WeekendHobby.com


น้ำหม้อน้ำมันไม่ดูดกลับคืนมาจากหม้อพักน้ำ ทำยังไงดี ช่วยแนะนำด่วนครับ
strmotor
จาก ตะวันตัดบูรพา
อาทิตย์ที่ , 4/4/2553
เวลา : 21:39

อ่าน = 7083
125.26.157.70
       อาการเป็นแบบนี้ครับ
1. มีลมดันเวลาเปิดฝาหม้อน้ำตอนที่เครื่องเย็นแล้ว (จอดประมาณ 3 ชั่วโมง)
2. เวลาติดเครื่องเดินเบามีลมดันที่ฝาหม้อน้ำตอนที่เปิดฝาออกดู ขึ้นมาเป็นรอบๆ ระยะๆ
3. หม้อน้ำไม่เดือด เวลาเดินเบากับเร่งเครื่องลมที่ดันออกมาก็เท่ากัน แรงดันไม่ตามกัน ไม่พุ่ง กระจาย
4. น้ำจะหายไปจากหม้อน้ำ 1 ลิตร ตลอด ไม่ว่าจะไปไกลหรือไกล้แค่ไหน หายเท่าเดิม
5. วาวน้ำเปลื่อนแล้ว ไม่หาย
6. ล้างหม้อน้ำแล้วด้วย ไม่หาย
7. ฝาหม้อน้ำเปลี่ยนแล้ว
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด่วนครับ
ขอบคุณครับ

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ทำยังไงดีหว่า ช่วยๆกันคิดหน่อยครับ



rangsan.p จาก เอ๋  114.128.119.109  อาทิตย์, 4/4/2553 เวลา : 21:47   


คำตอบที่ 2
       ใครรู้ขอด่วนนะครับ พอดีต้องทำให้เสร็จก่อนบวชครับ จะได้ใช้ในงานบวช ขอบคุณครับ



strmotor จาก ตะวันตัดบูรพา  125.26.157.70  อาทิตย์, 4/4/2553 เวลา : 23:17   


คำตอบที่ 3
       ใช้น้ำยาหม้อน้ำของอะไรครับ อาการนี้เป็นมานานแล้วหรือยัง ไปทำอะไรเพิ่มหรือป่าวถึงได้เป็นครับ




rangsan.p จาก เอ๋  114.128.119.109  อาทิตย์, 4/4/2553 เวลา : 23:25   


คำตอบที่ 4
       น้ำยาหม้อน้ำซื้อมาขวดละ 150 ครับพี่เอ๋ ไม่ได้ทำอะไรกับมันเพิ่มเลยครับ ส่วนรายการที่ทำก็ตามที่บอกข้างต้นครับ



strmotor จาก ตะวันตัดบูรพา  125.26.143.116  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 07:24   


คำตอบที่ 5
       น่าจะเป็นอาการน้ำข้ามครับ..เปิดฝาสูบเปลี่ยนปะเก็นน่าจะหายนะครับถ้าฝาสูบไม่ร้าวหรือฝาโก่ง



yenjit จาก วิท4m40  115.67.104.0  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 08:08   


คำตอบที่ 6
       อาการคล้ายๆ ว่า สายระหว่างหม้อน้ำกับถังพักน้ำรั่ว ลองเช็คดูครับหรือรั่วบริเวณรอยต่อ หรือถังพักแตกร้าว ลองเช็คดูนะครับ ค่อยๆช่วยกันหาไป

อาการลมดันที่ว่า ออกมาเป็นฟองอากาศใช่มั้ยครับ หากเป็นฟองอากาศออกมาเป็นลูกๆ ผมละห่วงฝาสูบจริงๆ



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  115.67.79.199  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 08:11   


คำตอบที่ 7
       ประเก็นฝารั่วป่าวคับ ลองใช้ประแจปอนด์ขันดูึคับ เผื่อไม่ต้องเปิดฝา
อาการอาจจะเป็นกำลังอัดรั่วเข้าตาน้ำนิดหน่อย ทำให้น้ำหายน้อยคับ หาอู่ หรือร้านหม้อน้ำอื่นๆลองให้เค้าวิเคราำะห์
ดูน่าจะไม่ยากคับ ถ้าเปิดฝาขอประเก็๋นแืท้นะคับ อีกอย่างดูน๊ิอตด้วยเกลียวยังดีไหมยืดรีป่าวว



i m จาก เอ็ม ไดเร็กเก่าๆ  114.128.215.110  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 09:04   


คำตอบที่ 8
       พี่ตะวันตัดบูรพา ครับ แล้วน้ำ มันไปที่ถังพักหรือเปล่าง่ะครับ



i_herejoke จาก น้องโจ๊ก อนุบาลดีเซลฯ สุพรรณบุรี  114.128.168.23  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 09:10   


คำตอบที่ 9
       คุณ น้องโจ๊ก อนุบาลดีเซลฯ สุพรรณบุรี ครับ น้ำไปที่ถังพักครับ เต็มถังเลย แต่มันไม่ไหลกลับมาเวลาเครื่องเย็น



strmotor จาก ตะวันตัดบูรพา  125.26.143.116  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 09:36   


คำตอบที่ 10
       http://www.aisleberley.com/Novel%20Overheat%20warning/coolingsystem.htm


เปลี่ยนฝาหม้อน้ำแล้วก็ไม่หาย เชคหารอยรั่วก็ไม่มี ประเดี๋ยวได้เปลี่ยนประเก็นฝาสูปกันบ้างละครับ



rangsan.p จาก เอ๋  203.156.49.186  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 10:01   


คำตอบที่ 11
       รถผมเคยเป็นครับ....เป็นถึงขนาดที่ท่อยางบนแบนแฟ่บเลยครับ...ตอนเครื่องเย็น....เพราะว่าท่อยางเล็กๆจากหม้อน้ำที่ฝาปิดไปยังถังสำรอง...สายมันตันครับ ต้องใช้ปากเป่าให้ท่อยางมันโล่ง....เพราะมีเศษตะกอนไปอุดอยู่...จากนั้นก็ปกติครับ...ลองดูนะครับ



strada670 จาก เด็กโข่ง  125.25.171.9  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 12:18   


คำตอบที่ 12
       ลองเช็คที่ฝากระปุกพักน้ำตรงท่อยางว่ารั่วหรือเปล่า
ถ้าไม่เป็นไรก็
1 ประเก็นแลบ
2 ฝาโก่งหรือร้าว



_nop_ จาก _nop_  110.164.240.46  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 16:19   


คำตอบที่ 13
       ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า ไหลเข้าหม้อพัก แต่ไม่ดูดกลับ สายไม่ตันแน่นอน ส่วนรั่วอันนี้ไม่แน่ อาจจะซึม

แล้วเป่าน้ำกลับจากหม้อพัก ใช้ปากเป่า น้ำไหลกลับหรือป่าวครับ



rangsan.p จาก เอ๋  114.128.59.99  จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 17:45   


คำตอบที่ 14
       ดันหน่อย



rangsan.p จาก เอ๋  203.156.49.186  พุธ, 7/4/2553 เวลา : 12:10   


คำตอบที่ 15
       ด้วยคนครับ................................... อยากรู้สาเหตุเหมือนกัน



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  115.67.115.53  พุธ, 7/4/2553 เวลา : 12:33   


