ให้ตายซิ ผมชอบประโยคนี้จริงๆอ่านเจอจากหนังสือ ALL ABOUT ENGINE
ทั้งสี่คำเป็นหัวใจ ของเครื่องยนต์สันดาปภายใน เครื่องยนต์Glow
Plugs ก็เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบหนึ่ง
น้ำมันสำหรับเครื่องยนต์เครื่องบินเล็กทั่วๆไปจะต้องประกอบด้วยส่วนประกอบพื้นฐานสองส่วนคือสารก่อพลังงาน
และสารหล่อลื่น สำหรับเครื่อง Glow Plugs สารก่อพลังงานเราใช้ Methyl
Alcohol ซึ่งบางคนอาจจะเรียกมันว่า Methanol หรือ Alcohol และในส่วนของสารหล่อลื่นก็มีพวก
น้ำมันละหุ่ง (Castor Oil) น้ำมันสังเคราะห์ (Synthetic) และเพื่อให้น้ำมันเชื้อเพลิงมีคุณสมบัติดีขึ้นจึงมีการเพิ่มสารเคมีบางชนิดเข้าไปเช่น
Nitro methane และสารAdditive บางชนิด
ในเครื่องยนต์สันดาปภายใน Powerของเครื่องยนต์เราได้จากการทำปฏิกิริยา
ระหว่างเชื้อเพลิงกับออกซิเจน ในอากาศที่เครื่องยนต์ดูดเข้ามาในห้องเผาไหม้
Powerที่ได้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนออกซิเจนที่ถูกเผาไหม้
ถ้าเราสามารถเผาไหม้ออกซิเจนได้มากเราก็จะได้Powerมาก ดังนั้นถ้าเราต้องการ
Power เพิ่มจากเครื่องยนต์เรา มีทางทำได้หลายวิธี เช่นเพิ่มอากาศที่เข้าไปในห้องเผาไหม้ให้มาก
ขึ้นซึ่งจะทำให้จำนวนออกซิเจน ในห้องเผาไหม้มีมากขึ้นด้วย หรือใส่น้ำมันเชื้อเพลิงให้มากขึ้นเพื่อทำให้เผาไหม้ออกซิเจนได้มากขึ้น
ฯลฯ
สำหรับเครื่องยนต์Glow Plugs สารที่นำมาเป็นเชื้อเพลิงเพื่อมาทำปฏิกิริยากับออกซิเจนคือ
Methyl Alcohol (Methanol, Alcohol, Balancing Alcohol) Alcoholบริสุทธิ์นะครับ
99.5% Alcoholล้างแผลใช้ไม่ได้ หรือแม้แต่ Alcohol ที่มีขายตามร้านขายสีก็ไม่น่าใช้เพราะมีส่วนผสมของทินเนอร์มาด้วย
เราหาAlcoholแบบนี้ได้ตามร้านขายหัวน้ำหอมแถวๆเยาวราช ถ้าเจ้าเก่าก็ต้อง
ฮงฮวด
ข้อดีของAlcohol เมื่อนำใช้เป็นเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ Glow Plugs
- Alcoholมีประมาณค่าความร้อนจำเพาะต่ำ
ทำให้ปฏิกิริยาที่เกิดในห้องเผาไหม้มีอุณหภูมิต่ำ ดังนั้นเครื่องยนต์Glow
Plugs จะมีอุณหภูมิการทำงานที่ต่ำ
- อัตราส่วนของ Alcohol
ต่อ อากาศ ในห้องเผาไหม้จะสูงกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่น ทำให้สามารถเผาไหม้ออกซิเจนได้มาก
เป็นผลให้เครื่องยนต์ที่ใช้ Alcohol มีกำลังมากกว่าเครื่องยนต์ชนิดอื่นๆในขณะมีความจุของกระบอกสูบเท่ากัน
- Alcohol มีคุณลักษณะดูดความร้อนได้ดี
เมื่อส่วนผสมของAlcoholกับอากาศไหลเข้าไปในห้องข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์
Alcoholจะดูดความร้อนภายในห้องข้อเหวี่ยงทำให้เครื่องยนต์เย็นลง
แล้วข้อเสียของ
Alcohol ละ
