WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ฃ่วยบอกการเลือกใช้มอเตอร์ Brushless ด้วยครับ

จาก ปรีดี
IP:72.53.69.198

อาทิตย์ที่ , 5/7/2552
เวลา : 00:44

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ผมไม่ได้เล่นเครื่องบินไฟฟ้ามานานมาแล้ว ตอนที่ผมเล่นยังใช้มอเตอร์ 400 อยู่เลย ตอนนี้จะกลับมาเล่นใหม่ เห็นมีมอเตอร์ brushless ตั้งหลายแบบ งงไปหมด

ถามสั้น ๆคือผมต้องการหามอเตอร์ brushless ที่เทียบเท่ามอเตอร์ 400 ด้วยครับ

รบกวนขอความรู้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       ทำไมเงียบกันจัง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ปรีดี 72.53.69.198 อาทิตย์, 5/7/2552 เวลา : 22:41  IP : 72.53.69.198   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 137429

คำตอบที่ 2
       คืองี้ครับ มอเตอร์บรัชเลสเทียบเท่า คลาส 400 นั้น ตอนนี้มีหลายขนาด หลายเบอร์มากๆครับ
เหมือนกับมอเตอร์บรัช คลาส 400 ก็ยังมีแยกย่อยเป็นเทิร์นอีก
มอเตอร์บรัช 400 นั้น จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 28 ม.ม. ยาว ประมาณ 38 ม.ม.ซึ่งถ้าเป็นมอเตอร์บรัชเลสก็จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากัน หรืออาจโตกว่าเล็กน้อยแต่ความยาวอาจจะยาวหรือสั้นก็ได้
ทีนี้เรามาดูกันครับว่ามอเตอร์บรัชเลสคลาส 400 นั้นมีอยู่แบบใดบ้าง
มอเตอร์บรัชเลส นั้นมีอยู่ หลักๆ 2 แบบคือ
1.อินรันเนอร์ (แบบนี้หน้าตาจะคล้ายๆกับมอเตอร์บรัชแบบเก่าแต่ต่างกันที่ไม่ใช้แปรงถ่านแล้ว) มอเตอร์แบบอินรันเนอร์นี้ เป็นมอเตอร์ที่มีรอบจัดแต่แรงบิดต่ำ เหมาะสำหรับเอามาใช้กับเครื่องบินที่บินเร็ว เช่น ไพล่อน เจ๊ตพุชเชอร์ ดัคแฟน หรือ F3A บางแบบ
มอเตอร์อินรันเนอร์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพดี แต่ราคาแพงในอันดับต้นๆ นั้นก็คงจะหนีไม่พ้น Mega Hacker Axi ส่วนที่ราคากลางๆก็ Himax Redcon GS Figao
ส่วนตัวผมนิยม Himax ด้วยเหตุผม ถูกดีทน ราคาค่าตัวสมเหตุสมผล ไม่แพงมาก ตัวที่ผมใช้เป็น Himax Hb 2815 3000 Kv ให้กำลัง 270 วัตต์ ตัวนี้เทียบเท่า เมก้า 16-15-3 แต่จ่ายราคาค่าตัวน้อยกว่า
มอเตอร์ขนาด 3000 KV นี่ถ้าเป็นคนชอบเล่นเครื่องบินที่บินเร็วๆ ควรจะมีมอเตอร์ตัวนี้ไว้ติดบ้าน เนื่องจากว่า มันค่อนข้างจะเอนกประสงค์ ใช้บินเร็วกับใบพัดขนาด 4.1*4.1 - 6*4 ได้และยังเอาไปใส่กับดัคแฟนขนาด 68 ม.ม.ได้อีก ที่แนะนำอย่างนี้ก็เพราะว่า มันบริโภคอุปกรณ์ไฟฟ้าค่อนข้างประหยัด คือ สปีด 30 แอมป์ +แบ็ต 1500 - 2200 มิลลิแอมป์ ก็เพียงพอแล้ว
2.เอาท์รันเนอร์ คือแบบที่ใช้สเตเตอร์ยึดอยู่กับที่ และใช้เปลือกนอกเป็นตัวหมุนแทน มอเตอร์แบบนี้ให้แรงบิดที่สูงกว่าแบบอินรันเนอร์ และเป็นที่นิยมนำมาใช้กันโดยทั่วไป ทั้ง เครื่องบินเทรนเนอร์ สปอร์ต หรือว่า 3D เดี๋ยวนี้มอเตอร์เอาท์รันเนอร์บางแบบก็มีการดัดแปลงให้ใช้กับดัคแฟนได้ด้วย




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

toto.rc จาก หมูบิน 118.172.119.172 จันทร์, 6/7/2552 เวลา : 00:09  IP : 118.172.119.172   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 137444

คำตอบที่ 3
       ส่วนมากตัวเลขที่เป็นรหัสกำกับมาบนตัวมอเตอร์ บางยี่ห้อก็อาจไม่ได้ใช้วิธีการเข้ารหัสแบบเดียวกันเสียทีเดียว
แต่ส่วนมากตัวเลขเหล่านั้นก็จะบอกรายละเอียดให้เราดังนี้ครับ
เช่น 2205 = 22 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางหรือ diameter
ส่วน 05 คือ ความหนาของ สเตเตอร์ (ไม่รู้ว่าเรียกถูกรึป่าว จำไม่ค่อยได้)
ตัวเลขทั้ง 2 ชุด มีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตร

