ข่าวจากไทยรัฐ ปีที 56 ฉบับที่ 17172 วันพุธที่ 26 มกราคม 2548

จาก นกอินทรี ช่อง50(HS2XVB)
IP:203.150.217.120

พฤหัสบดีที่ , 27/1/2548
เวลา : 07:25
อ่านแล้ว = ครั้ง

เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว

แจ้งลบ

ส่งหาเพื่อน

เร่งสร้างข่ายสื่อสารชาติ รับมือภาวะ..ข่ายล่ม

ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารทันสมัย ไม่กี่วินาทีหลัง คื่นยักษ์สึนามิโหมเข้าฝั่ง เรื่องราวเหล่านั้น จะถูกถ่ายทอดออกไปทั่วโลก

สายโทรศัพท์ทุกสาย จากทุกสารทิศ ยิงตรงไปยังชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อสอบถามถึงคนใกล้ชิดที่อยู่บริเวณนั้น

วิกฤติสื่อสาร เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 ยืนยันได้ ไม่มีใครต่อใครในขณะนั้นได้รู้ ความเป็นห่วงเริ่มทวีขึ้นเป็นระยะ เปิดโทรทัศน์มีแต่เรื่องน้ำเน่าไร้สาระ

กระแสข่าวไม่ยืนยัน มีคนตายจำนวนมาก ความเป็นจริงเป็นอย่างไรไม่รู้

โทรศัพท์มือถือทุกระบบเริ่มใช้งานไม่ได้ โทรศัพท์บ้านโทร. ติดยากเต็มที การสื่อสารทุกระบบบนชายฝั่งทะเลอันดามันเริ่มล่มลง

ถามว่า เหตุการณ์ฉุกเฉินแล้วการสื่อสารล่ม เกิดเฉพาะประเทศไทยหรือเปล่า

คำตอบคือ ไม่ใช่

เหตุการณ์ 9/11 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐนิวยอร์กซึ่งถือว่าเป็นรัฐที่มีความทันสมัย ที่สุดในโลก เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติ ระบบการสื่อสารของนิวยอร์กล่มไม่เป็นท่าเหมือนกัน

จักรกฤช กันทอง นักศึกษาปริญญาเอกคณะวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยโอกาโฮมาสเตท ประเทศสหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ในส่วนของโทรศัพท์มือถือ โดยปกติจะมีสถานีที่เรียกว่า สถานีเครือข่าย

สถานีเครือข่าย จะมีช่องสัญญาณไว้บริการลูกค้าแตกต่างกัน เช่นสถานีตรงจุดนี้ มี 200 ช่อง

อธิบายง่ายๆ คือ ถ้ามี 200 ช่องสัญญาณ จะสามารถรองรับปริมาณการใช้ของ โทรศัพท์มือถือได้เพียง 200 เครื่อง หากมีเครื่องที่เกินมา เช่นเครื่องที่ 201 จะไม่สามารถใช้งานได้

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก งานรับปริญญาตามมหาวิทยาลัย ใหญ่ๆ ในกรุงเทพมหานคร มักประสบปัญหาแบบนี้ เมื่อมีคนไปใช้ โทรศัพท์บริเวณนั้นๆมาก สถานีเครือข่ายรองรับไม่ไหว ส่งผลให้การโทร.เข้าออกเป็นไปด้วยความยากลำบาก

เหตุการณ์ที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ความแรงของคลื่นสึนามิ อาจทำให้ เสาของสถานีเครือข่ายล่ม เครื่องและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในสถานีเครือข่ายมีปัญหา ส่งผลให้ระบบการสื่อสาร ไม่สามารถทำงานได้ดั่งเดิม

โทรศัพท์บ้าน หลักการไม่ได้แตกต่างกับโทรศัพท์มือถือ ตู้ชุมสายหนึ่งอาจจะให้ใช้ 100 คู่สาย พอเกิดเหตุการณ์ขึ้น มีคนโทร.เข้ามามาก ช่องสัญญาณเต็ม

อุปมาง่ายๆ เครือข่ายโทรศัพท์เหมือนสภาพการจราจร ในยามปกติรถวิ่งคล่องตัว แต่หากมีรถมาใช้มาก มีแยกมาก มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น สภาพการจราจรย่อมชะงักลง อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา

สายโทรศัพท์บ้านส่วนใหญ่ มักโยงสายรวมกับเสาไฟฟ้า เมื่อเกิดพายุลมแรง เสาไฟฟ้าล้ม สายโทรศัพท์ขาด แบบนี้การสื่อสารเป็นอันจบกัน

จักรกฤชบอกว่า ควรหาเครือข่ายคู่ขนานสำรองไว้ในพื้นที่ หากเกิดกรณีฉุกเฉิน จะสามารถช่วยกู้สถานการณ์ได้ทันท่วงที

เครือข่ายคู่ขนานที่ต้องเตรียมพร้อมไว้ก็คือ วิทยุสื่อสาร ควรมีสถานีทวนสัญญาณ ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ

กำหนดให้วิทยุรับส่งต่างความถี่ ฟังช่องหนึ่ง ส่งอีกช่องหนึ่ง ระบบนี้จะทำให้วิทยุ ส่งได้ไกลขึ้นมาก จากเดิมเคยส่งได้ 30-40 กิโลเมตร ถ้ามีระบบนี้ ระยะส่งจะได้เป็นร้อยกิโลเมตร

สถานีทวนสัญญาณใช้อุปกรณ์ไม่มาก เวลาเสีย ซ่อมง่าย ใช้เวลาไม่นาน ไฟดับใช้แบตเตอรี่ ทดแทนได้ ถ้ามีสถานีครอบคลุมทั้งประเทศ การตามญาติในภาวะวิกฤติ คงไม่สับสนเช่นที่เกิดขึ้นแล้ว

