรอบ
แล้วลงมาในแนวดิ่ง ดึง 90 องศา ออกจากท่าในแนวระดับ
หมายเหตุ :-
- เครื่องบินต้องสตอลเพื่อเข้าท่าและต้องอยู่ในอาการสตอลในระหว่างหมุนตัวลง
- หมุนตัวเป็นแบบคว้าน (spiral) ลงมา คะแนนศูนย์
- หมุนตัวเกินหรือขาดไปมากกว่าครึ่งรอบ ถูกลดคะแนนอย่างรุนแรง
- เส้นลงแนวดิ่ง ถือเป็นส่วนหนึ่งของท่าบิน
TB-15 ลำดับการบินลง (Landing Sequence)
จากแนวบินระดับ เลี้ยว 180 องศาเข้าสู่แนวบินตามลม แล้วเลี้ยว 90 องศา
เลี้ยวอีก 90 องศา แล้วลดระดับลงสู่พื้นในบริเวณพื้นที่
ลงที่กำหนด
หมายเหตุ :-
- เครื่องบินไม่ทำตามลำดับการบินลง ศูนย์คะแนน
- ถ้าขาล้อใดเกิดพับขึ้นเมื่อถึงพื้น ศูนย์คะแนน
- ถ้าเครื่องบินลงถึงพื้นนอกบริเวณพื้นที่ลง ศูนย์คะแนน บริเวณพื้นที่ลงกำหนดโดยวงกลมรัศมี
50 เมตร หรือเส้นตรงซึ่งอยู่ห่างกัน 100 เมตร โดยที่ทางวิ่งขึ้นกว้างอย่างน้อย
10 เมตร