คำตอบที่ 16
       1.ถ้าเบื้องต้นท่อน้ำไหลกลับจากหม้อน้ำไปหม้อพักไม่ตัน...ปัญหาตรงนี้ก็ตัดไป....
2.ถ้าเบื้องต้นฝาหม้อน้ำไม่เสื่อมสภาพ ก็คือแกนสปริงด้านในฝาหม้อน้ำหลวมคลอนแกนโยกมาก และยางรองด้านในฝาหม้อน้ำแข็ง ถ้าเปลี่ยนฝาหม้อน้ำแล้วไม่หาย...ปัญหาตรงนี้ก็ตัดไป....
3.สุดท้ายเลยก็คือปัญหาที่ต้องทำเป็นดับสุดท้าย คือ...วาล์วน้ำ...จะอยู่ตรงท่อน้ำล่างหม้อน้ำ...ที่แนะให้เปลี่ยนเพราะวาล์วน้ำตายครับ (วาล์วน้ำจะเป็นสปริงยืดหดได้ตามความร้อนของน้ำ) ไม่ยอมให้น้ำไหลผ่านเข้าหม้อน้ำ และเกิดแรงดันขึ้นไปยังฝาหม้อน้ำ และน้ำหาทางออกโดยดันไปทางหม้อพักอีกทำให้หม้อพักน้ำเต็ม และไม่ยอมไหลกลับ น้ำในหม้อน้ำก็หายไป ทำให้ทำให้เกิดร้อนและเป็นผลเสียต่อเครื่องยนต์ครับ

ราคาวาล์วน้ำเบิกศูนย์ 580.- ครับ ยังไม่รวมค่าแรงและน้ำยาหม้อน้ำที่ต้องถ่ายออก เพื่อเปลี่ยนวาล์วน้ำ





strada670 จาก เด็กโข่ง  125.24.204.18  ศุกร์, 9/4/2553 เวลา : 17:41   


คำตอบที่ 17
       ถ้าวาล์วน้ำตายรถขับไม่ได้หรอกครับ ฮีทพังไปซะก่อนแล้วล่ะ
วิธีเช็ควาล์วน้ำง่ายๆคือ เปิดฝาหม้อน้ำไว้เติมน้ำให้เต็ม สตาร์ทเครื่อง พอความร้อนขึ้นปกติวาล์วเปิดน้ำจะวนครับ แต่ถ้าน้ำไม่วน นิ่งเฉยนั่นคือวาล์วตายครับ
หรือถ้าถอดวาล์วน้ำออกมาได้ ก้อลองต้มน้ำี้ร้อนแล้วเอามันจุ่มลงไปดูครับ ถ้ามันเปิดก้อโอเคผ่านครับ

 แก้ไขเมื่อ : 10/4/2553 8:07:43



Slbn จาก ม้าสีทอง  124.121.81.30  เสาร์, 10/4/2553 เวลา : 08:06   


คำตอบที่ 18
       ลองเปิดฝาหม้อน้ำดูดิครับ...ถ้าติดเครื่องยนต์แล้ว...น้ำในหม้อน้ำจะดันขึ้นอย่างรวดเร็วครับ...ตรงนี้ผมเปลี่ยนมาแล้วครับ...หายสนิทเลยครับ เคยเป็นน้ำดันเข้าหม้อพักจนล้น แล้วไม่ไหลกลับ แก้ปัญหาที่ฝาหม้อน้ำ, ท่อไหลกลับ, ใช้ปากเป่าท่อพักให้ไหลกลับเข้าหม้อน้ำ และถอดสายไหลกลับจากหม้อน้ำเป่ากลับไปยังหม้อพักก็โอเค. ไม่ตัน...แต่วาวล์น้ำไม่เปิดเครื่องฮีท น้ำดัน...ฝืนใช้ต่อไปเครื่องพัง!!!!!!!!!!!!!

ศูนย์...ท้าให้เอาวาล์วน้ำเก่าที่เปลี่ยนออกมาแล้วต้มแล้วดูว่ามันยุบตัวได้หรือเป่า เพราะมันสปริงมันกดไม่ลงแล้ว...อิอิอิ

 แก้ไขเมื่อ : 10/4/2553 8:38:01



strada670 จาก เด็กโข่ง  125.25.5.9  เสาร์, 10/4/2553 เวลา : 08:31   


คำตอบที่ 19
       ลองเช็ครอยรั่วตั้งแต่ฝาหม้อน้ำไปจนถึงถังพักก่อนครับ ถ้าไม่มีรั่ว ลองเปิดฝาหม้อน้ำแล้วติดเครื่องไว้ซักพักจนเครื่องร้อนถึงอุณหภูมิทำงาน แล้วลองดูว่าน้ำวนหรือเปล่าถ้าวนแสดงว่าวาล์วน้ำเปิด หรือไม่ก็ถอดวาล์วน้ำออกมาต้มน้ำดู ถ้าวาล์วน้ำเปิดสปริงจะถูกกดลงมาอย่างเห็นได้ชัดครับ ถอดง่ายนิดเดียว ไม่ต้องถึงกับต้องเปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำใหม่หรอกครับ ทีนี้ลองดูว่ามีฟองอากาศในน้ำหรือเปล่าถ้ามีแล้วฟองยิ่งมากขึ้นตอนเร่งเครื่องเตรียมหาเงินอย่างน้อยปะเก็นข้ามแน่นอนครับ



อนุบาลออฟโรด จาก อนุบาลออฟโรด  124.157.213.20  เสาร์, 10/4/2553 เวลา : 10:19   


คำตอบที่ 20
       เหตุผลฟังขึ้นนะครับหนึ่ง...



strada670 จาก เด็กโข่ง  125.25.5.9  เสาร์, 10/4/2553 เวลา : 11:36   


คำตอบที่ 21
       เอามาฝากครับเผื่อจะได้เข้าใจเรื่องหม้อน้ำได้ลึกซึ้งครับ...