สารหล่อลื่น
สารหล่อลื่นที่เรานิยมใช้สำหรับเครื่องยนต์Glow
Plugs มีสองชนิดคือ น้ำมันละหุ่ง (Castor Oil) และน้ำมันสังเคราะห์
(Synthetics Oil)
น้ำมันละหุ่ง เป็นน้ำมันพืชธรรมชาติ ได้มาจากการหีบเมล็ดละหุ่ง โดยในการหีบครั้งแรก
จะได้น้ำมันละหุ่งที่มี คุณสมบัติดีที่สุด กากที่ได้จากการหีบครั้งแรกจะถูกนำกลับ
ไปหีบใหม่อีกซึ่งอาจจะจำเป็นต้องใช้ ความร้อนมาช่วย ในการหีบ น้ำมันละหุ่งที่ได้จากการหีบครั้งนี้จะมีคุณสมบัติต่ำกว่า
การหีบครั้งแรกและน้ำมันที่ได้จะมีสีเข้มขึ้น อาจจะมีการนำกากที่ได้ไปหีบซ้ำอีก
น้ำมันที่ได้ก็จะมีคุณสมบัติต่ำลงอีกและสีของน้ำมันก็จะมีสีเข้มขึ้น
น้ำมันที่มีคุณสมบัติเหมะสมที่จะนำมาใช้กับเครื่องยนต์Glow Plugsเป็นน้ำมันที่ได้จากการหีบครั้งแรกเท่านั้น
ในต่างประเทศ น้ำมันBakers AAถือว่าเป็นน้ำมันละหุ่งมาตรฐานสำหรับเครื่องยนต์Glow
Plugs และยังมีน้ำมันละหุ่งอีกชนิด คือมีการนำน้ำมันละหุ่งที่ได้จากการหีบไปทำการกลั่นใหม่
น้ำมันที่ได้จะมีความบริสุทธ์มาก แต่น้ำมันที่ได้จะมีค่าความหนืดต่ำลงทำให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นของน้ำมันต่ำลงด้วย
น้ำมันชนิดนี้ไม่เหมาะสม ที่จะนำมาใช้สำหรับเครื่องยนต์ GlowPlugs
ผมเคยถามร้านฮงฮวด ว่าน้ำมันละหุ่งที่เขา ขายสั่งซื้อมาจากที่ไหน
คนขายบอกว่าเป็นน้ำมันที่นำเข้ามาจากต่างประเทศน้ำมันเมืองไทยบริสุทธ์ไม่พอ
แปลกจริงๆ ที่ผมรู้มา เมืองไทยมีโรงงาน หีบน้ำมันละหุ่งที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย
ผลิตน้ำมันละหุ่งส่งไปขายทั่วโลก ยกเว้นเมืองไทย ผมเคยซื้อน้ำมันละหุ่งที่ได้มาจากโรงงานหีบน้ำมันละหุ่งเล็กๆในบ้านเรามาใช้ครั้งหนึ่ง
น้ำมันละหุ่งที่ได้จากโรงงาน พวกนี้มักจะเป็นน้ำมันที่เกิดจาการผสมกันระหว่างน้ำมันที่ได้จากการหีบครั้งแรกและครั้งที่สอง
คุณภาพน้ำมัน จะต่ำมากจนไม่น่านำมาใช้ได้
ส่วนน้ำมันสังเคราะห์(Synthetic
Oil) เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่เราสังเคราะห์ขึ้นมา ให้มีคุณสมบัติสามารถละลายใน
Alcohol ได้ดี ชนิดที่มีชื่อเสียงและเคยเห็นมีจำหน่ายในเมืองไทยก็มีของบริษัท
Klotz
เราจะมาดูกันว่าน้ำมันละหุ่งกับน้ำมันสังเคราะห์ มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง
น้ำมันละหุ่งมีFilm Strength สูงกว่าน้ำมันสังเคราะห์ และตัวน้ำมันละหุ่งจะไม่ถูกเผาไหม้ในช่วงจุดระเบิด
ซึ่งผิดกับน้ำมันสังเคราะห์ ที่จะถูกเผาไหม้หมด และที่อุณหภูมิสูงๆณจุดที่น้ำมันสังเคราะห์หมดสภาพการหล่อลื่นไปแล้ว
น้ำมันละหุ่งยัง คงมีประสิทธิภาพในการหล่อลื่นเหลืออยู่ แต่น้ำมันละหุ่งก็มีข้อเสียใหญ่ๆเหมือนกันคือ