ทีนี้มาดู ว่า ตัวเลขชุดแรกถ้ามันต่างกันอีกคืออะไร เช่น 22** หรือ 28** หรือ 35**
มันบอกเราว่า เส้นผ่าศูนย์กลางมันโตขึ้น มอเตอร์ก็ลูกใหญ่ขึ้น
นั่นคือ รัศมียาวมากขึ้น แล้วรัศมีมาเกี่ยวอะไรล่ะ เกี่ยวดิคับ เพราะว่าเป็นไปตามกฏของแรง
มอเตอร์เอาท์รันเนอร์ ใช้เปลือกนอกเป็นตัวหมุน เปลือกนอกเป็นที่อยู่ของแม่เหล็กที่มีสนามแม่เหล็กตัดกับสนามแม่เหล็กของลวดบนสเตเตอร์
จุดที่สนามแม่เหล็กออกแรงผลักกัน ก็เปรียบเสมือนการออกแรงที่ปลายด้านหนึ่งของคานโดยมีแกนมอเตร์เป็นจุดหมุน
เมื่อเราใส่ใบพัดเข้าไป ความยาวของใบตั้งแต่ปลายถึงจุดหมุนคือสิ่งที่คานต้องงัด
ยิ่งเส้นผ่าศูนย์กลางมากขึ้นเท่าไร เส้นรัศมีก็ยาวมากขึ้นเท่านั้น เปรียบเหมือนคานงัดที่ยาวมากขึ้น
ยิ่งรหัส 2 ตัวแรกมาค่ามากขึ้น ก็จะสามารถใช้ใบพัดขนาดใหญ่ได้มากขึ้นคับ

ส่วนตัวเลข 2 หลักหลัง เช่น 05 10 15 20 ผมรู้แต่ว่ามันเป็นความหนาของสเตเตอร์
ยิ่งหนามากขึ้นเท่าไร จำนวนความยาวของแท่งแม่เหล็กบนเปลือกก็จะ
เพิ่มมากขึ้น เท่านั้น บางยี่ห้อใช้แม่เหล็กชิ้นเดียวยาวๆไปเลยก็มี บางยี่ห้อ ใช้แบบชิ้นเล็กๆมาเรียงต่อกันให้ยาวขึ้น
น่าจะหวังผลในเรื่องของการเพิ่มกำลังของสนามแม่เหล็ก (คานยาวขึ้นอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีแรงผลักที่เพิ่มมากขึ้นด้วย)

ส่วนค่า KV ย่อมาจากอะไรผมไม่รู้ รู้แต่ว่ามันคือรอบที่ทำได้ ต่อแรงดันไฟที่ 1 โวลท์
นั่นหมายความว่า ใช้แบ็ตเตอรี่แรงดันเท่าไรก็ เอา KV จับคูณเข้าไป ก็จะได้รอบที่มอเตอร์ทำได้ออกมา
(ยังไม่ใส่ใบนะคับถ้าใส่ใบพัดรอบก็จะลดลงไปมากโขอยู่ )

ทีนี้เริ่มจะอ๋อละยังคับ บางคนไปหลงประเด็น ว่า ต้องเท่านั้นเท่านี้KV
มอเตอร์อ่ะ ให้มัน 22** 28** 35** แต่ถ้า KV มันเท่ากัน มันก็ทำรอบเปล่าๆได้เท่ากัน
สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ แรงบิด ลองจับใบ 11*7 ยัดเข้าไป ที่มอเตอร์ทั้ง 3 ตัว
สปีด 40 แอมป์เท่ากันทุกตัว จ่ายแรงดันไฟ 11.1 โวลท์เท่ากัน ทุกตัว
ตัวไหนจะทำรอบใบพัดได้มากกว่ากัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

toto.rc จาก หมูบิน 118.172.119.172 จันทร์, 6/7/2552 เวลา : 00:34  IP : 118.172.119.172   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 137446

คำตอบที่ 4
       ส่วนวิธีพิจารณาง่ายๆว่ามอเตอร์แบบไหนเหมาะสำหรับจะนำมาใช้กับเครื่องบิน แบบไหนนั้น ก็แบ่งตามคลาสเครื่องบินครับ
สำหรับเทรนเนอร์ปีกบนทั้งหลาย สปอร์ตเตอร์ปีกล่างทั้งหลาย และแพทเทิร์นปีกลาง ที่มีกางปีกไม่เกิน 40 นิ้ว ก็ ใช้ได้ตั้งแต่ 900Kv ไปจนถึง 1700 Kv ใบพัดก็ ตั้งแต่ 8*4 - 8*6 - 9*4.7 - 9*6 - 10*4.7

โดยส่วนตัวผมก็จะป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 1490 Kv และ 1700 Kv เพราะว่ามันค่อนข้างจะเอนกประสงค์ครับ ใช้ได้กับเครื่องบินหลายแบบครอบคลุมไปถึง 3D ด้วย ส่วนมากผมมักคุมน้กหนักเครื่องพร้อมบินให้ไม่เกิน 650 กรัม แล้วแต่แบบเครื่องบิน ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

toto.rc จาก หมูบิน 118.172.119.172 จันทร์, 6/7/2552 เวลา : 00:42  IP : 118.172.119.172   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 137447

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,6 พฤศจิกายน 2567 (Online 2303 คน)