=========================================================================================================
การระบายความร้อนด้วยนํ้า และการระบายความร้อนด้วยนํ้าจะประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ คือ
1. หม้อนํ้า
2. ท่อนํ้าเข้า - ออก/เข็มขัดรัด
3. ปั๊มนํ้า/สายพานปั๊มนํ้า
4. เทอร์โมสตาร์ท
ในส่วนของหม้อนํ้านั้นมีหน้าที่ คือ
1. เก็บและรวบรวมนํ้าในระบบ
2. สร้างความดันอากาศให้สูงกว่าความดันบรรยากาศ
3. ระบายความร้อนของนํ้าหล่อเย็น
ระบบการระบายความร้อนด้วยนํ้า คือ การใช้ปั๊มนํ้าสร้างแรงขับดันนํ้าเข้าสู่เครื่องยนต์ แล้วพาความร้อนออกจากเครื่องยนต์ด้วยวิธีการ Heat Convection แล้วนํ้าก็จะออกจากเครื่องยนต์มาที่หม้อนํ้า ซึ่งนํ้าตอนขาออกจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าตอนก่อนเข้าเครื่อง นํ้าร้อนนี้ก็จะถูกถ่ายเทความร้อนให้กับอากาศภายนอกที่หม้อนํ้านั่นเอง เมื่อนํ้าหล่อเย็นมีการถ่ายเทความร้อนออกสู่บรรยาอากาศ ที่หม้อนํ้าแล้ว ก็จะมีอุณหภูมิตํ่าลงอีกครั้ง แล้วก็หมุนเวียนเข้าสู่เครื่องยนต์อีกเพื่อถ่ายเทความร้อนเป็นวัฏจักร เครื่องยนต์ขณะทำงานมีอุณหภูมิบริเวณห้องเผาไหม้จะสูงถึงกว่า 100 องศาเซลเซียส แน่นอนว่านํ้าที่ออกจากเครื่องยนต์จะมี อุณหภูมิหลายร้อยองศา แต่ทำไมนํ้าในหม้อนํ้าจึงไม่เดือดและระเหยออกจากระบบ ถ้าคุณเคยต้มนํ้าในสภาวะความดันบรรยากาศปกติ นํ้าจะเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส แต่ถ้าคุณต้มนํ้าบนยอดเขาสูง ซึ่งมีความดันบรรยากาศตํ่ากว่าความดันบรรยากาศ ที่ระดับพื้นดิน จุดเดือดของนํ้าจะตํ่ากว่า 100 องศาเซลเซียส (นํ้าเดือดเร็ว) แต่ถ้าคุณต้มนํ้าที่บรรยากาศสูงๆ จุดเดือดของนํ้าก็จะสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส (นํ้าเดือดช้า)
จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ภายในหม้อนํ้าจะถูกออกแบบให้มีความดันสูงกว่าความดันบรรยากาศหลายเท่า นํ้าหล่อเย็นในระบบจะมีอุณหภูมิขณะที่เครื่องยนต์ทำงานเกิน 100 องศาเซลเซียส แต่จะไม่เดือด เพราะจุดเดือดของนํ้าก็จะสูงขึ้น ภายใต้ความดันบรรยากาศสูงๆ
เมื่อเราทราบแล้วว่าระบบระบายความร้อนด้วยนํ้านี้ อยู่ภายใต้สภาวะความกดดันสูงๆ ก็มีข้อควรระวัง คือ
1. อย่าเปิดฝาหม้อนํ้าขณะที่เครื่องยนต์ เพราะความดันสูง ภายในระบบจะดันนํ้าให้พุ่งออกมาสู่ความดันบรรยากาศ ทันทีที่เปิดฝาหม้อนํ้า
2. ท่อยางนำนํ้าเข้า - ออก ต้องขันแหวนรัดให้แน่นขึ้น มิฉะนั้นนํ้าจะรั่วซึมออกมา ควรขันในขณะที่เครื่องเย็น เพราะเหล็กและท่อยางจะหดตัว ทำให้ขันได้แน่นขึ้น
3. อย่าเติมนํ้ามากเกินปริมาณที่กำหนด เพราะนํ้าเดือดจะขยายตัวดันหม้อนํ้าแตกได้ หม้อนํ้ายุโรปมีความแตกต่างกับของรถญี่ปุ่นมาก ในรถญี่ปุ่นหม้อนํ้าจะมีถังพักนํ้าเป็นพลาสติกใสๆ เมื่อนํ้าในหม้อนํ้าเดือด ขยายตัวล้นออกมาก็จะมาอยู่ในถังพักนํ้าพลาสติกนี้ พอเครื่องยนต์เย็นหม้อนํ้าก็จะเกิดสูญญากาศดูดเอานํ้าจากถังพักนํ้าจนเต็ม ระบบเช่นเดิม ในรถยุโรป จะไม่มีถังพักนํ้าเช่นรถญี่ปุ่น แต่จะมีเพียงตัวหม้อนํ้าเท่านั้น ถ้าเติมนํ้ามากเกินกำหนดขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน นํ้าหล่อเย็นจะมีอุณหภูสูง และเกิดการขยายตัวดันหม้อนํ้าให้แตกได้ นอกจากนี้หม้อนํ้ารถยุโรปรุ่นใหม่จะทำจากอะลูมิเนียมแทน หม้อนํ้าแบบทองเหลือง ของรถทั่วๆไป เพราะหม้อนํ้าอะลูมิเนียมมีคุณสมบัติในการถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่ามาก และมีนํ้าหนักเบาช่วยลดนํ้าหนักโดยรวมของรถลงได้และยังสามารถ Recycle ได้ แต่ก็มีข้อเสียก็คือ แตกง่าย การซ่อมแซมทำได้ยาก และมีราคาแพง เรื่องจุกจิกเกี่ยวกับหม้อนํ้านั้นก็มีเกิดขึ้นได้มากมายหลายสาเหตุ บางอาการก็ชวนปวดหัว หาสาเหตุรอยรั่วไม่เจอ บางคราวก็ยังทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดจนเครื่องยนต์พังได้
การรั่วซึมตามจุดต่างๆ เช่น
1. ท่อยางต่างๆ ตามรอยต่อ ซึ่งรัดเข็มขัดไม่แน่น
2. ท่อยางแตก
3. ปะเก็นปั๊มนํ้า
4. รังผึ้งหม้อนํ้า
5. น๊อตถ่ายนํ้า
ตามจุดต่างๆ ที่กล่าวมานี้ สามารถตรวจสอบได้ง่าย โดยใช้ Radiator Tester ซึ่งจะเป็นตัวสร้างความดันให้กับระบบหล่อเย็น เมื่อระบบหล่อเย็นมีความดันสูงขึ้นนํ้าก็จะพุ่งฉีดออกมาตามรอยต่อรอยรั่ว ให้มองเห็นได้ชัดเจน หรือสังเกตจากคราบนํ้าที่เปื้อนอยู่ตามจุดต่างๆ ด้วยสายตาได้ง่าย
การรั่วซึมบางจุดยากจะตรวจพบและต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมนาน เช่น
1. รอยรั่วที่เป็นตามดเล็กๆ บริเวณรังผึ้ง เมื่อเครื่องยนต์ร้อน และหม้อนํ้าร้อนขึ้น โลหะขยายตัว นํ้าจะรั่วออกมา ซึ่งจะมีปริมาณน้อยมาก เมื่อเครื่องเย็นจะไม่รั่วเพราะโลหะเกิดการหดตัวกลับสู่สภาพปกติ ซึ่งข้อบกพร่องนี้จะไม่เป็นปัญหาใหญ่โตถึงขนาดทำให้ เครื่องยนต์ร้อนจัด แต่ผู้ใช้จะต้องเติมนํ้าบ่อยกว่ารถปกติ ซึ่งจะสร้างความรำคราญใจ และการใช้ Radiator Tester ตรวจสอบก็ยากที่จะหาสาเหตุนี้พบ
2. การรั่วซึมที่รังผึ้งของ Heater ระบบทำความร้อนภายในห้องโดยสาร (Heater) จะใช้นํ้าหล่อเย็นจากเครื่องยนต์เป็นตัวทำความร้อน ภายในห้องผู้โดยสาร ซึ่งถ้า
ระบบหล่อเย็นเกิดการรั่วซึมขึ้นที่รังผึ้งของ Heater การใช้ Radiator Tester ตรวจสอบก็จะไม่พบสาเหตุนี้ เพราะขณะทำการทดสอบด้วย Radiator Tester เราไม่ได้สตาร์ทเครื่อง และเปิด Heater ดังนั้นวาล์วนํ้าจะเปิดทำให้ Radiator Tester ไม่สามารถสร้างแรงดันเข้ามาถึงระบบของ Heater ที่เกิดการรั่วซึมได้ จึงหาสาเหตุนี้ได้ยาก แต่ก็สามารถสังเกตได้จากกลิ่นของนํ้ยาหล่อเย็น ซึ่งจะส่งกลิ่นของนํ้าหล่อเย็นออกมาในจังหวะที่เปิด Heater แต่รถที่ใช้นํ้าเปล่าๆ หล่อเย็นโดยไปเติมนํ้ายาหล่อเย็นหรือนํ้ายากันสนิทนี้ก็จะไม่ทราบถึงกลิ่น นี้ และหาสาเหตุตรงจุดนี้ไม่พบ
3. การรั่วซึมที่หม้อนํ้า บริเวณส่วนที่ติดกับห้องนํ้ามันเกียร์ ในรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ใช้เกียร์อัตโนมัตินํ้ามันเกียร์อัตโนมัติ จะถูกส่งผ่านท่อมายังหม้อนํ้า ซึ่งจะแบ่งเป็นห้องสำหรับนํ้ามันเกียร์ไว้ส่วนหนึ่ง แล้วใช้นํ้าในหม้อนํ้าไหลผ่านผนังกั้นห้องนํ้ามันเกียร์ (ไปรวมตัวกับนํ้ามันเกียร์) แล้วทำให้นํ้ามันเกียร์เย็นลง เพื่อให้อายุการใช้งานของเกียร์และนํ้ามันเกียร์นานขึ้น ถ้าผนังกั้นห้องนํ้ามันเกียร์เกิดรอยรั่ว นํ้าก็จะเข้ารวมตัวกับนํ้ามันเกียร์ ทำให้นํ้าหล่อเย็นพร่องบ่อย และนํ้ามันเกียร์ก็จะเปลี่ยนจากสีปกติ คือ แดงทับทิมเป็นสีคล้ายชาเย็น เมื่อเกิดการรวมตัวกับนํ้าที่รั่วเข้ามา อันนี้สามารถรู้ได้จากการดูสีของนํ้ามันเกียร์เท่านั้นการใช้ Radiator Tester จะตรวจสอบไม่พบเพราะรอยรั่วอยู่บริเวณภายในหม้อนํ้า ซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตา
4. การรั่วซึมที่ปะเก็นฝาสูบ ไม่สามารถใช้ Radiator Tester ตรวจสอบได้เพราะรอยรั่วไม่ได้อยู่ในบริเวณที่มองเห็นได้ด้วยตา แต่สาเหตุนี้นํ้าจะแห้งอย่างรวดเร็วและเครื่องยนต์จะร้อนจัด ถ้าเครื่องยนต์ร้อนจัดจนเครื่องดับ ให้ทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง ให้ดับเครื่องยนต์เสียก่อน จึงจะเดิมนํ้าเข้าไปได้ การเติมนํ้าขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัดทันที จะทำให้ฝาสูบโก่งได้ ซึ่งจะต้องเสียเวลาปาดฝาสูบใหม่ แทนที่จะแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนปะเก็นฝาสูบเพียงอย่างเดียว
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นข้อควรระวังและวิธีการบำรุงรักษาหม้อนํ้า รวมทั้งปัญหาจุกจิกต่างๆ ของหม้อนํ้าซึ่งถ้าเราแก้ไขอย่างถูกต้อง และมีความเข้าใจเพียงพอ การใช้รถก็จะไม่ใช่เรื่องจุกจิกกวนใจแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องหม้อนํ้าที่หลายๆ คนวิตกกังวลกันอยู่ขณะนี้
=========================================================================================================