เมื่อน้ำมันละหุ่งอยู่ใน สภาวะที่มีอุณหภูมิสูงมากๆเช่นภายในเครื่องยนต์ขณะทำงาน
น้ำมันละหุ่งจะเปลี่ยนสภาพ เป็นน้ำมันยางเหนียวๆ เกาะตามชิ้นส่วนต่างๆทั้งภายในและภายนอกของเครื่องยนต์
และเนื่องจากน้ำมันละหุ่ง จะไม่ถูกเผาไหม้ใน ช่วงจังหวะจุดระเบิด
จึงมีเศษน้ำมันถูกพ่นออกมาทางท่อไอเสียไปเกาะตามส่วนต่างๆของเครื่องบิน
ซึ่งต่างจากน้ำมันสังเคราะห์ซึ่งไม่มีเศษน้ำมันถูกพ่นออกมา เพราะน้ำมันสังเคราะห์จะถูกเผาไหม้หมดในจังหวะจุดระเบิด
เมื่อน้ำมันสังเคราะห์ไม่ทำให้เกิดเขม่าหรือยางเหนียวเกาะตามชิ้นส่วนของเครื่องยนต์
ไม่มีเศษน้ำมันเกาะ ตามลำตัวเครื่องบิน เราจึงมักเรียกน้ำมันแบบนี้ว่าน้ำมันสะอาด
ด้วยเหตุที่น้ำมันทั้งสองชนิดมีข้อดีข้อเสียต่างกัน จึงมีการนำน้ำมันละหุ่งมาผสมกับน้ำมัน
สังเคราะห์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ ในการหล่อลื่นที่ดีของน้ำมันละหุ่งและ
ในขณะเดียวกันก็ยังคงคุณลักษณะ ที่ดีของน้ำมันสังเคราะห์ไว้
NITROMETHANE
ดังที่กล่าวไปแล้ว Powerที่ได้จากเครื่องยนต์ได้จากการเผาไหม้ออกซิเจนในช่วงจุดระเบิด
ยิ่งมีออกซิเจนถูกทำปฏิกิริยามากเท่าไรPowerก็จะมากขึ้นด้วย Nitro
methane เป็นสารเคมี ที่มีคุณสมบัติจะให้ออกซิเจนในช่วงจุดระเบิด
ทำให้มีออกซิเจนในช่วงจุดระเบิดมากขึ้น เครื่องยนต์ก็จะมีPowerมากขึ้น
และNitro methaneช่วยให้การจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ดีขึ้นซึ่งมีผลทำให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบต่ำได้ดี
ในอเมริกานิยมใช้น้ำมันที่ผสม Nitro methane กันมานานแล้วตั้งแต่ยุคแรกๆของเครื่องยนต์
Glow Plugs แต่ในส่วนอื่นๆของโลกไม่ค่อยนิยมใช้กันเท่าไรเพราะมีราคาแพง
พึ่งมานิยมใช้กันในช่วง10ปีนี้ จะสังเกตเห็นว่า เครื่องยนต์ที่มาจากยุโรปส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้ทำงานได้กับน้ำมันที่ไม่มี
Nitromethan ส่วนเครื่องยนต์ ที่เป็นของอเมริกาหรือญี่ปุ่นมักถูกออกแบบให้ทำงานกับน้ำมันที่มีส่วนผสมของNitromethan
ยกตัวอย่าง เครื่องยนต์ที่ใช้ Fuel Pump เครื่องที่เป็นของญี่ปุ่นเช่นของ
OS.ไม่สามารถทำงาน ได้กับน้ำมันที่มี Nitromethan ต่ำกว่า 12.5%
ในขณะที่เครื่องSuper Tigerของอิตาลี่ มีFuel Pump เหมือนกันแต่ทำงาน
ได้ดีกับน้ำมันที่ไม่มี Nitromethan คือไม่มีก็ทำงานได้ดีแต่ถ้ามีก็จะทำงานได้ดีขึ้น
ตอนนี้คงเข้าใจแล้วว่าทำไมNitro methane จึงเพิ่มPowerให้กับเครื่องยนต์
แต่มีข้อพึงระวังอย่างหนึ่ง เมื่อPowerมากขึ้นปริมาณความร้อนก็จะมากขึ้นด้วยด้วย
เราจะมาดูกันว่าNitro.มีประโยชน์อะไรกับเครื่อง Glow Plugs เรารู้กันอยู่แล้วว่าNitro.
