คำตอบที่ 6
เอางี้ครับพี่
นมค. #30 จะเหลวกว่า
นมค.#40 จะหนืดกว่า
นมค.#50 จะหนืดกว่าเข้าไปอีก
ตามที่ผู้ผลิดกำหนดมาตั้งแต่ออกจากสายการผลิต และปะติดมากับตัวรถ
เครื่อง Di รุ่นเก่า ..ให้ใช้ #40 ............
เครื่องใหม่ comm ..ให้ใช้ #30..........
การออกแบบชิ้นส่วนภายในของเครื่องทั้งสองในเรื่องของเคลียแร้นต่างๆ มันต่างกันครับ... Di เก่า จะมีเคลียแร้นห่างจึงเหมาะที่จะใช้#40 เพราะขนาดโมเรกุลของ น้ำมันจะแซกซอนเข้าไป
ตามช่องหว่างได้เหมาะสมและเพิ่มแรงอัดได้ดี ... ถ้าใช้#30 มันเหลวไป มันลื่นก็จริงแต่ระยะยาวเครื่องจะหลวมและสึกหรอไวกว่าเพราะโมเรกุลน้ำมันเล็กกว่า และยังมีเคลียแร้น
ช่องว่างของชิ้นส่วนเหลืออยู่
เครือ่งรุ่นใหม่อย่าง comm ออกแบบมาค่อนข้างละเอียดกว่า ช่องว่างหรือเคลียเเร้นสว่นต่างๆ ก็น้อยลง จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องการ นมค.ที่เหลวกว่าเพื่อฉีดเข้าไป ซอกแซกตามช่องว่าง
ถ้าใช้เบอร์ที่หนืด กว่า จะหล่อลื่นไม่ดีเพราะหนืดโมเรกุลใหญ่ ซอกแซกไปไม่ทั่วถึง...เครื่องเกิดการสึกหรอเร็ว
แต่สำหรับเครื่องที่หลวมจริงๆ กำลังตก กินนมค. และยังไม่ต้องการซ่อม ก็ให้ใช่ นมค. ที่หนืดขึ้น #50 หรือ#60 จะช่วยเพิ่มแรงอัด และแซกซอนเข้าไปอุดเคลียแร้นช่องหว่างให้กระชับขึ้นได้บ้าง
เครื่องจะเดินเงียบลงกว่าเดิมเพราะ นมค. หนืด หรือว่าจะเติมหัวเชื้อ-กาวเหนียวๆ เพื่อเพื่มความหนืดเข้าไปอีกก็ได้..แต่วิธีนี้เหมาพกับเครื่องที่หลวมจริงๆๆ และมีแผนที่จะผ่าเครื่องนะครับ
อีกอย่างเครื่องที่รอบจัดๆๆ ที่ลงสนามแข่ง เขาก็จะใช้ นมค. ที่มีเบอร์หนืดๆ เหมือนกันเช่น #50,#60 เพราะรถประเภทนี้เครื่องร้อนรอบจัด ต้องการคงความหนืดของ นมค. ไม่ให้เหลว และ
ต้องการแรงอัดด้วย.....
จบ....ประมาณนี้ที่ผมเข้าใจ
ให้ใช้ตามสภาพเครื่องยนต์ และ การใช้งานดีที่สุดครับ....นมค.แพง อาจไม่จำเป็นเลยสำหรับขับใช้งานชีวิตประจำวัน เกรดรวม หรือเกรดธรรมดาก็เพียงพอแล้วครับ...เปลี่ยนถ่ายตามระยะก็ Ok.
ปล.ผมไม่ hardcore เรื่องน้ำมันเครื่อง รอพี่ๆ expert แชร์ข้อมูลต่อดูบ้างครับ
แก้ไขเมื่อ : 25/6/2555 9:51:13