strada670 จาก เด็กโข่ง  125.25.5.9  เสาร์, 10/4/2553 เวลา : 13:11   


คำตอบที่ 22
       ฝากตัวด้วยคร๊าบ



vokken จาก gclub  125.24.194.72  ศุกร์, 23/4/2553 เวลา : 17:24   


คำตอบที่ 23
       อาการอย่างนี้ต้องสังเกตุให้มากๆหน่อยนะครับ และสิ่งที่น่าตรวจสอบต่างๆเริ่มจากง่ายไปหายากดังนี้
1.เปลี่ยนฝาหม้อน้ำแท้ศูนย์ และเช็คหน้าสัมผัสระหว่างฝากับแป้นรองรับจะต้องเรียบและแนบสนิทเพื่อให้เป็นสูญญากาศ ( ไม่มีอากาศจากภายนอกเข้าไปในระบบ )
2.เช็คสายยางทางไหลส่งและดูดจากถังพักว่าจะต้องไม่แตกรั่วหรือตัน รวมถึงสามทางก่อนลงถังพักด้วยและฝาต้องหมุนเกลียวสนิทเพื่อให้เป็นสูญญากาศ
3.เช็คท่อยางก่อนเข้าและออกจากหม้อน้ำว่ายังไม่อ่อนหรือแฟบจนไม่สามารถที่จะมีแรงดูดน้ำกลับในเวลาที่เครื่องเย็นได้ คือถ้ามับแฟบ ก็ไม่มีแรงดูดกลับนั่นเอง
4.เช็ควาล์วน้ำว่าการเปิดและปิดตรงตามค่ามาตรฐาน ( ไม่ใช่ว่าวาล์วยังไม่เปิดหรือเปิดที่ temp สูง ๆจนแรงดันน้ำชนะสปริงที่ฝาหม้อน้ำแล้วก็พ่นทิ้งไปซะหมดละครับ )
5.สุดท้ายแล้วจริง ๆ ถ้าเวลาวิ่งแล้วเครื่องกำลังร้อน ๆ และมีอาการ น้ำเดือดที่ถังพัก หรือ น้ำในหม้อน้ำมีคราบน้ำมันเครื่องรวมอยู่ด้วย จะต้องมีทางออก 2 ทางคือ
- ถ้าเช็คแล้วฝาสูบไม่โก่ง จับเปลี่ยนปะเก็นแท้เท่านั้นเป็นจบ
- เช็คฝาสูบโก่งโดยการตรวจอัดน้ำที่ฝาสูบ อันนี้จะต้องถอดไปเช็คและควรจะดูพร้อมกับช่างด้วยว่า ถ้าฝาสูบโก่งแล้วจะปาดฝาสูบ จะปาดฝามากเท่าไรและจะเสริมปะเก็นหนาเพิ่มไปเท่าไร แต่เน้นย้ำมากว่าควรเป็นเนื้อปะเก็นแท้เท่านั้น
หลักง่าย ๆ คือ น้ำ เมื่อมี temp จะขยายตัว หรือมีกำลังดัน และเมื่อขยายตัวไปตาม temp ต่าง ๆ จะถูกดันไปเก็บที่ถังพัก แล้วแต่ปริมาณต่าง ๆ กัน แปรตรงตามค่า temp นั้น ๆ และเมื่อเครื่องกลับมาที่สภาวะ temp หนึ่ง ๆ ช่วงนั้นจะมีการดูดและส่งจากถังพักมาที่หม้อน้ำอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าเครื่องยังติดอยู่ก็ตาม แต่ท้ายสุดแล้ว เมื่อดับเครื่องและเครื่องเย็นลง น้ำจะลดกำลังดันลง หรือเริ่มหดตัวจนกลับสู่ปริมาตรที่ปกติ ระบบสูญญากาศ จะทำให้ภาระต่าง ๆ กลับสู่สภาวะที่ปกตินั่นเอง คือน้ำที่หม้อน้ำก็จะเต็มเท่าเดิม รวมทั้งที่ถังเก็บก็จะเท่าเดิมที่มีอยู่ก่อน
ดังนั้นอุปกรณ์สำคัญที่สรุปมาก็คือปัจจัยจำเป็นที่ต้องตรวจสอบทุกอย่างประกอบกันทั้งหมด รวมทั้งทำอย่างไรจะให้เกิดเป็นระบบปิดให้ได้ เพื่อให้เป็นสูญญากาศนั่นเอง



navy96 จาก navy96  222.123.106.123  พุธ, 5/5/2553 เวลา : 09:20   


คำตอบที่ 24
      

 แก้ไขเมื่อ : 5/5/2553 20:23:44



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  111.84.171.106  พุธ, 5/5/2553 เวลา : 20:22   