จะเพิ่มPowerให้กับเครื่องยนต์ แต่จริงๆแล้วนั้นไม่ใช่หน้าที่หลักของNitro.
หน้าที่จริงๆของNitro .คือทำให้อุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ต่ำลงหรือที่เขาพูดกันว่าNitro.ทำให้เครื่องเย็น
นี้ละครับเป็นหน้าที่จริงๆของ Nitro. Nitro ทำให้เราสามารถปรับเครื่องยนต์ได้Richมากขึ้นแต่ยังคงมีกำลังเท่าเดิม
เป็นผลให้เครื่องยนต์จะทำงานได้เย็นลง ปัญหาเกี่ยวกับระบบระบาย ความร้อนและอาการ
Overheat ของเครื่องยนต์ก็จะไม่เกิดขึ้นเพราะอุณหภูมิของเครื่องลดลง
แต่ถ้าเราปรับเครื่องยนต์ให้มีรอบสูงขึ้นอีก แน่นอนเครื่องยนต์จะให้กำลังมากขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็จะมีปริมาณความร้อนจะเพิ่มมากขึ้นด้วย
เป็นผลทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการOverheat ได้ จะเห็นได้ว่า Nitro.เหมือนกับดาบสองคม
แล้วแต่เราจะใช้ด้านใด ด้านหนึ่งเพื่อลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์ อีกด้านเพื่อเพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์
ด้านแรกมีประโยชน์มากกว่าโทษ แต่ด้านที่สองมีประโยชน์นิดเดียวแต่มีโทษมากกว่า
เราจึงควรใช้Nitro.ในการควบคุมอุณหภมิของเครื่องยนต์มากกว่า ประโยชน์ของNitro.ที่เห็นได้ชัดๆก็พวก
Helicopter เครื่องยนต์ของ Helicopter ต้องทำงานอยู่ในสภาวะที่ต้องการ
Power สูง ต้องการการตอบสนองที่ดีตลอดเวลา มีความเชื่อถือสูงและเครื่องยนต์ถูกติดตั้งอยู่ในสภาวะที่มีการระบายความร้อนที่ไม่ดี
โอกาสที่จะเกิดอาการ Overheat มีสูงมาก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการน้ำมันที่ควรใช้กับ
Helicopter ควรมี Nitro อย่างต่ำ 12.5%และบางที่อาจจะถึง 30%
สำหรับน้ำมันที่ใช้สำหรับการแข่งขันปริมาณNitro.สูงมากเริ่มตั้งแต่30%ไปถึง60%
ในสภาพการใช้งาน แบบนี้เราต้องการ Power สูงที่สุดเท่าที่เครื่องสามารถทำได้
แต่ในขณะเดียวกันเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน ที่มี Nitro. สูงมากๆจะสึกหรอเร็ว
มากเช่นเครื่องยนต์ของพวกเครื่องบิน Pylon จะใช้น้ำมันที่มีปริมาณ
Nitro. สูงมากประมาณ50-60% เครื่องยนต์พวกนี้มีอายุใช้งานประมาณ
3-4Flight เท่านั้น มีคนเล่าให้ฟังว่าพวกเรือที่ใช้แข่ง ความเร็วพวกนี้ใช้น้ำมันที่มี
Nitro. สูงมากเสื้อสูบและลูกสูบจะถูกเปลี่ยนทุกๆครั้งที่แข่งเสร็จ
อัตราส่วนของน้ำมัน
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรกคือประมาณสารหล่อลื่น สำหรับเครื่องยนต์Glow
Plugs เขากำหนดไว้ว่าไม่ควรต่ำกว่า 20% และจริงๆควรจะอยู่ที่23%
