คำตอบที่ 6
ตอน....................ราชันย์ แห่งเครื่องราง เสือ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย (วัดมงคลโคธาวาส)
พูดถึงเครื่องราง สิ่งที่ทุกคนมักจะคิดถึงอันดับแรก นั่นก้อคือเสือนั่นเองครับ เสือที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ คือ เสือของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย..........ซึ่งก้อมีประสบการณ์เรื่องเล่าตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าหลวง ซึ่งผมจะไม่กล่าวถึง..................
เสือหลวงพ่อปานนี้ ด้วยความที่ผม เติบโตมาในย่านตะวันออกและมีเพื่อนมากมายตามชุมชนโบราณแถวคลองด่าน ทำให้มีโอกาสได้เห็นเสือ ซึ่งเป็นของตกทอด ของปู่ ของเพื่อน และเห็น เสือของท่านผู้ใหญ่ที่ใจดีในระแวกนั้น ที่เล่าเรื่องราวประหลาดเกี่ยวกับ เสือพ่อปาน ............
เสือหลวงพ่อปานนี้ ที่พบ ส่วนใหญ่จะเป็นเสือสาริกา มีขนาดเล็ก หรือ เสือสาริกา ที่เป็นเขี้ยวซีก ส่วนมากจะมีจาร ไม่มีจารก้อมี (แต่น้อย) เสือสาริกาเล็กๆนั้น ส่วนมากจะถูกพบอยู่ในตลับสีผึ้งเก่า ซึ่งถูกนำออกมาล้างแล้วบูชาก้อมี หรือ ยังคา อยู่ในตลับสีผึ้งที่แข็งแห้งกั๊กก้อมี เสือขนาด ใหญ่ขึ้้นมาหน่อยที่พบก้อประมาณสักข้อนิ้วก้อย ส่วนเสือตัวใหญ่ๆเท่าข้อนิ้วโป้งก้อมีแต่หายากแทบพลิกแผ่นดิน ส่วนมาก จะเห็นแต่ร้านใหญ่ๆ หรือ เศรษฐีย่านนั้น....หลวงปู่ปาน(คนคลองด่านมักจะเรียกท่านอย่างนั้น) วัสดุในการสร้างเสือ ที่พบ ได้แก่ เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี กัลปังหา และ กรามเสือ ส่วนเขี้ยวหมูนั้น ส่วนตัว ไม่เคยเห็นของแท้ๆสักที จะมีก้อแต่ลูกศิษย์สายคลองด่าน สร้างขึ้นมาแต่ภายหลัง ส่วน งาช้าง ที่เห็นก้อสร้างในภายหลังเช่นกัน...........
เสือหลวงพ่อปาน สร้างขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่มีรุ่น ......................วิธีการดูนั้น ข้อห้าม หรือกฎเหล็กคือ ห้ามท่อง ว่า " หน้าแมว หูหนู ตาลูกเต๋า " เพราะว่า ท่านจะได้เสือคลองด่านแท้ๆ แต่เป็นงานโอท๊อป ซึ่งเพื่อนผม ก้อชอบซึ้อมาเรื่อย จิงอยู่น่ารัก ศิลป คล้ายๆ แต่ ไม่ใช่หลวงพ่อปาน หากแต่เป็นชาวบ้านในระแวกนั้นแกะขึ้นมาขาย แล้วพวกพ่อค้า นักเดินพระมักจะมาซื้อที เป็นร้อยตัว แล้วไปเร่ขายตาม สนามพระ ในจังหวัดต่างๆ ทำให้ เสือ โอทอป มีทั่วประเทศ.....
แล้วเค้าดูกันอย่างไรหล่ะ????????