คำตอบที่ 25
       โห.... เล่นซะเห็นภาพเลยอ่ะครับ ดูท่าแล้วจะมีประสบการณ์มาก่อน
ขอเสริมนิดนึงนะครับ ถ้าแค่ปะเก็นแลบ เปลี่ยนปะเก็นแนะนำว่าถ้าใช้บูสสูงๆ ก็เพิ่มขนาดความหนาของปะเก็นไปอีกนิดครับ และที่สำคัญที่สุดถ้าปาดฝามาต้องเสริมปะเก็นให้หนาขึ้นครับ งั้นเครื่องพี่อาจจะกระจ่ยก่อนวัยอันควร ยิ่งรถแต่งด้วยแล้วยิ่งไปเร็วครับ



อนุบาลออฟโรด จาก อนุบาลออฟโรด  222.123.196.109  พฤหัสบดี, 6/5/2553 เวลา : 18:20   


คำตอบที่ 26
       อะ.......ทำมาแล้วนะครับพี่ๆ แต่ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคำแนะนำครับ พอดีผมไปบวชมาครับ พึ่งจะสึก แต่สงสัยจะยังเหลือกรรมอยู่ครับความซวยจึงมาเยือน
1.ฝาสูบโก่งครับ เอาไปที่โรงกลึง
2.วาวน้ำครับ ยางขาดหมดแล้ว เปลี่ยนครับ
3.ประเก็นฝาสูบครับ จากการศึกษาดูพบว่า ประเก็นไฟดีกว่าครับ เพราะฝาสูบไม่ได้เรียบเท่าเดิมแล้ว
4.ซีลคอหน้าครับ ซึมมานาน เปลี่ยนครับ
5.ฝาหม้อน้ำครับ เบิกศูนย์
6.พัดลมหม้อน้ำครับ พร้อมอัดน้ำยาเพิ่ม
7.อื่นๆเล็กน้อยครับ

หลังจากประกอบเสร็จ ทำการวอมม์เครื่องได้ประมาณ 5 นาที เครื่องหยุดครับ แน่นิ่งเลย ชิบหายแล้ว(เสียงพ่อครับ)
เปิดฝาครอบวาวร์ออกมาดู กระเดื่องกดวาวร์หักไป 4 ตัวครับ ขาวาวร์คดอีกด้วย สาเหตุเกิดจากตอนประกอบน้ำมันเครื่องไปโดนสายพานราวลิ้นครับ รูด...เลย
เปิดฝาสูบออกอีกรอบครับ ซื้อประเก็นอีกครั้ง และอื่นๆ เซ็ง.....

ยังไม่จบนะครับ ซ่อมเสร็จได้สองวัน น้องชายขับถอยไปชนต้นกระถินต้นเท่าต้นขา ตูดพังอีก
เข้าอู่ตีโปร่งทำสีอีกครับ หวังว่าคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกนะครับ ซวยจริงๆ

สุดท้ายคิดถึง ทอม ชัยภูมิ พี่เอ๋ แนนน้อยเน และพี่ๆทุกครับ เดี๋ยวทำเสร็จทุกอย่างแล้วจะมาแจ้งรายจ่ายให้ฟังนะครับ



strmotor จาก ตะวันตัดบูรพา  114.128.22.12  เสาร์, 8/5/2553 เวลา : 20:44   


คำตอบที่ 27
       ของผมพึ่งจะมีอาการมาได้สักหนึ่งอาทิตย์
อาการ
๑)น้ำในหม้อน้ำหายไป เกือบ 1 แก้ว หรือบางครั้งขับไกลๆ หายไป เกือบ 1/2 ลิตร และในถังพักมีน้ำเพิ่มขึ้น แต่เวลาเครื่องเย็นมันไม่ดูดไปเติมในหม้อน้ำ
๒)ฝาหม้อน้ำไม่มีอะผิดปรกติ
๓) มุดดูใต้ท้องเครื่องทุกมุมไม่มีรอยรั่วซึมใดๆ เลย มีแต่รอยเขียวนิดๆ ที่คอท่อบนหม้อน้ำ(นิดเดียวจริงๆ แต่เป็นอาการนี้มานานเป็นปีๆ แล้วและน้ำในหม้อน้ำไม่เคยแห้งเลย มันดูดไปเติมทุกครั้งที่เครื่องเย็น)
๔) บางครั้งสีน้ำในหม้อน้ำมันเป็นฟองสีออกสนิม ชานมเย็นเกาะที่ฝาหม้อน้ำ

ซ่อม
๑)ล้างหม้อน้ำทุกอย่าง แทงหลอดด้วย
๒)เปลี่ยนฝาครอบหม้อน้ำใหม่..ของเก่าคอมันมีรอยแตกและเบี้ยว มันจึงส่งผลอาการมีน้ำสีเขียวออกมานิดๆๆๆ
๓)เปลี่ยนวาล์วน้ำตัวใหม่
๔)เปลี่ยนน้ำยาฟรีปั้มให้มันหนืดขึ้นนิดนัง( Oil silicone Toyota)
๕)ไม่ได้เปลี่ยนฝาหม้อน้ำ

ทดลองขับ (May 17'2010)
เช้านี้วิ่งมาทำงาน ~50km วิ่งปรกติที่ 120-140 อุณภูมิ ที่วัด temp gagae อยู่ที่ 60~65'C ส่วนเข็ม temp ของเครื่องปรกติประมาณกึ่งกลางขีดไม่มี heat ใดๆ ตั่งแต่ขับมา
รอเครื่องเย็นสัก 10 นาที เปิดฝากระโปง น้ำในหม้อพักน้ำมีเกือบเต็มหม้อ และลองค่อยๆเปิดฝาหม้อน้ำดู มันยุบอีกแล้วและมีสีฝองเหมือนสีชานมเย็น
เป็นเพราะอะไรครับ..งง จริงๆ ไม่รู้ว่าจะตรวจเช๊คอะไรอีกครับ ช่วยหน่อ..เป็นกังวนครับ



gg60 จาก GG60  124.157.220.182  จันทร์, 17/5/2553 เวลา : 17:01   


คำตอบที่ 28
       ลองเปลี่ยนฝาหม้อน้ำดูก่อนครับ แล้วลองไล่สายจากหม้อน้ำไปหม้อพักดูว่า รั่วบ้างหรือเปล่า ค่อยๆหาดูครับ



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  111.84.198.96  จันทร์, 17/5/2553 เวลา : 19:05   