แต่เชื่อไหมน้ำมันจากต่างประเทศ เกือบทุกชนิดมีปริมาณสารหล่อลื่นต่ำกว่า
20%ทั้งนั้น ส่วนมากจะอยู่ที่ 16-18% ในปัจจุบันนี้น้ำมันส่วนใหญ่
นิยมใช้น้ำมันสังเคราะห์เป็นสารหล่อลื่นแทนน้ำมันละหุ่ง ก็จากข้อเสียของน้ำมันละหุ่งที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
แต่น้ำมันสังเคราะห์ก็มีคุณสมบัติไม่ดีพอสำหรับเครื่องยนต์ Glow
Plugs ท่านผู้รู้แนะนำว่าน้ำมันสังเคราะห์ ที่จะนำมาใช้กับเครื่องยนต์Glow
Plugsจำเป็นต้องมีน้ำมันละหุ่งผสมอยู่ด้วยประมาณ 3% ยกตัวอย่างน้ำมัน
Klotz-100 จะเป็นน้ำมันสังเคราะห์ที่มีน้ำมันละหุ่งผสมอยู่ด้วย แต่ถ้าเป็นน้ำมัน
Klotz-200 จะเป็นน้ำมันสังเคราะห์100% เพราะฉะนั้นเวลาซื้อน้ำมันเราจำเป็นต้องอ่าน
ฉลากข้างกระป๋องน้ำมันก่อนเสมอว่าน้ำมัน ที่เราจะซื้อมีส่วนผสมเป็นแบบใด
มีสารหล่อลื่นเป็นน้ำมันชนิดใด น้ำมันละหุ่ง น้ำมันสังเคราะห์ทั้งหมด
หรือน้ำมันสังเคราะห์ที่ผสมน้ำมันละหุ่ง มีอัตราส่วนผสมเช่นไร น้ำมันแต่ละอย่างก็มีลักษณะในการใช้งานต่างกันไป
น้ำมันที่มีสารหล่อลื่นเป็นน้ำมันละหุ่งจะมีราคาถูกที่สุดแต่มีประสิทธิภาพในการหล่อลื่นดีมาก
แต่มีข้อเสียเรื่องเขม่า น้ำมันยางเหนียวๆที่เกิดขึ้นตามชิ้นส่วนของเครื่องยนต์
และที่สำคัญเศษน้ำมันละหุ่งที่ออกมาจากท่อไอเสีย ทำให้เครื่องบินสกปรก
เรานิยมใช้น้ำมันแบบนี้สำหรับการ Running-In เครื่องยนต์ ส่วนน้ำมันที่มี
สารหล่อลื่นเป็นน้ำมันสังเคราะห์ทั้งหมด ไม่เหมาะที่จะน้ำไปใช้กับ
เครื่องยนต์ที่มี โครงสร้างของลูกสูบ และเสื้อสูบเป็นแบบ ABC,ACC
เพราะเครื่องยนต์ทั้งสองแบบมี Powerมากกว่าเครื่องยนต์แบบอื่น ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นของ
น้ำมันสังเคราะห์ดีไม่พอ ที่จะนำมาใช้กับเครื่องยนต์แบบนี้ เครื่องยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันสังเคราะห์ได้ควรเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้แหวนลูกสูบ
ส่วนมากนิยมใช้กับเครื่องยนต์ 4จังหวะเพราะเครื่องยนต์ 4จังหวะส่วนมากเป็นเครื่องยนต์แบบใช้แหวนลูกสูบ
มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวมาก ดังนั้นจึงต้องการน้ำมันหล่อลื่นที่ไม่ก่อให้เกิดเขม่า
หรือน้ำมันยางเหนียวเกาะตามชิ้นส่วนของ เครื่องยนต์และเครื่องยนต์แบบนี้มีความเร็วรอบไม่สูงมาก
น้ำมันสังเคราะห์มีประสิทธิภาพ ในการหล่อลื่นเพียง พอสำหรับเครื่องยนต์แบบนี้
น้ำมันสังเคราะห์ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับเครื่องยนต์ที่ต้องการ Power