อันดับแรก ต้องเข้าใจในเนื้อ เขี้ยวหมู เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี เขี้ยวลิงบาบู ลิงค่าง บ่างชะนี เขี้ยวจระเข้ เขี้ยวหมา เขี้ยวแมว ฯลฯ............ครับ มีจิงๆเขี้ยวอย่างที่ว่า ไม่ใช่เรื่องตลก มีคนทำออกมา แล้วก้อมีคนหลงซื้อกันบานตะเกียง โดนแบบเบาๆ หรือเจ็บหนักก้อมีครับ.................... ดังนั้น ควรศึกษาเขี้ยวพื้นฐานเสียก่อน ถ้าแปลกๆ ก้ออย่าเสี่ยงครับ เพราะหาแค่เสือแท้ๆ แกะจากเขี้ยว ไม่ว่าจะเกจิใด ก้อ หายากเต็มกลืนแล้วหล่ะครับ
อันดับต่อมา คือ เขี้ยวเสือ เมือใช้นานๆ หรือสัมผัสนานๆจะมีความฉ่ำใส คล้ายเทียน ส่วนเขี้ยวเก่า แบบผิวหิ้งๆจะมีความแห้งส่วนที่อยู่ในสีผึ้ง ก้อแล้วแต่ครับ ต้องดูหลายอย่างประกอบกันไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ควร มองของแท้ให้ติดตาครับ
เขี้ยวหมี ถ้าเต็มเขี้ยว ส่วนที่เป็นเปลือกฟันจะเห็น เส้นขวางกับเขี้ยวเป็นสีม่วงๆ หลายๆเส้น เนื้อของเขี้ยวหมี เก่ายากมาก เก่ายากกว่าเขี้ยวเสือหลายเท่า เขี้ยวหมี เก่าๆ จะออกนวลนุ่ม จะเนื้อจัดก้อต่อเมื่อใช้อย่างโชกโชนสุดๆ (เพราะเก่ายากมาก)
ส่วนเขี้ยวหมู จะมีลักษณะค่อนข้างกลมครับ และโค้ง ส่วนไอ้ที่ขายกัน เป็นเหลืี่ยมๆ สามเหลี่ยม ยาวๆ นั้น เค้าเรียกว่า งาหมูครับ เป็นของสวยงาม ไม่ใช่ของขลัง เขี้ยวเสือที่นิยม นั้นคือเขี้ยวเสือกลวง จะมีความกลวงมาก คือว่าผิวเขี้ยวบางเจี๊ยบ (หายากสุด นิยมสุด แพงสุดๆ ถือเป็นเขี้ยวในตำนาน เรียกว่า โปร่งฟ้า) ส่วนเขี้ยวหมูเค้าถือว่าเขี้ยวหมูตันเป็นของทนสิทธิ์ครับ กล่าวสักสามอย่างก่อนแล้วกันนะครับ.....................
ฝากไว้ให้คิดสักนิดแล้วกันนะครับ ถ้าหากเจอเขี้ยวใหญ่ๆ ประมาณสักข้อนิ้วโป้ง ให้สงสัยไว้ก่อนเลยครับ เพราะเท่าที่เคยเห็น น้อยมากจิงๆ แถมไม่ค่อยหลุด ออกมาเผ่นผ่าน ส่วนมาก อยู่ในกรงใหญ่ บ้านใหนมี หากเซียนรู้ เจอเข้าตีแน่นอนครับ.............เพราะเป็นที่ต้องการของนักสะสมเป็นที่สุด.........
เอ๊า มาชมกันดีกว่า ยาวๆ ของในตำนาน คลองด่าน หาชมก้อยากสุดๆ (ไม่ขาย ห้ามจีบนะจะ).....ฉลองเปิดร้านใหม่ และตรุษจีน เลยมาแบ่งกันชมครับ
ชิ้นนี้ ............... รับรองว่า ยากที่จะเห็นชิ้นที่สอง และยังไม่เคยเห็นตำราเล่มไหนลง เลย อาจเป็นตำนาน ของคลองด่านเลยก้อว่าได้
" มีดหมอ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย "
นำเสนอโดย
เชษฐ สุวรรณภูมิ
http://www.facebook.com/chet7000#!/chet7000?sk=wall
แก้ไขเมื่อ : 20/1/2555 22:18:41
แก้ไขเมื่อ : 27/1/2555 18:23:30