คำตอบที่ 29
       อาจจะเส้นผมบังภูเขาอย่างว่าครับ หลังเลิกงานแวะซื้อฝาหม้อน้ำใหม่จะหา 1.1 bar แต่ไม่มีขายเลย จึงใช้ 0.9bar เหมือนเดิม เป็นของ toyota ครับ พอกลับมาถึงบ้าน (45km) โอเคครับน้ำมันไม้ยุบแล้วครับ...งงล่ะซิครับ ไม่อยากเชื่อเลยว่า ต้นเหตุมันจะมาจาก "ฝาหม้อน้ำ"
เดี๋ยวพรุ่งนีลองสังเกตุดูอีกที



gg60 จาก gg60  124.121.188.254  จันทร์, 17/5/2553 เวลา : 21:07   


คำตอบที่ 30
       ดีใจด้วยอ่ะครับ



อนุบาลออฟโรด จาก อนุบาลออฟโรด  222.123.110.34  จันทร์, 17/5/2553 เวลา : 23:42   


คำตอบที่ 31
       ฝาหม้อน้ำ สปริงมันกดปิดอยู่ แล้วน้ำจะไหลกลับเข้าไปได้ยังไงละครับ เฮอๆๆๆๆ

ช่างหนู มีความเห็นว่ายังไงละ



rangsan.p จาก เอ๋  222.123.4.11  อังคาร, 18/5/2553 เวลา : 21:10   


คำตอบที่ 32
       มันมีสปริกดอยู่ก็จริง แต่มันก็ดูดกลับได้ครับช่างเอ๋ ส่วนกลับทางไหนนั้น กำลังหาคำตอบอยู่เหมือนกัน อิอิ

เมื่อวานจะออกไปดูข้ออ่อนซะหน่อย ฝนก็ดันตกซะอีก.................



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  111.84.185.140  พุธ, 19/5/2553 เวลา : 06:39   


คำตอบที่ 33
       ผมก๊อปปี้เอามาให้อ่านดูครับ เรื่องเล้กๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา...อย่ามองข้ามความสำคัญของมันเด็ดขาด

ฝาหม้อน้ำหรือฝาแรงดัน

มักจะเป็นฝาโลหะที่มีปะเก็นและสปริง ที่ใช้เปิดและปิดหม้อน้ำ
ทำหน้าที่กักเก็บน้ำยาหล่อเย็นและกักแรงดันภายในระบบน้ำหล่อเย็น
แรงดันที่กักเก็บส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 0.9-1.3 bar เหนือแรงดันบรรยากาศ

แรงดันภายในระบบน้ำหล่อเย็นเกิดจากการขยายตัวของน้ำหล่อเย็น เมื่อได้รับความร้อนจากเครื่องยนต์ เมื่อน้ำขยายตัวและเกิดแรงขึ้นถึงระดับที่สปริงฝาหม้อกำหนดไว้ น้ำหล่อเย็นที่มีแรงดันสูงกว่าจะดันฝาหม้อน้ำออกไปสู่หม้อพักน้ำ
และเมื่ออุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นลดลง น้ำก็หดตัว เกิดภาวะสูญญากาศภายในหม้อน้ำเป็นแรงดันที่ติดลบ ต่ำกว่าบรรยากาศ ก็จะดูดน้ำในหม้อพักผ่านฝาหม้อน้ำกลับมายังหม้อน้ำเหมือนเดิม วัฎจักรนี้จะเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก

ฝาหม้อน้ำมีการเสื่อมหรือไม่
แน่นอน......ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีการเสื่อม โดยเฉพาะสปริง...ล้าและปะเก็น...ชำรุด
สปริงล้า....มีเครื่องมือตรวจสอบได้(ผมยังไม่มี) ทดสอบแรงต้านการบีบและระยะของปริงที่มันหดตัวลง
ปะเก็น.....ใช้สายตาตรวจดูได้

เสื่อมเมื่อไร....
เมื่อมันไม่สามารถกักแรงดันตามที่กำหนดไว้บนฝาได้
เมื่อมีการใช้งานมายาวนาน(คาดว่าประมาณ 2 แสน กม.ขึ้นไป)
เมื่อพบว่ามันถ่ายน้ำออกได้แต่ไม่สามารถดูดน้ำได้......

หากพบว่ามันเสื่อมควรรีบเปลี่ยนโดยเร็ว โดยเฉพาะการที่มันไม่สามารถดูดน้ำกลับได้
สังเกตุได้จากระดับน้ำในหม้อพักมีปริมาณสูงกว่าปกติ เมื่อเครื่องเย็น......นั่นคือ น้ำในหม้อน้ำขาดไปไม่เต็มระบบ เกิดช่องว่างมีอากาศมาแทนที่ การระบายความร้อนทำได้ไม่ดี......เกิดปัญหาความร้อนขึ้นไปจนถึงขั้น OVERHEAT!!! โดยที่เข็มความร้อนอาจจะไม่ขึ้นหรือขึ้นตามปกติ
ทั้งนี้เนื่องจากเซนเซอร์อุณหภูมิไม่ได้จุ่มในน้ำ เพราะระดับน้ำหล่อเย็นต่ำเกินไป

โปรดตรวจกันบ้างในขณะที่เครื่องเย็นแล้วนะครับ....ระวังน้ำร้อนจะลวกเอาได้



gg60 จาก GG60  125.26.10.182  พุธ, 19/5/2553 เวลา : 10:21   


คำตอบที่ 34
       เอาแบบผ่าฝาหม้อน้ำมาวิเคราะห์กันเลยดีกว่า ทางออกรู้ แล้วทางเข้าละ ในเมื่อฝาหม้อน้ำมีแรงดันสปริงกดเอาไว้ใน
อุณหภูมิห้อง แล้วแถมมีแรงดูดติดลบอีก ก็ยิ่งปิดแน่นกันเข้าไปใหญ่ เฮอๆๆๆ แล้วจะเข้ารูไหนหว่า ช่างศูนย์ยังตอบผมแบบตรงไปตรงมามะได้เลย คำถามง่ายๆแต่ชี้ให้เห็นรูเข้าไม่ได้



rangsan.p จาก เอ๋  112.142.83.206  พุธ, 19/5/2553 เวลา : 20:26   


คำตอบที่ 35
       P'เอ๋ ก็พุดนะ "ทางออกรู้ แล้วทางเข้าละ "
เออ! มันก็จริงนะ ในช่วงที่น้ำถูกดูด(Vacuum) ไหลกลับมาตอนเครื่องเย็น มันต้องใช้แรงดูด มากกว่าแรงสปริง.ใช่ไหมหว่า??? แล้วมันจะเข้าทางไหนล่ะง....งงเหมือนกันครับ พี่น้อง



gg60 จาก GG60  124.157.221.114  พฤหัสบดี, 20/5/2553 เวลา : 09:20   


คำตอบที่ 36
       ผมก็หาคำตอบกันอยู่ แต่ยังคลุมเครืออยู่ เรื่องของเรื่องก็คือสงสัยแค่นั้นเอง............. แต่อยากรู้ให้ได้ อิอิ ความอยากไม่ปราณีใคร



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  115.67.7.86  พฤหัสบดี, 20/5/2553 เวลา : 09:28   


คำตอบที่ 37
       55555555 ต้องเอาวิศวกรมาที่ออกแบบระบบมาตอบแล้วละครับ หรือไม่ก็ต้องไวคัสผ่าฝาหน้อน้ำดูกัน

ชลที่ทำงานมีเครื่องไวคัสไหมครับ บริจากฝาหม้อน้ำซักอันดีไหมครับเนี้ย



rangsan.p จาก เอ๋  203.156.49.186  พฤหัสบดี, 20/5/2553 เวลา : 12:16   


คำตอบที่ 38
       เมื่อคืนลองถอดเอามาศึกษาดูว่ามันทำงานอย่าง..คำตอบตามรูปภาพเลยครับไม่น่าจะผิดนะ......ทำไปได้
ใครคิดเห็นแตกต่างช่วนชี้แนะด้วยครับ