มากๆ เครื่องยนต์ที่มีอุณหภูมิในการทำงานสูงกว่าปกติ หรือเครื่องยนต์ที่มีการระบายความร้อนไม่ดี
การTune-up เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบนี้ต้อง ระมัดระวังไม่ให้ปรับจน
Leanเพราะเครื่องยนต์อาจจะOverheat จนเสียหายได้ ส่วนน้ำมันสังเคราะห์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันละหุ่งสามารถใช้ได้กับเครื่องทุกชนิด
เหมาะสมกับ เครื่องยนต์ที่มีโครงสร้าง ของลูกสูบและเสื้อสูบแบบ ABC,
ACC เครื่องยนต์ที่ต้องทำงานหนัก รอบจัด อุณหภูมิสูง สำหรับผู้ที่นิยมใช้น้ำมันต่างประเทศ
ให้คำนึงเสมอว่า ประมาณสารหล่อลื่นของน้ำมันพวกนี้น่าจะต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
เมื่อรวมกับคุณสมบัติของNitro.ที่ให้Powerมากขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็ให้ประมาณความร้อนมากขึ้นด้วย
ถ้าTuneupไม่ระมัดระวังเครื่องมีโอกาสOverheatได้ง่ายๆคงไม่ต้องบอกว่าเครื่องจะพังหรือไม่
ปริมาณของNitro
ในสภาพการทำงานปกติปริมาณ Nitro.ควรจะมีค่าประมาณ5-15%ก็น่าจะเพียงพอสำหรับเครื่องยนต์ทุกแบบ
ยิ่งNitroมีมากเท่าไร Power ก็จะมากขึ้นและราคาน้ำมันก็จะสูงขึ้น
ปริมาณNitro.จะขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ในการบิน ชนิดของเครื่องยนต์
อุปนิสัยในการบิน จำนวนเงินในกระเป๋า ฯลฯ คนบางคน Nitro.5% หรือไม่มีเลย
เขาก็ยังบินได้ บางคนชอบใช้ 15%หรือบางคนอาจต้องการถึง30% เอาเป็นว่าต่างคนต่างใช้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
มีข้อระวังอีกข้อหนึ่ง เครื่องที่ใช้ท่อรีด(Tune Pipe) บริษัทSuperTiger
แนะนำไว้ว่า ถ้าจะใช้ท่อรีด และมีการTune จนเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงจนถึงขีดสุด
จำเป็นต้องใช้น้ำมันที่มีNitro. ถ้าต้องการใช้น้ำมันธรรมดา เขาแนะนำให้ใช้ท่อไอเสียธรรมดาที่มากับเครื่อง
เพราะTunePipe จะทำหน้าที่เหมือนSuperCharger อัดอากาศเข้าไปในลูกสูบมากขึ้น
ทำให้เครื่องยนต์มีPowerมากขึ้น เราจำเป็นต้องใช้น้ำมันที่มี Nitro.เพื่อเรียกใช้คุณสมบัติในการลดความร้อนของเครื่องยนต์
ดังที่กล่าวไปแล้ว ยกเว้นพวกที่ติด ท่อรีดแต่ไม่เคยTuneคือติดให้หล่อเท่านั้นหรือเพื่อให้เครื่องบินมีเสียงเงียบ
พวกนี้ใช้น้ำมันอะไรก็ได้
คงต้องจบเรื่องน้ำมันเครื่องยนต์Glow Plugไว้แค่นี้ก่อน เขียนไปเขียนมาคนเขียนชักงงๆจับต้นชนปลายชักไม่ถูก
อะไรที่ผิดพลาดก็ขอโทษไว้ก่อน ไม่ดีอย่างไรต่อว่ามาได้เลยที่Web
Master เขาคอยรับหน้าอยู่แล้ว ไปก่อนนะครับ สวัสดี