จักรกฤชย้ำว่า ระบบการสื่อสารแบบนี้ เป็นเครือข่ายที่ควรได้รับการปรับปรุง พร้อมๆกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพราะท้ายที่สุด หากไม่มีทางเลือกในการสื่อสาร เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายๆขึ้น มักจะเกิดวิกฤติติดต่ออะไรไม่ได้เลย

ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ นายมนัส ทรงแสง ประธานคณะทำงาน จัดตั้งศูนย์ประสานงานเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

“ผมพยายามผลักดันเรื่องระบบการสื่อสาร แบบเครือข่ายคู่ขนานมาตลอด”

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนที่เราต้องมาหยุดคิดกันใหม่ ช่วยกันวางแผนในเรื่องของการสื่อสารให้มากขึ้น

เทคโนโลยีใหม่ๆ ในยามที่เกิดปัญหา แก้ไขลำบาก แต่ถ้าเป็นวิทยุสื่อสารมีแบตเตอรี่ มีเสาอากาศ เพียง 2 อย่างนี้ ติดต่อขอความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

เหตุการณ์ที่ชัดเจนก็คือ พังงา บริเวณเขาหลัก การสื่อสารถูกตัดขาด ทุกความช่วยเหลือทุกฝ่ายมุ่งไปที่ภูเก็ต

จนเมื่อสมาชิกนักวิทยุสมัครเล่นในบริเวณเขาหลัก ประสานงานเข้ามา บริเวณนี้เหตุการณ์หนัก คนตายจำนวนมาก หลายฝ่ายจึงเพิ่งได้รับรู้

ข้อสังเกต สถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ และต้องใช้เครือข่ายวิทยุสมัครเล่นเป็นตัวช่วยอย่างนี้ เคยเกิดขึ้นแล้วคราวพายุเกย์ถล่มชายฝั่งทะเลชุมพร

เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมมาก หากรัฐบาลสนับสนุนจะเป็นการผลิตบุคลากรทางการสื่อสารอย่างมีคุณภาพ โดยที่รัฐบาลเสียงบประมาณน้อยมาก

ปัจจุบันนักวิทยุสมัครเล่นยังมีการพัฒนาตามเทคโนโลยี นำเครือข่ายอิน�เตอร์เน็ตมาเชื่อมต่อกับวิทยุ โดยผ่านโปรแกรมเอ็คโค่ลิงค์ ทำให้ติดต่อได้ทั่วโลก

กรณีสึนามิ ข่ายวิทยุสมัครเล่นเพียงข่ายเดียว สามารถถ่ายทอดสัญญาณสดๆจากภูเก็ตออกไปทั่วโลก

นักวิทยุสมัครเล่นและหน่วยกู้ภัยต่างชาติจำนวนมากเข้ามาฟัง เพื่อติดตามสถานการณ์ นักวิทยุสมัครเล่นไทยที่พูดภาษาได้ ช่วยแปลความคืบหน้าให้ทุกระยะ

แต่เอ็คโค่ลิงค์ต้องอาศัยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ถ้าอินเตอร์เน็ตล่ม สายโทรศัพท์ขาด เอ็คโค่ลิงค์ทำงานไม่ได้ ยกเว้นจะใช้อินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม เอ็คโค่ลิงค์จะทำงานได้ตลอด

มนัสย้ำว่า สิ่งที่น่าจะทำที่สุดในตอนนี้ ร่างแผนแม่บทในการประสานงานเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ มีผู้ปฏิบัติ มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ และมีการฝึกซ้อม เหมือนที่ทหารซ้อมรบอยู่เสมอ

นอกจากนั้นควรเริ่มจัดตั้งสถานีทวนสัญญาณให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อการประสานงานขอความช่วยเหลือในยามวิกฤติจะได้เป็นไปอย่างทันท่วงที

ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเปลี่ยนมาใช้ความถี่กลางที่จัดไว้ให้ ทั้งย่าน VHF และ UHF

เหตุการณ์นี้ไม่มีใครมาใช้ ส่งผลให้หน่วยกู้ภัยและทุกหน่วยงานขาด การประสานงานกัน การทำงานจึงเป็นไปแบบต่างคนต่างทำ ไม่มีแผนแม่บทรองรับ

หน่วยกู้ภัยจาก กทม.ใช้ความถี่หนึ่ง หน่วยกู้ภัยจากจังหวัดอื่นใช้อีกความถี่หนึ่ง การประสานงานระหว่างหน่วยไม่มี

ขณะนี้สภาความมั่นคงแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์ประสานงาน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขอเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 555 จาก ทศท ภายในศูนย์ มีเครื่องมือเกี่ยวกับการสื่อสารทุกชนิด มีบุคลากรพร้อม ถ้ามีศูนย์แบบนี้ทุกจังหวัด เกิดเหตุร้าย ศูนย์จะทำหน้าที่เชื่อโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

นับแต่จบเหตุการณ์พายุเกย์ ระบบการสื่อสารของชาติเริ่มขาดคนสนใจ ไม่มีเจ้าภาพ เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้รัฐบาลเห็น ความสำคัญของการสื่อสาร รวมไปถึงร่างแผนรองรับเหตุการณ์ ฉุกเฉินให้ชัดเจน

มนัสทิ้งท้ายว่า...แม้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เทคโนโลยีจะพัฒนาเพียงไร พอเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ วิทยุสมัครเล่นยังกลับมาเป็นพระเอกได้ทุกครั้ง...อยู่ดี.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1