ปล. สภาวะน้ำออกมันขึ้นอยู่กับค่าแรงดันของฝาหม้อน้ำครับ 0.9 หรือ 1.1 bar จะให้จุดเดือดของน้ำที่อุณหภูมิต่างกัน

 แก้ไขเมื่อ : 21/5/2553 10:23:46





gg60 จาก GG60  125.26.9.52  ศุกร์, 21/5/2553 เวลา : 10:20   


คำตอบที่ 39
       แจ่มเลยครับท่านGG60





korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  115.67.84.72  ศุกร์, 21/5/2553 เวลา : 11:06   


คำตอบที่ 40
       ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แหล่มเลย



rangsan.p จาก เอ๋  203.156.49.186  จันทร์, 24/5/2553 เวลา : 12:55   


คำตอบที่ 41
       สุดยอดครับไว้กลับบ้านจะไปหาฝาหม้อน้ำ1.3มาฝากนะครับ



อนุบาลออฟโรด จาก อนุบาลออฟโรด  110.164.238.116  จันทร์, 24/5/2553 เวลา : 22:45   


คำตอบที่ 42
       ผมมา update เรื่องหม้อน้ำต่อครับ หลังจากที่ ทำอะไรๆ ไปหลายอย่าง
เมื่อวานลองแอบดูอาการว่ามันยังพ่นน้ำออกมา และดูดกลับไปหรือเปล่า
ผล(วิ่ง 45km ความเร็ว~130-140) น้ำในหม้อน้ำมันยังพ่นออกมาที่หม้อพักเหมือนเดิม และไม่ดูดกลับไปอีกด้วย(หลังเครื่องเย็น).... ...ก็ยัง งงๆ อยู่ครับ

จะแก้ไขอะไรต่อดีครับ น้ำที่มันล้นออกมาไม่มีคราบน้ำมันครับ หรือว่าเป็นที่ปั้มน้ำครับ เดี๋ยวจะลองเปลี่ยนปั้มดู
ถ้าไม่หายทำอะไรต่อครับ

ปล.ตอนนี้ต้องแอบเปิดดูน้ำในหม้อน้ำทุกวันเลยครับ บางวันมันก็ไม่พ่นออกมา บางวันระดับน้ำก็ปรกติ
ปริมาตรน้ำที่หายไปจากหม้อน้ำเท่ากับน้ำที่พ่นออกไปอยู่ในหม้อพักผมลองดูดกลับและเอาไปเติมในหม้อน้ำแล้วครับ

A Nice day



gg60 จาก GG60  124.157.221.114  อังคาร, 25/5/2553 เวลา : 09:12   


คำตอบที่ 43
       ลองเทส ด้วยเครื่องวัดแรงดันหม้อน้ำดูครับ ใส่แทนฝาหม้อน้ำดู มันจะบอกเราได้ชัวร์ ว่า แรงดัน รั่ว จากฝาสูบหรือปะเก็นรึเปล่า ศูนย์บริการ ACT สาขาใหญ่ๆๆมี ครับ

บางทีเคสนี้ ที่ผมเคยเป็น ท้ายสุด หาเป็นเดือน มันซึมๆๆออกจาก ปั๊มน้ำอ่ะครับ ซีลมันเริ่มเสื่อม หรือลูกปืนในตัวปั๊มน้ำเริ่มคลอนได้นิดหน่อย หารอยรั่วไม่เจอ มันจะแอบๆๆ ออกตอนแรงดันสูงก่อน ครับ
ลองเช็คดูครับ เผื่อจะเสียตังน้อย ลง เช็คให้ดีๆๆ เกา ผิดที่ เสียตังฟรี อีก



big-m2500 จาก big-m2500  58.8.35.227  อังคาร, 25/5/2553 เวลา : 14:17   


คำตอบที่ 44
       ขอบคุณครับ P'Big M -2500
ตอนเครื่องเย็นๆ หรือตอนเช้า ผมลองเปิดฝาหม้อน้ำดู มันจะมีแรงดัน(แต่ยังไม่ชนะแรงสปริงที่ 1.1bar)พร้อมเสียงฟิ๊ด เป่าออกมาจากฝาหม้อน้ำ
แต่น้ำในหม้น้ำมันยุบหายไป(ปริมาตรน้ำที่หายไปมันจะถูกพ่นไปอยู่ที่ถังพักน้ำแทน)
ตอนนี้ซื้อปั้มน้ำมาใหม่แล้ว -ของ Paraut /mad in Japan เดี๋ยววันสองวันหาร้านเปลี่ยนดูครับ



gg60 จาก GG60  124.157.221.114  อังคาร, 25/5/2553 เวลา : 15:25   


คำตอบที่ 45
       คล้ายๆอาการ ท่านม้าสีทอง รอท่าน มาตอบ ครับ อิอิ

ขอให้โชคดี เปลี่ยนปั๊มน้ำแล้ว หาย ครับ ป๋ม

แชร์ๆ ความรู้ กัน ครับ



big-m2500 จาก big-m2500  61.90.23.176  อังคาร, 25/5/2553 เวลา : 15:35   


คำตอบที่ 46
       วันนี้เอารถไปเปลี่ยนปั้มน้ำมาครับ....อาจจะเจอตอแล้วก็ได้ครับว่าทำไม มันไม่ดูดน้ำกลับเข้าหม้อน้ำ
1.ใบพัดยังดีอยู่ครับ
2. มีคราบน้ำเป็นลอยบนตัวปั้มมันออกมาจากรูเล็กๆ
3. มีรอยรั่วซึมที่ซีลยาง
4. อีกมุม มีรอยรั่วซึมที่ซีลยาง

ลอง start เครื่องดู เปิดฝาหม้อน้ำ ร่วมครึ่งชั่วโมง น้ำในหม้อน้ำไหลเหวียนแล้วครับ
พรุ่งนี้จะลองวิ่งยาวๆ ดูครับแล้วจะมา update






gg60 จาก gg60  110.168.19.252  อังคาร, 25/5/2553 เวลา : 22:10   


คำตอบที่ 47
       2. มีคราบน้ำเป็นลอยบนตัวปั้มมันออกมาจากรูเล็กๆ






gg60 จาก gg60  110.168.19.252  อังคาร, 25/5/2553 เวลา : 22:11   


คำตอบที่ 48
       3. มีรอยรั่วซึมที่ซีลยาง






gg60 จาก gg60  110.168.19.252  อังคาร, 25/5/2553 เวลา : 22:12   


คำตอบที่ 49
       4. อีกมุม มีรอยรั่วซึมที่ซีลยางเหมือนกัน

ผมคงเอามาแชร์ให้ดูแค่นี้แหละครับ

Nice day






gg60 จาก gg60  110.168.19.252  อังคาร, 25/5/2553 เวลา : 22:14   


คำตอบที่ 50
       คุณ GG60 ครับ ประเก็นฝารั่วครับ ผมทำแล้วหายแล้วครับ อาการเดียวกันเลยครับ แต่ของผมต้องไปให้โรงกลึงใสฝาให้ด้วยครับ ฝาโก่งครับ รีบทำนะครับเดินทางไกล มันระแวง



strmotor จาก ตะวันตัดบูรพา  113.53.175.115  พุธ, 26/5/2553 เวลา : 18:29   


คำตอบที่ 51
       ดีใจด้วย กะท่าน gg60

น่าจะรอดแล้วววว เสียตัง น้อย อิอิ



big-m2500 จาก big-m2500  58.8.33.230  พฤหัสบดี, 27/5/2553 เวลา : 08:03   


คำตอบที่ 52
       P' ตะวันตัดบูรพา
ขอเป็นความรู้ครับ อาการต่างๆ ดูได้จากหม้อน้ำอย่างไรบ้าง
1 ประเก็นรั่วจะดูผลจากอะไรบ้าง
2 ฝาสูบโก่งจะดูผลจากอะไรบ้าง
3 ฝาสูบ,เสื้อสูบร้าวจะดูผลจากอะไรบ้าง

