คำตอบที่ 10
ลักษณะของการส่งพัสดุ..........
1) การส่งแบบ EMS ( รวดเร็ว ปราดเปรียว ปานกามนิตหนุ่ม ) รหัส EF, EH
คือการส่งแบบรวดเร็วที่สุด และมีค่าใช้จ่ายมากที่สุด น้ำหนักเท่าไหร่ เบามาก หรือหนักมากไม่เกี่ยงค่ะ
- ค่าเฉลี่ยระยะเวลาการส่งสำหรับในกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่งก่อนเที่ยงวันนี้ พรุ่งนี้ก่อนเที่ยงถึงมือผู้รับ
- ค่าเฉลี่ยระยะเวลาการส่งสำหรับในกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดไกลๆส่งก่อนเที่ยงวันนี้ อีกไม่เกิน 2 วันถึงมือผู้รับค่ะ
- บางพื้นที มีส่งพัสดุวันอาทิตย์ แต่ก็นั่นล่ะ ขึ้นอยู่กับบางพื้นที่เท่านั้น
2) การส่งแบบลงทะเบียน ( กระฉับกระเฉง รวดเร็วเหมือนพนักงานที่กำลังจะได้ปรับเงินเดือนตอนปลายปี )
แต่ต้องใส่ซองจดหมายและน้ำหนักไม่เกิน 2 โล รหัส RE
คือการส่งแบบรวดเร็วปานกลาง มีค่าใช้จ่ายรองลงมาจาก ems แต่พัสดุที่จะส่งแบบลงทะเบียนนี้ (เท่าที่ถามมา) จะมีน้ำหนักไม่เกิน 2 กก. เพราะถ้าเกินกว่านั้น ทางไปรษณีย์ จะให้ส่งแบบพัสดุธรรมดา หรือ ems ไปเลย
- ค่าเฉลี่ยระยะเวลาการส่งสำหรับในกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่งก่อนเที่ยงวันนี้ พรุ่งนี้ตอนบ่ายๆถึงมือผู้รับ
(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ การทำงานของ ปณ. ใกล้บ้านท่าน)
- ค่าเฉลี่ยระยะเวลาการส่งสำหรับในกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดไกลๆส่งวันนี้ อีกไม่เกิน 2-3 วันถึงมือผู้รับค่ะ
3) การส่งแบบพัสดุธรรมดา ( รับหวานเย็นสักถ้วยมั้ยค่ะ ) รหัส PA
คือการส่งที่คาดการณ์อะไรไม่ได้ล่วงหน้าสักเท่าไหร่ ไป tract ทาง website ของไปรษณีย์ไทยก็ไม่ได้ ทำได้อยู่อย่างเดียว ตามล้างตามจิก ที่ไปรษณีย์ที่เราไปส่งของ ให้สอบสวนในกรณีพัสดุหาย
******************************************************************************************
สรุปว่า
1. แบบ ems รวดเร็ว ราคาค่อนข้างสูง ตรวจสอบของได้ และสบายใจที่สุดทั้ง 2 ฝ่าย เหมาะสำหรับกรณีเร่งรีบใช้ของแบบเป็นที่สุด
2. แบบลงทะเบียน เรื่องราคาและความรวดเร็วในการส่งพอประมาณปานกลาง ทำน้ำหนักได้ไม่มาก ได้แค่ 2 กก. ตรวจสอบของทาง website ได้เช่นกัน เหมาะสำหรับไม่เร่งรีบอะไรมากมาย
3. แบบพัสดุธรรมดา ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่ามันธรรมดา ตรวจสอบก็ไม่ได้ ระยะเวลาก็ไม่ชัดเจน ต้องทำเรื่องสอบสวนอย่างเดียว ระยะวลาการสอบสวนก็ไม่มีกำหนด เหมือนกับว่าสอบสวนพวกเดียวกันเองทำนองนั้น ไปรษณีย์ไหนหลักฐานในการ รับ-ส่งของชิ้นนั้น น้ำหนักการให้การ เบาที่สุดก็ต้องเป็น ปณ. ที่ต้องรับผิดชอบไป
*******************************************************************************************
การติดตามของใช้ตัวเลขในบิล ที่เขาส่งมาให้ พิมพ์ ติดกัน เช็คได้ที่นี่ http://track.thailandpost.co.th/
ต่อไปมาว่ากันเรื่องการติดตามของในกรณีของหาย บางที Mr. Postman ไปส่งของแล้วไม่เจอใคร สัก 2 ครั้ง
โปรดระวังเพื่อนบ้านบางท่านที่พฤติกรรมไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เป็นคนรับของแทน รับแล้วไม่บอกเรา แต่พอถามไถ่ไป กลับบอกว่าลืม
1. โทรไปที่ 1133 ของ Bug หรือ 1545 ของไปรษณีย์ก็ได้
ขอเบอร์ไปรษณีย์ที่น้าๆได้มาจากการส่ง แล้วแจ้งเลขพัสดุให้เข้าเช็ค online อันนี้ที่ทำการจะทราบว่ามีของเข้ามาหรือยัง
เพราะ PA นี้มัน track ไม่ได้ในอินเตอร์เน็ต ( หมายเลขการ track เวลาพิมพ์ห้ามเว้นวรรคนะ เพราะจะไม่ได้ผล )
หรือเข้าไปที่ website นี้ http://www.thailandpost.com/newweb/index.asp
คลิกที่ค้นหา ที่ทำการ ไปรษณีย์ ที่เราต้องการทราบ มี รายละเอียด ที่ตั้งเบอร์ติดต่อ ครบ
2. ถ้าของยังไม่ถึง ปณ. ที่ส่งไปให้นั้น ให้ไปทำเรื่องสอบสวนกับไปรษณีย์ต้นทางที่น้าไปส่งของ ต้องให้เขาออกใบให้ได้ แล้วเรากรอกแบบฟอร์ม อย่าลืมหลักฐานของเราที่เขาให้มาตอนส่งของ
3. ขอย้ำว่าต้องให้เขาสอบสวนให้ได้ เพราะเท่ากับว่าเป็นการกดดันไปในตัว
4. เช็คของเองตามข้อ 1. ทุก 2-3 วัน (หรือวันนั้นมีส่งของไปที่ ปณ. ไหนบ้าง ให้เช็คตามทุกที่ เผื่อกรณี ปณ. เบลอ