Thank you and good luck



gg60 จาก GG60  125.26.10.200  พฤหัสบดี, 27/5/2553 เวลา : 10:43   


คำตอบที่ 53
       คุณ GG60 ครับ ผมก็อาศัยการดูเอานะครับ ิอิอิอิ
1. อาการประเก็นรั่วแถวรูน้ำ จะมีอาการหม้อน้ำมีแรงดันแม้เครื่องจะเย็นแล้ว คือ ตอนเครื่องเย็นแล้วไปเปิดฝาหม้อน้ำยังมีแรงดันและที่สำคัญน้ำหายครับ แล้วก็ไม่ดูดกลับมาด้วย อันนี้โดนกับตัวเองเต็มๆ
2. ฝาโก่ง เวลาสตาร์ทเครื่องแล้วเปิดฝาหม้อน้ำไว้ครับ มีลมดันเป็นฟองมาแบบน้ำเดือดแต่มันไม่เดือดนะครับ แค่ดูเหมือนเท่านั้น แต่จะโก่งหรือไม่ก็ต้องถอดฝาสูบออกมาวัดครับ ชัวว์สุดๆ



strmotor จาก ตะวันตัดบูรพา  113.53.168.185  พฤหัสบดี, 27/5/2553 เวลา : 12:16   


คำตอบที่ 54
       ISUZU อย่างเราๆ ฝาเหล็กหล่อ ไม่ได้โก่งกันได้ง่ายๆนะครับ



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  115.67.87.236  พฤหัสบดี, 27/5/2553 เวลา : 12:54   


คำตอบที่ 55
       P' ตะวันตัดบูรพา
ของผมอาการยังเหมือนกับ ข้อ 1 เลย "ตอนเครื่องเย็นแล้วไปเปิดฝาหม้อน้ำยังมีแรงดันและที่สำคัญน้ำหายครับ "
แต่ความร้อนปรกติ เดี๋ยววันนี้จะลองสังเกตุดูอีกครั้ง เอาให้ชัวร์ๆ เลยว่า มีปุดๆ ในหม้อน้ำหรือเปล่า หรือประเก็นอาจจะรั่วก็ได้แต่มันยังไม่รุนแรงอาการมันเลยไม่ค่อยฟ้องเท่าได

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ทุกๆ ความคิดเห็นในโลกของ internet ไม่ใช่แค่จะแรงตะบี้ตะบันกันอย่างเดียวแล้วไม่สนใจเอาใจใส่กับการดูแลรัดษาซ่อมบำรุงรักษา



gg60 จาก GG60  125.26.10.200  พฤหัสบดี, 27/5/2553 เวลา : 15:43   


คำตอบที่ 56
       มา Update ครับ
สรุป ประเก็นฝาสูบรั่วครับ ผ่าตัดมาเรียบร้อย....จบแล้วครับงานนี้

Good luck



gg60 จาก gg60  110.168.11.187  เสาร์, 29/5/2553 เวลา : 20:36   


คำตอบที่ 57
       ยินดีด้วยนะครับ gg60 จะได้หมดกังวล อิอิอิ



strmotor จาก ตะวันตัดบูรพา  125.26.156.58  เสาร์, 29/5/2553 เวลา : 21:03   


คำตอบที่ 58
       ท่าน gg60 ใส่ประเก็นเบอร์อะไรมาครับ



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  111.84.79.41  อาทิตย์, 30/5/2553 เวลา : 07:47   


คำตอบที่ 59
       P'หนู ไบโอแก๊ส
ไม่แน่ใจครับว่าเบอร์อะไร ผมซื้อ แท้ standard มาใส่ ครับ และผมก็ไม่ทราบเมหือนกันว่า มีเบอร์ให้เลือกด้วย
ส่วนที่เอาไป ปาด(milling) ไม่กี่ ไมคร่อน ครับ มันรั้วสองสูบกลางครับยังไม่เยอะเท่าไร มีรอยไหม้นิดๆ นึงที่ประเก็นครับ ช่างบอกว่าของ standard ยังใช้ได้



gg60 จาก gg60  124.121.187.34  อาทิตย์, 30/5/2553 เวลา : 11:16   


คำตอบที่ 60
       ประเก็นมังกรมี3เบอร์ครับ 1.5----1.6----1.7มม.ครับ ผมว่ารถเทอร์โบลดกำลังอัดลงหน่อยดีกว่า เดี๋ยวเก็บผลไม้เสร็จว่าจะใส่เบอร์สุดท้าย 1.7มม.ครับ จะได้อายุยืน+บูสท์ได้สูงอีกหน่อยอิอิ.............


หรือไม่ก็สั่งตัดใหม่ซัก2มม. แต่จะรอรอบหน่อย



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  111.84.220.134  อาทิตย์, 30/5/2553 เวลา : 11:37   


คำตอบที่ 61
       ขอบคุณมากครับพี่ หนู ไบโอแก๊ส
ช่างบอกว่าถ้าขับ ชิวๆ ใช้งานไม่โหดร้ายกับเครื่องก็เอาอยู่สะบายๆ ครับ".........อยู่ที่เท้าครับ

Good luck



gg60 จาก gg60  124.121.187.34  อาทิตย์, 30/5/2553 เวลา : 12:12   


คำตอบที่ 62
       Update ครับ
เมื่อตอยเย็นไป confirm กับช่างมาแล้วครับ ใช้ประเก็น# 1.7 ครับ



gg60 จาก gg60  124.121.191.33  จันทร์, 31/5/2553 เวลา : 20:19   


คำตอบที่ 63
       แจ่มเลย............... เดี๋ยวว่าจะแอบไปเปลี่ยนบ้างล่ะ................... รอตังคก่อน



korn_ จาก หนู ไบโอแก๊ส  115.67.54.151  จันทร์, 31/5/2553 เวลา : 20:30   


คำตอบที่ 64
       มา update ครับ
หลังจากเปลี่ยนประเก็นฝาสูบและเอาไปวิ่งใช้งานดู สามสี่วัน....น้ำเต็มทุกวันเลยครับ...จบแล้วครับ





gg60 จาก GG60  124.121.187.96  อังคาร, 1/6/2553 เวลา : 21:37   


คำตอบที่ 65
       ผมกำลังแก้ไขอาการเดียวกันนี้อยู่เลยอะคับ
แต่ผมคิดว่าจะเปลี่ยนนัทยึดฝาสูบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
ไว้เวลาบ้าบูสต์เยอะๆอะคับ



dragonTFR จาก dragonTFR  203.146.246.245  พุธ, 11/5/2554 เวลา : 16:20   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 14/9/2554 5:54:51

Error processing SSI file